ASTVผู้จัดการรายวัน- ย้ายใหญ่ในกระทรวงยุติธรรม เด้ง"ทวี" พ้น DSI ไปนั่งรองปลัด ดัน"ธาริต" เสียบแทน "นัทธี"พ้นกรมราชทัณฑ์ ไปเป็นผู้ตรวจฯ ดึง"ชาติชาย"มานั่งแทน "ภิญโญ" คุม ป.ป.ท.
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวานนี้( 29 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้ดำรงตำแหน่งที่ว่าง และแทนกัน จำนวน 8 รายดังนี้
1. ย้ายนางชูจิรา กองแก้ว ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมบังคับคดี 2. ย้ายนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ 3. ย้ายพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
4. ย้ายนายนัทธี จิตสว่าง ตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 5. ย้ายนายชาตรี ไชยโย ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 6.โอนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 7. โอนนายภิญโญ ทองชัย ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 8.โอนนายชาติชาย สุทธิกลม ตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงการย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นอธิบดี ดีเอสไอ ว่าต้องไปถามรมว.ยุติธรรม เข้าใจว่าเป็นการโยกย้ายปกติประจำปี
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เนื่องจากมีการเดินทางไปพบกันที่ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถามด้วยความสงสัยว่า "กับใคร ใครพบใครครับ"
เมื่อถามว่าเหตุผลในการโยกย้ายเป็นเพราะ พ.ต.อ.ทวี ทำงานไม่เข้าเป้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเป็นการโยกย้ายปกติประจำปี เมื่อถามว่าไม่ได้ย้ายเพราะเป็นเรื่องคดีที่ ดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวๆ
**ยธ.แจงย้าย"ทวี"วาระปกติ
เวลา 15.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการโยกย้ายผู้บริหารระดับอธิบดี ของกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ว่า ในภาพรวมเป็นการโยกย้ายวาระปกติ ไม่ได้ทำเป็นวาระพิเศษ เนื่องจากมีตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ และตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ว่างลง รมว.ยุติธรรม จึงได้พิจารณาว่าจะขับเคลื่อนนโยบายอย่างไร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพราะเข้าไปทำคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่าพ.ต.อ.ทวี มีความสามารถทำงานได้หลายเรื่อง ซึ่งรมว.ยุติธรรม มองเรื่องการสับเปลี่ยน ความเหมาะสมโดย พ.ต.อ.ทวี ก็ทำคดีได้สำเร็จหลายเรื่อง ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการ ป.ป.ท. ที่สลับไปเป็นอธิบดี ดีเอสไอ แทน ก็เคยอยู่ ดีเอสไอ มาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเปลี่ยนอธิบดีดีเอสไอ จะส่งผลให้คดีของ ดีเอสไอเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ละคดีมีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว ซึ่งความรู้สึกส่วนตัวต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ คนใหม่ ตนเห็นว่ารู้จักดีเอสไอ มาเป็นอย่างดี ซึ่งดีเอสไอ จึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก และการเปลี่ยนแปลงของคนในกระบวนการยุติธรรม เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงในแต่ละคดี
ทั้งนี้ จากการหารือกับรมว.ยุติธรรม มีความชัดเจนในทุกเรื่อง เพราะถ้าเลือกคนไม่เหมาะสมอาจมีปัญหาได้ แต่นายธาริต รู้จักคน รู้จักงาน ตั้งใจจะผลักดันงานมาตลอดในบทบาทของเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งพ.ต.อ.ทวี เมื่อได้เข้ามาช่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม อาจจะช่วยกำกับดูแลงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งศูนย์ขึ้น
**"ธาริต"ปลื้มกลับดีเอสไอ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยหลังที่ประชุมครม.ให้ย้ายไปเป็นอธิบดี ดีเอสไอ ว่า ไม่รู้สึกหนักใจในการไปรับตำแหน่งนี้ เนื่องจากตนเคยอยู่ดีเอสไอมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง นานประมาณ 4 ปีเศษ ในตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ โดยจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา
การกลับไปดีเอสไอครั้งนี้ เหมือนกลับไปบ้านเดิม ซึ่งตนรู้จักข้อกฎหมาย วิธีการทำงาน และรู้จักผู้คนในดีเอสไอพอสมควร ทั้งนี้ คิดว่า ดีเอสไอ เป็นหน่วยงานที่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือศรัทธาให้กับประชาชน และหน่วยงานดีเอสไอ เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีความสำคัญ การทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญ และต้องดำรงไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับบุคลากรในกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย ส่วน รมว.ยุติธรรม ก็ได้ให้กำลังใจว่า ขอให้ทำงานอย่างดีที่สุด
"ถ้าคนทำงานรู้สึกว่าไม่มั่นคง ไม่มีความก้าวหน้า อย่างเสมอภาคกัน ก็จะเป็นปัญหาในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน สำหรับอุปสรรคการทำงานคิดว่าไม่มี แต่ปัญหาการทำงานอาจจะมีบ้าง เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไป" นายธาริต กล่าว
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การย้าย พ.ต.อ.ทวี พ้นอธิบดี ดีเอสไอ เพราะ พ.ต.อ.ทวี กำลังดูแลคดีเงิน 258 ล้านบาทที่บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และดูแลการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงด้วย ดังนั้นการทำแบบนี้ ก็เพื่อตัดตอนกระบวนการ ไม่ให้สาวไปถึงพรรคประชาธิปัตย์
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวานนี้( 29 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้ดำรงตำแหน่งที่ว่าง และแทนกัน จำนวน 8 รายดังนี้
1. ย้ายนางชูจิรา กองแก้ว ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมบังคับคดี 2. ย้ายนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ 3. ย้ายพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
4. ย้ายนายนัทธี จิตสว่าง ตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 5. ย้ายนายชาตรี ไชยโย ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง 6.โอนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ 7. โอนนายภิญโญ ทองชัย ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และ 8.โอนนายชาติชาย สุทธิกลม ตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมครม. ถึงการย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พ้นอธิบดี ดีเอสไอ ว่าต้องไปถามรมว.ยุติธรรม เข้าใจว่าเป็นการโยกย้ายปกติประจำปี
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เนื่องจากมีการเดินทางไปพบกันที่ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถามด้วยความสงสัยว่า "กับใคร ใครพบใครครับ"
เมื่อถามว่าเหตุผลในการโยกย้ายเป็นเพราะ พ.ต.อ.ทวี ทำงานไม่เข้าเป้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าเป็นการโยกย้ายปกติประจำปี เมื่อถามว่าไม่ได้ย้ายเพราะเป็นเรื่องคดีที่ ดีเอสไอ เข้าไปตรวจสอบใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวๆ
**ยธ.แจงย้าย"ทวี"วาระปกติ
เวลา 15.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการโยกย้ายผู้บริหารระดับอธิบดี ของกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ว่า ในภาพรวมเป็นการโยกย้ายวาระปกติ ไม่ได้ทำเป็นวาระพิเศษ เนื่องจากมีตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ และตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดี ว่างลง รมว.ยุติธรรม จึงได้พิจารณาว่าจะขับเคลื่อนนโยบายอย่างไร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพราะเข้าไปทำคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่าพ.ต.อ.ทวี มีความสามารถทำงานได้หลายเรื่อง ซึ่งรมว.ยุติธรรม มองเรื่องการสับเปลี่ยน ความเหมาะสมโดย พ.ต.อ.ทวี ก็ทำคดีได้สำเร็จหลายเรื่อง ส่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการ ป.ป.ท. ที่สลับไปเป็นอธิบดี ดีเอสไอ แทน ก็เคยอยู่ ดีเอสไอ มาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อเปลี่ยนอธิบดีดีเอสไอ จะส่งผลให้คดีของ ดีเอสไอเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ละคดีมีคนรับผิดชอบอยู่แล้ว ซึ่งความรู้สึกส่วนตัวต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ คนใหม่ ตนเห็นว่ารู้จักดีเอสไอ มาเป็นอย่างดี ซึ่งดีเอสไอ จึงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาก และการเปลี่ยนแปลงของคนในกระบวนการยุติธรรม เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงในแต่ละคดี
ทั้งนี้ จากการหารือกับรมว.ยุติธรรม มีความชัดเจนในทุกเรื่อง เพราะถ้าเลือกคนไม่เหมาะสมอาจมีปัญหาได้ แต่นายธาริต รู้จักคน รู้จักงาน ตั้งใจจะผลักดันงานมาตลอดในบทบาทของเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งพ.ต.อ.ทวี เมื่อได้เข้ามาช่วยงานในสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม อาจจะช่วยกำกับดูแลงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งศูนย์ขึ้น
**"ธาริต"ปลื้มกลับดีเอสไอ
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยหลังที่ประชุมครม.ให้ย้ายไปเป็นอธิบดี ดีเอสไอ ว่า ไม่รู้สึกหนักใจในการไปรับตำแหน่งนี้ เนื่องจากตนเคยอยู่ดีเอสไอมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง นานประมาณ 4 ปีเศษ ในตำแหน่งรองอธิบดีดีเอสไอ โดยจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา
การกลับไปดีเอสไอครั้งนี้ เหมือนกลับไปบ้านเดิม ซึ่งตนรู้จักข้อกฎหมาย วิธีการทำงาน และรู้จักผู้คนในดีเอสไอพอสมควร ทั้งนี้ คิดว่า ดีเอสไอ เป็นหน่วยงานที่ต้องสร้างความน่าเชื่อถือศรัทธาให้กับประชาชน และหน่วยงานดีเอสไอ เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่มีความสำคัญ การทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญ และต้องดำรงไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับบุคลากรในกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย ส่วน รมว.ยุติธรรม ก็ได้ให้กำลังใจว่า ขอให้ทำงานอย่างดีที่สุด
"ถ้าคนทำงานรู้สึกว่าไม่มั่นคง ไม่มีความก้าวหน้า อย่างเสมอภาคกัน ก็จะเป็นปัญหาในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน สำหรับอุปสรรคการทำงานคิดว่าไม่มี แต่ปัญหาการทำงานอาจจะมีบ้าง เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันไป" นายธาริต กล่าว
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การย้าย พ.ต.อ.ทวี พ้นอธิบดี ดีเอสไอ เพราะ พ.ต.อ.ทวี กำลังดูแลคดีเงิน 258 ล้านบาทที่บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และดูแลการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงด้วย ดังนั้นการทำแบบนี้ ก็เพื่อตัดตอนกระบวนการ ไม่ให้สาวไปถึงพรรคประชาธิปัตย์