ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ทนายสุวัตร” เผยแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ พร้อมรวมตัวอีกครั้งเพื่อแสดงจุดยืนในการปฏิเสธข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้ายหากถูก “สมยศ” ออกหมายเรียกจริง พร้อมแฉได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ในวงการทหาร ระบุ “หัวหน้า” กลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติที่มุดหัวอยู่ต่างประเทศ ต่อสายตรงสั่งลิ่วล้อในวงการทหารเตรียมฆ่าตนในระยะเวลาอันใกล้นี้
วานนี้ (28 ก.ย.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ “ผู้จัดการออนไลน์” ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งรับผิดชอบในการสอบสวนคดีพันธมิตรฯ บุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ได้เตรียมออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง โดยจะออกหมายเรียกทีละ 4-5 คน และหากการออกหมายเรียกในครั้งนี้ พันธมิตรฯ ยังไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาอีก ทางตำรวจก็จะดำเนินการออกหมายจับทันทีนั้น
นายสุวัตรกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด พล.ต.ท.สมยศ จึงให้สัมภาษณ์ว่าจะออกหมายเรียกทีละ 4-5 คน ทั้งที่จริงแล้วพันธมิตรฯ ที่ถูกตั้งขอกล่าวหาบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ มี 25 คน และบุกรุกสนามบินดอนเมืองมี 27 คน แล้วทำไมจะต้องออกหมายเรียกึครั้งละไม่กี่คนเท่านั้น อีกทั้งในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ทาง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ก็ได้เคยมีการทำหนังสือร้องเรียนถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว ว่าข้อหาดังกล่าวเป็นข้อหาที่เกินจริง เพราะการที่พันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินนั้นเป็นไปตามการเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น มิได้กระทำการก่อการร้ายใดๆ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ออกมา
ตนจึงเชื่อว่าหากในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกพันธมิตรฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อการร้ายจริง แม้จะออกหมายเรียกมาเพียง 4-5 คน แต่แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน และแนวร่วมจำนวนมาก ก็จะเดินทางไปแสดงตน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ตำรวจอีกครั้ง เหมือนดังที่เคยทำมาแล้ว เมื่อครั้งวันที่ 16 ก.ค. ส่วนข้อหาผู้ก่อการร้ายนั้น อย่างไรเสียเราก็ยังคงยืนยันที่จะปฏิเสธต่อไป
นายสุวัตรยังกล่าวถึงเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับตนด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในวงการทหารว่า ขณะนี้ทางหัวหน้าของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งตอนนี้กบดานอยู่ในต่างประเทศ ได้โทรศัพท์มาสั่งการลิ่วล้อที่อยู่ในวงการทหาร ให้เตรียมลงมือฆ่าตนในเร็วๆ นี้ โดยวิธีการนั้นก็ให้ลงมือในช่วงเวลาใกล้เช้า คล้ายกับกรณีการลอบฆ่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะคาดการณ์ได้ว่าสาเหตุที่กลุ่มคนชั่วกลุ่มนี้ต้องการเอาชีวิตตน น่าจะมาจากการที่ตนเป็นทนายความให้กับพันธมิตรฯ แต่ตนก็ยังยืนยันในเจตนารมณ์เดิมที่จะสู้เพื่อรักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง.
วานนี้ (28 ก.ย.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ “ผู้จัดการออนไลน์” ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ซึ่งรับผิดชอบในการสอบสวนคดีพันธมิตรฯ บุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ได้เตรียมออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ อีกครั้งหนึ่ง โดยจะออกหมายเรียกทีละ 4-5 คน และหากการออกหมายเรียกในครั้งนี้ พันธมิตรฯ ยังไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาอีก ทางตำรวจก็จะดำเนินการออกหมายจับทันทีนั้น
นายสุวัตรกล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด พล.ต.ท.สมยศ จึงให้สัมภาษณ์ว่าจะออกหมายเรียกทีละ 4-5 คน ทั้งที่จริงแล้วพันธมิตรฯ ที่ถูกตั้งขอกล่าวหาบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิ มี 25 คน และบุกรุกสนามบินดอนเมืองมี 27 คน แล้วทำไมจะต้องออกหมายเรียกึครั้งละไม่กี่คนเท่านั้น อีกทั้งในส่วนของการแจ้งข้อกล่าวหานั้น ทาง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ก็ได้เคยมีการทำหนังสือร้องเรียนถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว ว่าข้อหาดังกล่าวเป็นข้อหาที่เกินจริง เพราะการที่พันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินนั้นเป็นไปตามการเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น มิได้กระทำการก่อการร้ายใดๆ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ออกมา
ตนจึงเชื่อว่าหากในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกพันธมิตรฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อการร้ายจริง แม้จะออกหมายเรียกมาเพียง 4-5 คน แต่แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน และแนวร่วมจำนวนมาก ก็จะเดินทางไปแสดงตน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ตำรวจอีกครั้ง เหมือนดังที่เคยทำมาแล้ว เมื่อครั้งวันที่ 16 ก.ค. ส่วนข้อหาผู้ก่อการร้ายนั้น อย่างไรเสียเราก็ยังคงยืนยันที่จะปฏิเสธต่อไป
นายสุวัตรยังกล่าวถึงเหตุการณ์หนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับตนด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในวงการทหารว่า ขณะนี้ทางหัวหน้าของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งตอนนี้กบดานอยู่ในต่างประเทศ ได้โทรศัพท์มาสั่งการลิ่วล้อที่อยู่ในวงการทหาร ให้เตรียมลงมือฆ่าตนในเร็วๆ นี้ โดยวิธีการนั้นก็ให้ลงมือในช่วงเวลาใกล้เช้า คล้ายกับกรณีการลอบฆ่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะคาดการณ์ได้ว่าสาเหตุที่กลุ่มคนชั่วกลุ่มนี้ต้องการเอาชีวิตตน น่าจะมาจากการที่ตนเป็นทนายความให้กับพันธมิตรฯ แต่ตนก็ยังยืนยันในเจตนารมณ์เดิมที่จะสู้เพื่อรักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง.