ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา(สบ10)ได้มีหนังสือชี้แจงกรณีที่มีข่าวปรากฏทางสื่อมวลชนว่า ในการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจของคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง คุณสมบัติรายชื่อข้าราชการตำรวจ หรือบอร์ดกลั่นกรอง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา
เพื่อนำมติที่ประชุมเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณาแต่งตั้งในช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.ย.2552 ซึ่งได้มีการกล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) เทียบเท่าตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพื่อปรับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น รอง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งครองอยู่ว่า ไม่สามารถแต่งตั้งให้ดำรงในตำแหน่งหลัก “รอง ผบ.ตร.” ได้ เนื่องจากเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวหากแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรฯ เป็น รอง ผบ.ตร. แล้ว จะต้องยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ10) ไปด้วย มีข้อเท็จจริงและความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
โดยการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2552 เมื่อ 6 มี.ค.2552 มีมติ อนุมัติกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมให้กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ (1) ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) (2) ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านป้องกันปราบปราม) ในการกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาความจำเป็นในการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ และ ด้านป้องกันปราบปราม โดย ให้กำหนดตำแหน่งดังกล่าวเป็นการเฉพาะคราว เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากตำแหน่งไป ให้เสนอ ก.ตร.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง หากยังมีความจำเป็นให้สามารถแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งได้ แต่หากหมดความจำเป็นก็ให้ยุบเลิกตำแหน่งดังกล่าวเสีย
สำหรับการประชุม ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2552 เมื่อ 11 มี.ค.2552 มีมติให้ความเห็นชอบการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) จำนวน 1 ตำแหน่ง และที่ปรึกษา (สบ 10)(ด้านการป้องกันปราบปราม) จำนวน 1 ตำแหน่ง ตามมติการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2552 (6 มี.ค.2552) เสนอ
การประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2552 เมื่อ 19 มี.ค.2552 ได้พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ จำนวน 16 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงการเห็นชอบพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. เป็นที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ที่ปรึกษา (สบ.10) และ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรอง ผบ.ตร. โดยตำแหน่งที่ปรึกษาทั้งสองตำแหน่งนี้ เป็นตำแหน่งที่เปิดขึ้นใหม่ตามมติ ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2552
กรณีการกล่าวถึงการแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร ฯ จากตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็น “รอง ผบ.ตร.” ตำแหน่งหลัก ทำให้ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียรฯ ครองอยู่จะต้องถูกยุบเลิกไป จึงเป็นเพียงข้ออ้างที่จะใช้ในการกีดกันมิให้ พล.ต.อ.วิเชียรฯ ได้รับการปรับย้ายเข้าสู่ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถดำเนินการให้คงตำแหน่งดังกล่าวต่อไป และแต่งตั้งบุคคลอื่นมาดำรงตำแหน่งแทน พล.ต.อ.วิเชียรฯ ได้ รวมทั้งสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ และที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านป้องกันปราบปราม เป็นตำแหน่งถาวรได้
**"วิเชียร"ยันนั่งตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้
ในปี 2551 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เคยมีการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่ง ตามมติการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2551 เมื่อ 20 สิงหาคม 2552 ภายใต้ความเห็นชอบ ของ ก.ต.ช. ให้ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) (ด้านความมั่นคง) จากตำแหน่งเฉพาะตัวและเป็นตำแหน่งชั่วคราว เป็นตำแหน่งถาวร ซึ่งต่อมามีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ปรึกษา (สบ10) ผู้ที่ครองตำแหน่งดังกล่าวเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น “รอง ผบ.ตร.” ในเวลาต่อมา
สรุปคือสามารถแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร เข้าดำรงตำแหน่ง รอง.ผบ.ตร.ได้ โดยไม่ต้องยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ.10 ฝ่ายความมั่นคง เพราะเป็นตำแหน่งที่ยังมีงานต้องดำเนินการอยู่ทั้งการดูแลการชุมนุมต่างๆที่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้งในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นและระดับชาติ แต่หากจะยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ.10 ฝ่ายความมั่นคง คณะกรรมการ ก.ตร.ต้องมีมติแล้วนำเรื่อง เสนอคณะกรรมการนโยบายตำรวตแห่งชาติ (ก.ตช.)เพื่อเห็นชอบต่อไป
ท้าย หนังสือยังระบุอีกว่าหากเรื่องนี้มีการนำข้อมูลที่คาดเคลื่อนเสนอให้คณะ กรรมการ ก.ตร.ซึ่งถือว่าเป็นกระทำที่มีความผิด ซึ่งอาจจะต้องดำเนินคดีอาญาได้.
เพื่อนำมติที่ประชุมเข้าที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณาแต่งตั้งในช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.ย.2552 ซึ่งได้มีการกล่าวถึงการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) เทียบเท่าตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพื่อปรับเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น รอง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่งครองอยู่ว่า ไม่สามารถแต่งตั้งให้ดำรงในตำแหน่งหลัก “รอง ผบ.ตร.” ได้ เนื่องจากเป็นตำแหน่งเฉพาะตัวหากแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียรฯ เป็น รอง ผบ.ตร. แล้ว จะต้องยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ10) ไปด้วย มีข้อเท็จจริงและความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
โดยการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2552 เมื่อ 6 มี.ค.2552 มีมติ อนุมัติกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมให้กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 2 ตำแหน่ง คือ (1) ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) (2) ที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านป้องกันปราบปราม) ในการกำหนดตำแหน่งเพิ่มเติมดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาความจำเป็นในการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ และ ด้านป้องกันปราบปราม โดย ให้กำหนดตำแหน่งดังกล่าวเป็นการเฉพาะคราว เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งพ้นจากตำแหน่งไป ให้เสนอ ก.ตร.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง หากยังมีความจำเป็นให้สามารถแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งได้ แต่หากหมดความจำเป็นก็ให้ยุบเลิกตำแหน่งดังกล่าวเสีย
สำหรับการประชุม ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2552 เมื่อ 11 มี.ค.2552 มีมติให้ความเห็นชอบการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) (ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ) จำนวน 1 ตำแหน่ง และที่ปรึกษา (สบ 10)(ด้านการป้องกันปราบปราม) จำนวน 1 ตำแหน่ง ตามมติการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 4/2552 (6 มี.ค.2552) เสนอ
การประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2552 เมื่อ 19 มี.ค.2552 ได้พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ จำนวน 16 ตำแหน่ง ซึ่งรวมถึงการเห็นชอบพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร. เป็นที่ปรึกษา(สบ.10) พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น ที่ปรึกษา (สบ.10) และ พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรอง ผบ.ตร. โดยตำแหน่งที่ปรึกษาทั้งสองตำแหน่งนี้ เป็นตำแหน่งที่เปิดขึ้นใหม่ตามมติ ก.ต.ช. ครั้งที่ 1/2552
กรณีการกล่าวถึงการแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร ฯ จากตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ เป็น “รอง ผบ.ตร.” ตำแหน่งหลัก ทำให้ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียรฯ ครองอยู่จะต้องถูกยุบเลิกไป จึงเป็นเพียงข้ออ้างที่จะใช้ในการกีดกันมิให้ พล.ต.อ.วิเชียรฯ ได้รับการปรับย้ายเข้าสู่ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถดำเนินการให้คงตำแหน่งดังกล่าวต่อไป และแต่งตั้งบุคคลอื่นมาดำรงตำแหน่งแทน พล.ต.อ.วิเชียรฯ ได้ รวมทั้งสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ และที่ปรึกษา(สบ 10) ด้านป้องกันปราบปราม เป็นตำแหน่งถาวรได้
**"วิเชียร"ยันนั่งตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ได้
ในปี 2551 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เคยมีการเปลี่ยนแปลงการกำหนดตำแหน่ง ตามมติการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2551 เมื่อ 20 สิงหาคม 2552 ภายใต้ความเห็นชอบ ของ ก.ต.ช. ให้ตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ10) (ด้านความมั่นคง) จากตำแหน่งเฉพาะตัวและเป็นตำแหน่งชั่วคราว เป็นตำแหน่งถาวร ซึ่งต่อมามีการแต่งตั้ง พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ที่ปรึกษา (สบ10) ผู้ที่ครองตำแหน่งดังกล่าวเข้าสู่ตำแหน่งหลักเป็น “รอง ผบ.ตร.” ในเวลาต่อมา
สรุปคือสามารถแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร เข้าดำรงตำแหน่ง รอง.ผบ.ตร.ได้ โดยไม่ต้องยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ.10 ฝ่ายความมั่นคง เพราะเป็นตำแหน่งที่ยังมีงานต้องดำเนินการอยู่ทั้งการดูแลการชุมนุมต่างๆที่ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้งในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่นและระดับชาติ แต่หากจะยุบตำแหน่ง ที่ปรึกษา สบ.10 ฝ่ายความมั่นคง คณะกรรมการ ก.ตร.ต้องมีมติแล้วนำเรื่อง เสนอคณะกรรมการนโยบายตำรวตแห่งชาติ (ก.ตช.)เพื่อเห็นชอบต่อไป
ท้าย หนังสือยังระบุอีกว่าหากเรื่องนี้มีการนำข้อมูลที่คาดเคลื่อนเสนอให้คณะ กรรมการ ก.ตร.ซึ่งถือว่าเป็นกระทำที่มีความผิด ซึ่งอาจจะต้องดำเนินคดีอาญาได้.