เอเอฟพี - “ทับทิมแทนซาเนีย” หรือ “The Gem of Tanzania” ซึ่งเคยตีมูลค่าเอาไว้ถึง 11 ล้านปอนด์ (ราว 596.75 ล้านบาท) และเป็นทรัพย์สินสำคัญของบริษัทก่อสร้าง “เรคิน คอนสตรัคชัน” แห่งอังกฤษ ที่เพิ่งล้มละลายไป กลับกลายเป็นของแทบไม่มีราคาไปเสียแล้วหลังจากผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ทับทิมแท้
“ทับทิมแทนซาเนีย” เคยถูกจัดว่าเป็นทับทิมราคาแพงที่สุดในโลกชิ้นหนึ่ง เพราะเป็นพลอยแดงที่มีน้ำหนักถึง 2.1 กิโลกรัม แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัทสอบบัญชีเอิร์นส์แอนด์ยังก์ เข้าไปตรวจพิสูจน์พลอยดังกล่าวกลับพบว่ามัน “ไม่ใช่พลอยที่มีคุณภาพพอที่จะนำไปเจียระไนได้”
หนังสือพิมพ์ ดิ อินดีเพนเดนต์ รายงานในวันศุกร์ (2) ว่าผู้เชี่ยวชาญคาดว่า “ทับทิมแทนซาเนีย” เป็นเพียงก้อนแร่อันโยไลต์ขนาดใหญ่ หินแร่ดังกล่าวเป็นทับทิมชนิดที่มีคุณภาพต่ำซึ่งอาจมีมูลค่าแท้จริงเพียงราว 100 ปอนด์ (ราว 5,425 บาท)) เท่านั้น
ส่วนหนังสือพิมพ์ เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ส์ ระบุว่า บริษัทประมูลใหญ่ๆ ต่างปฏิเสธไม่รับหินแร่ดังกล่าว และมีผู้แนะนำให้นำไปเสนอขายในนิตยสาร ร็อคแอนด์เจม ซึ่งเป็นนิตยสารในหมู่ผู้สะสมหินแร่และผู้นิยมใช้คริสตัลในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
ทั้งนี้ นักธุรกิจชาวอังกฤษคนหนึ่งใช้ “ทับทิมแทนซาเนีย” ดังกล่าวเป็นทรัพย์สินในการปรับงบดุลของบริษัทเรคิน คอนสตรัคชันที่เขาซื้อไว้เมื่อปี 2007 โดยเขาได้ซื้อทับทิมปลอมนี้มาจากการซื้อขายที่ดินผืนหนึ่ง
“คณะผู้พิทักษ์ทรัพย์ร่วม กำลังหาทางทำให้ได้ราคาสูงที่สุดจาก ‘ทับทิมแทนซาเนีย’ เพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้” เอียน เบสต์ แห่งเอิร์นส์แอนด์ยังก์ระบุในวันพฤหัสบดี (1)
“ทับทิมแทนซาเนีย” เคยถูกจัดว่าเป็นทับทิมราคาแพงที่สุดในโลกชิ้นหนึ่ง เพราะเป็นพลอยแดงที่มีน้ำหนักถึง 2.1 กิโลกรัม แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัทสอบบัญชีเอิร์นส์แอนด์ยังก์ เข้าไปตรวจพิสูจน์พลอยดังกล่าวกลับพบว่ามัน “ไม่ใช่พลอยที่มีคุณภาพพอที่จะนำไปเจียระไนได้”
หนังสือพิมพ์ ดิ อินดีเพนเดนต์ รายงานในวันศุกร์ (2) ว่าผู้เชี่ยวชาญคาดว่า “ทับทิมแทนซาเนีย” เป็นเพียงก้อนแร่อันโยไลต์ขนาดใหญ่ หินแร่ดังกล่าวเป็นทับทิมชนิดที่มีคุณภาพต่ำซึ่งอาจมีมูลค่าแท้จริงเพียงราว 100 ปอนด์ (ราว 5,425 บาท)) เท่านั้น
ส่วนหนังสือพิมพ์ เดอะ ไฟแนนเชียล ไทม์ส์ ระบุว่า บริษัทประมูลใหญ่ๆ ต่างปฏิเสธไม่รับหินแร่ดังกล่าว และมีผู้แนะนำให้นำไปเสนอขายในนิตยสาร ร็อคแอนด์เจม ซึ่งเป็นนิตยสารในหมู่ผู้สะสมหินแร่และผู้นิยมใช้คริสตัลในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
ทั้งนี้ นักธุรกิจชาวอังกฤษคนหนึ่งใช้ “ทับทิมแทนซาเนีย” ดังกล่าวเป็นทรัพย์สินในการปรับงบดุลของบริษัทเรคิน คอนสตรัคชันที่เขาซื้อไว้เมื่อปี 2007 โดยเขาได้ซื้อทับทิมปลอมนี้มาจากการซื้อขายที่ดินผืนหนึ่ง
“คณะผู้พิทักษ์ทรัพย์ร่วม กำลังหาทางทำให้ได้ราคาสูงที่สุดจาก ‘ทับทิมแทนซาเนีย’ เพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้” เอียน เบสต์ แห่งเอิร์นส์แอนด์ยังก์ระบุในวันพฤหัสบดี (1)
