ASTVผู้จัดการรายวัน – สำนักพระราชวังแถลงการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระอาการทั่วไปดีขึ้น ไข้ลดต่ำลง การอักเสบของปอดลดลง คณะแพทย์ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและสารอาหารทางหลอดพระโลหิตต่อไป ขณะที่ประชาชนยังคงเดินทางไปลงนามถวายพระพรพรกันอย่างเนืองแน่น
วานนี้(29 ก.ย.) สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 10 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระอาการโดยทั่วไปดีขึ้น พระปรอท(ไข้) ลดต่ำลง การตรวจพระอุระ(อก) ด้วยเครื่องเอกซเรย์พบว่าการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด)ลดลง คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและสารอาหารทางหลอดพระโลหิตต่อไป จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพระที่ศาลา 100 ปี โรงพยาบาลศิริราชนั้น วานนี้(29 ก.ย.) คณะบุคคลทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร และสถาบันต่างๆ ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนจำนวนมาก เดินทางไปลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ได้แก่ ตำรวจจราจรตามโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมรมผู้สูงอายุเขตตลิ่งชัน โรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ ผู้บริการและสมาชิกเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อสม.อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี กองบังคับการตำรวจน้ำ นักเรียนจากโรงเรียนชาลีสมุทร โรงเรียนธันยรัตน์ จังหวัดปทุมธานี นายอุทัย พิมพ์ใจชน ฯลฯ
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารกรรมการผู้จัดการบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังนำคณะทรูอคาเดมีแฟนเทเชียลงนามถวายพระพรว่า ขอให้ในหลวงมีพระอาการดีขึ้น และอยากให้คนไทยรักกันเพื่อในหลวง ส่วนใครที่ไม่สามารถเดินทางมาลงนามถวายพระพรได้ขอให้ตั้งจิตอธิฐานให้พระองค์ทรงหายประชวร
ศ.นพ.ประสพ รัตนากร ประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับตนและครอบครัวอย่างล้นพ้น ก่อนหน้านี้สมัยยังหนุ่มๆ ตนเคยเข้าเฝ้ารับเสด็จฯที่อังกฤษและที่เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอยู่ตอนหนึ่งพระองค์ทรงรับสั่งถามว่า พักอยู่ที่ไหน ตนได้ทูลว่า ยังไม่มีที่อยู่ พระองค์ทรงรับสั่งให้ราชเลขาฯหาที่อยู่ให้ ซึ่งยังคงอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ทั้งนี้ ตนยังได้ติดตามพระอาการทุกวัน โดยจะสอบถามไปยังลูกศิษย์ที่เป็นแพทย์ด้วยความเป็นห่วง ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรนั้นนอกจากจะทำให้พระองค์หายประชวรแล้ว ยังทำให้ประเทศมีความสงบสุขด้วย อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ในหลวงทรงเป็นห่วงประชาชนของพระองค์แค่ไหน ให้ประชาชนลองไตร่ตรองดู และจะทำอะไรขอควรคิดให้มากว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างไร
วานนี้(29 ก.ย.) สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 10 ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า พระอาการโดยทั่วไปดีขึ้น พระปรอท(ไข้) ลดต่ำลง การตรวจพระอุระ(อก) ด้วยเครื่องเอกซเรย์พบว่าการอักเสบของพระปัปผาสะ(ปอด)ลดลง คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและสารอาหารทางหลอดพระโลหิตต่อไป จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
สำหรับบรรยากาศการลงนามถวายพระพระที่ศาลา 100 ปี โรงพยาบาลศิริราชนั้น วานนี้(29 ก.ย.) คณะบุคคลทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร และสถาบันต่างๆ ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนจำนวนมาก เดินทางไปลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ได้แก่ ตำรวจจราจรตามโครงการพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมรมผู้สูงอายุเขตตลิ่งชัน โรงเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ ผู้บริการและสมาชิกเทศบาลตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก อสม.อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี กองบังคับการตำรวจน้ำ นักเรียนจากโรงเรียนชาลีสมุทร โรงเรียนธันยรัตน์ จังหวัดปทุมธานี นายอุทัย พิมพ์ใจชน ฯลฯ
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารกรรมการผู้จัดการบริษัท ทรูวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังนำคณะทรูอคาเดมีแฟนเทเชียลงนามถวายพระพรว่า ขอให้ในหลวงมีพระอาการดีขึ้น และอยากให้คนไทยรักกันเพื่อในหลวง ส่วนใครที่ไม่สามารถเดินทางมาลงนามถวายพระพรได้ขอให้ตั้งจิตอธิฐานให้พระองค์ทรงหายประชวร
ศ.นพ.ประสพ รัตนากร ประธานคณะที่ปรึกษามูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ กล่าวว่า ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับตนและครอบครัวอย่างล้นพ้น ก่อนหน้านี้สมัยยังหนุ่มๆ ตนเคยเข้าเฝ้ารับเสด็จฯที่อังกฤษและที่เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอยู่ตอนหนึ่งพระองค์ทรงรับสั่งถามว่า พักอยู่ที่ไหน ตนได้ทูลว่า ยังไม่มีที่อยู่ พระองค์ทรงรับสั่งให้ราชเลขาฯหาที่อยู่ให้ ซึ่งยังคงอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ทั้งนี้ ตนยังได้ติดตามพระอาการทุกวัน โดยจะสอบถามไปยังลูกศิษย์ที่เป็นแพทย์ด้วยความเป็นห่วง ประชาชนที่มาลงนามถวายพระพรนั้นนอกจากจะทำให้พระองค์หายประชวรแล้ว ยังทำให้ประเทศมีความสงบสุขด้วย อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ในหลวงทรงเป็นห่วงประชาชนของพระองค์แค่ไหน ให้ประชาชนลองไตร่ตรองดู และจะทำอะไรขอควรคิดให้มากว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างไร
