จากกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ เกี่ยวกับคลิปฉาวว่า มีคนหน้าหล่อ มีพฤติกรรมยิ่งกว่าชู้สาว พร้อมทั้งโยงเข้าหาเรื่องรัฐบาลให้งบ 300 ล้านบาท สนับสนุน TAN YV และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ก็นำมาขยายว่า รัฐบาลชุดนี้สุดท้ายจะตายเพราะคลิป ผู้ชายหล่ออายุ 45
เรื่องนี้ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อให้สังคมมีความเข้าใจว่า ผู้ชายในเรื่องนี้อาจเป็นตัวนายกรัฐมนตรี การปล่อยข่าวลักษณะเช่นนี้เป็นการสร้างความสับสนให้กับสังคม จึงอยากถามว่า ผู้ชายหล่อคนนั้นหมายถึงใครกันแน่ เพราะคนในพรรคประชาธิปัตย์ มีคนหล่อจำนวนมาก จึงขอให้ระบุมาให้ชัดเจน เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นการพูดโดยสนุกปาก ไม่มีข้อเท็จจริง โดยปราศจากหลักฐาน เช่นในอดีตที่ผ่านมา
นายเทพไท กล่าวต่อว่าซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นการแบล็กเมล์ทางการเมือง เพราะเป็นวิธีการที่คนในระบอบทักษิณ มีความเชี่ยวชาญ เช่น กรณีกุข่าวเรื่องคนตายในม็อบสงกรานต์เลือด หรือการทุบรถนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทย รวมถึงการตัดต่อคลิปเสียงของนายกฯ หรือการดักฟังโทรศัพท์ส่วนตัวของกรรมการ ป.ป.ช. ท่านหนึ่งในอดีต ซึ่งเคยนำมาต่อรองทางการเมือง และนำมาเผยแพร่เพื่อดิสเครดิส กรรมการ ป.ป.ช. คนหนึ่ง ซี่งที่สุดสังคมก็รู้ว่า พฤติกรรมของคนเหล่านั้มักจะทำในเรื่องที่ผิดกฏหมาย ละเมิดสิทธิคนอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น
"ขอท้าคนพรรคเพื่อไทย ให้เปิดคลิปนี้ออกมา ขอให้เป็นเรื่องจริง อย่าเอาเรื่องการตัดต่อทำข้อมูลสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะคนที่ถูกพาดพิงได้รับความเสียหาย ก็สามารถใช้สิทธิปกป้องเกียรติยศของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้คนที่มีพฤติกรรมเช่นนนี้ได้เข็ดหลาบบ้าง" นายเทพไท กล่าว
**ท้าเปิดคลิปเดิมพันตำแหน่งส.ส.
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายจตุพร ให้สัมภาษณ์สร้างนิยายเล่าความเท็จไปวันๆ และกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนจำนวน 300 ล้านบาท ให้กับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ช่องภาษาอังกฤษ ตนอยากท้า นายจตุพรในฐานะที่เป็นส.ส.ด้วยกัน ว่ามาเดิมพันตำแหน่งส.ส.กันหรือไม่ เพราะนายจตุพร ชอบพูดเท็จมาตลอด และเป็นกระบอกเสียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยไม่คำนึงถึงจิตวิญญาณความเป็นส.ส. ที่ต้องทำหน้าที่เพื่อปวงชนชาวไทย และยังมีการออกมาพูดทำนองแบล็กเมล์ ที่ว่ามีคลิปเด็ด และพูดกลายๆ หมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตนก็อยากท้านายจตุพร เหมือนกันว่า กล้าเปิดเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และเป็นของจริงหรือไม่
"นายจตุพร เคยไปกราบบิดามารดาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ค่ายทหารใน จ.ชลบุรี ว่าจะไปสู่ขอ แล้วทำไมถึงได้ทิ้งผู้หญิงคนดังกล่าว และผมขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งกับพ่อตา แม่ยาย ยังโกหก ขนาดแม่ คือนางนวม พรหมพันธุ์ มารดานายจตุพรแท้ๆซึ่งปัจจุบันอายุ 80 กว่าปี ตาฝ้าฟาง และเดินไม่ได้ อาศัยอยู่อย่างยากลำบาก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่นายจตุพร ไม่ยอมรับสายจากแม่เลย แม้แต่ครั้งเดียว เพราะนางนวม ได้ขอร้องให้หยุดการโจมตี พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ) มาโดยตลอด แต่นายจตุพร ไม่ฟัง ผมอยากถามว่า คนที่มีวุฒิภาวะเป็นส.ส. แต่มารดาขอร้องกลับไม่ฟัง และไม่รับโทรศัพท์ ไม่เคยโทรศัพท์ด้วย ขนาดแม่ยังไม่รัก และจะมารักประชาชนคนเสื้อแดงได้อย่างไร และวันนี้ที่ทำอยู่ก็เป็นเพียงกระบอกเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงประการเดียว และการที่ทุกครั้งที่นายจตุพร พูดในสภา ไม่เคยคิดจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แม้แต่ครั้งเดียว แต่ปกป้องผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงอย่างเดียว"
**ท้าแฉหลักฐานเงิน 300 ล้านช่วย TAN
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร จะตั้งกระทู้ถามสดรัฐบาล กรณีที่ออกมาเปิดเผยว่าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมภาคภาษาอังกฤษ TAN TV ซึ่งอยู่ในเครือ ASTV ได้รับงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งนำมาจากภาษีของประชาชน ว่า ตนได้สั่งให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบไปทางสำนักงบประมาณอีกครั้ง ซึ่งพบว่า ในงบกลาง ที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้ขอไปทางสำนักงบประมาณนั้น ในการอนุมัติหลักการ พบว่าไม่มีงบสนับสนุนสถานีวิทยุโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายจตุพร พูดมา 2-3 วันแล้ว แต่ไม่มีปัญหา ตนสามารถตอบได้ทุกประเด็น หากนายจตุพร มีหลักฐานสนับสนุนสิ่งที่พูดก็สามารถเปิดเผยได้เต็มที่ และคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ชี้แจงไม่เช่นนั้นก็จะพูดกันไปมาจนเกิดความเสียหายได้
**หวังให้เข้าใจว่ารัฐสนับสนุน พธม.
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนสงสัยว่า เงิน 300 ล้านบาทนั้น ถ้าหมายถึงงบกลางปี 225 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบฟื้นฟู ภาครัฐไม่มีส่วนที่จะไปสนับสนุนโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมได้เลย เพราะงบจำนวนดังกล่าวมีการดำเนินการไปก่อนที่สถานีโทรทัศน์ TAN TV จะดำเนินการ การพูดของนายจตุพร เป็นการพูดคลุมเครือ พูดให้เข้าใจผิด บอกไม่ได้ว่านำเงินจำนวนนั้นไปสนับสนุนอะไร ดังนั้นสาระจึงอยู่ที่นายจตุพร ต้องชี้แจงให้ได้ว่า เอาเงินดังกล่าวไปทำอะไร เพราะตนยังไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีใครรู้ว่าเงินอะไร
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า การออกมากล่าวหารัฐบาลเช่นนี้ เป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่มเสื้อแดง เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาล 2 มาตรฐาน ตั้งใจยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนั้นหากปล่อยให้พูดไปเรื่อยๆ รัฐบาลก็จะเสียหาย
เรื่องนี้ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง และสร้างข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อให้สังคมมีความเข้าใจว่า ผู้ชายในเรื่องนี้อาจเป็นตัวนายกรัฐมนตรี การปล่อยข่าวลักษณะเช่นนี้เป็นการสร้างความสับสนให้กับสังคม จึงอยากถามว่า ผู้ชายหล่อคนนั้นหมายถึงใครกันแน่ เพราะคนในพรรคประชาธิปัตย์ มีคนหล่อจำนวนมาก จึงขอให้ระบุมาให้ชัดเจน เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นการพูดโดยสนุกปาก ไม่มีข้อเท็จจริง โดยปราศจากหลักฐาน เช่นในอดีตที่ผ่านมา
นายเทพไท กล่าวต่อว่าซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นการแบล็กเมล์ทางการเมือง เพราะเป็นวิธีการที่คนในระบอบทักษิณ มีความเชี่ยวชาญ เช่น กรณีกุข่าวเรื่องคนตายในม็อบสงกรานต์เลือด หรือการทุบรถนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทย รวมถึงการตัดต่อคลิปเสียงของนายกฯ หรือการดักฟังโทรศัพท์ส่วนตัวของกรรมการ ป.ป.ช. ท่านหนึ่งในอดีต ซึ่งเคยนำมาต่อรองทางการเมือง และนำมาเผยแพร่เพื่อดิสเครดิส กรรมการ ป.ป.ช. คนหนึ่ง ซี่งที่สุดสังคมก็รู้ว่า พฤติกรรมของคนเหล่านั้มักจะทำในเรื่องที่ผิดกฏหมาย ละเมิดสิทธิคนอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองเท่านั้น
"ขอท้าคนพรรคเพื่อไทย ให้เปิดคลิปนี้ออกมา ขอให้เป็นเรื่องจริง อย่าเอาเรื่องการตัดต่อทำข้อมูลสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง เพราะคนที่ถูกพาดพิงได้รับความเสียหาย ก็สามารถใช้สิทธิปกป้องเกียรติยศของตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้คนที่มีพฤติกรรมเช่นนนี้ได้เข็ดหลาบบ้าง" นายเทพไท กล่าว
**ท้าเปิดคลิปเดิมพันตำแหน่งส.ส.
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายจตุพร ให้สัมภาษณ์สร้างนิยายเล่าความเท็จไปวันๆ และกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนจำนวน 300 ล้านบาท ให้กับสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ช่องภาษาอังกฤษ ตนอยากท้า นายจตุพรในฐานะที่เป็นส.ส.ด้วยกัน ว่ามาเดิมพันตำแหน่งส.ส.กันหรือไม่ เพราะนายจตุพร ชอบพูดเท็จมาตลอด และเป็นกระบอกเสียงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยไม่คำนึงถึงจิตวิญญาณความเป็นส.ส. ที่ต้องทำหน้าที่เพื่อปวงชนชาวไทย และยังมีการออกมาพูดทำนองแบล็กเมล์ ที่ว่ามีคลิปเด็ด และพูดกลายๆ หมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตนก็อยากท้านายจตุพร เหมือนกันว่า กล้าเปิดเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และเป็นของจริงหรือไม่
"นายจตุพร เคยไปกราบบิดามารดาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ค่ายทหารใน จ.ชลบุรี ว่าจะไปสู่ขอ แล้วทำไมถึงได้ทิ้งผู้หญิงคนดังกล่าว และผมขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งกับพ่อตา แม่ยาย ยังโกหก ขนาดแม่ คือนางนวม พรหมพันธุ์ มารดานายจตุพรแท้ๆซึ่งปัจจุบันอายุ 80 กว่าปี ตาฝ้าฟาง และเดินไม่ได้ อาศัยอยู่อย่างยากลำบาก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่นายจตุพร ไม่ยอมรับสายจากแม่เลย แม้แต่ครั้งเดียว เพราะนางนวม ได้ขอร้องให้หยุดการโจมตี พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ) มาโดยตลอด แต่นายจตุพร ไม่ฟัง ผมอยากถามว่า คนที่มีวุฒิภาวะเป็นส.ส. แต่มารดาขอร้องกลับไม่ฟัง และไม่รับโทรศัพท์ ไม่เคยโทรศัพท์ด้วย ขนาดแม่ยังไม่รัก และจะมารักประชาชนคนเสื้อแดงได้อย่างไร และวันนี้ที่ทำอยู่ก็เป็นเพียงกระบอกเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เพียงประการเดียว และการที่ทุกครั้งที่นายจตุพร พูดในสภา ไม่เคยคิดจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แม้แต่ครั้งเดียว แต่ปกป้องผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงอย่างเดียว"
**ท้าแฉหลักฐานเงิน 300 ล้านช่วย TAN
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร จะตั้งกระทู้ถามสดรัฐบาล กรณีที่ออกมาเปิดเผยว่าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมภาคภาษาอังกฤษ TAN TV ซึ่งอยู่ในเครือ ASTV ได้รับงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาท จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งนำมาจากภาษีของประชาชน ว่า ตนได้สั่งให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจสอบไปทางสำนักงบประมาณอีกครั้ง ซึ่งพบว่า ในงบกลาง ที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้ขอไปทางสำนักงบประมาณนั้น ในการอนุมัติหลักการ พบว่าไม่มีงบสนับสนุนสถานีวิทยุโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้นายจตุพร พูดมา 2-3 วันแล้ว แต่ไม่มีปัญหา ตนสามารถตอบได้ทุกประเด็น หากนายจตุพร มีหลักฐานสนับสนุนสิ่งที่พูดก็สามารถเปิดเผยได้เต็มที่ และคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะจะได้ชี้แจงไม่เช่นนั้นก็จะพูดกันไปมาจนเกิดความเสียหายได้
**หวังให้เข้าใจว่ารัฐสนับสนุน พธม.
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนสงสัยว่า เงิน 300 ล้านบาทนั้น ถ้าหมายถึงงบกลางปี 225 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบฟื้นฟู ภาครัฐไม่มีส่วนที่จะไปสนับสนุนโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมได้เลย เพราะงบจำนวนดังกล่าวมีการดำเนินการไปก่อนที่สถานีโทรทัศน์ TAN TV จะดำเนินการ การพูดของนายจตุพร เป็นการพูดคลุมเครือ พูดให้เข้าใจผิด บอกไม่ได้ว่านำเงินจำนวนนั้นไปสนับสนุนอะไร ดังนั้นสาระจึงอยู่ที่นายจตุพร ต้องชี้แจงให้ได้ว่า เอาเงินดังกล่าวไปทำอะไร เพราะตนยังไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีใครรู้ว่าเงินอะไร
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า การออกมากล่าวหารัฐบาลเช่นนี้ เป็นยุทธศาสตร์ของกลุ่มเสื้อแดง เพื่อให้เห็นว่ารัฐบาล 2 มาตรฐาน ตั้งใจยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ ดังนั้นหากปล่อยให้พูดไปเรื่อยๆ รัฐบาลก็จะเสียหาย