ตาก - สภาพัฒน์เตรียมชงข้อมูลศักยภาพแม่สอด-เมียวดี เสนอที่ปรึกษานายกฯ สัปดาห์นี้ ก่อนพิจารณาผลักดันแผนยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า นางนิตยา กมลวัทนนิศา ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน พร้อมคณะนักวิเคราะห์นโยบายและแผนผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งเป็นคณะทำงานของคณะคณะอนุกรรมการการพัฒนารูปแบบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.)ในลักษณะเครือข่ายหรือกลุ่มพื้นที่และรูปแบบการจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่พิเศษ ซึ่งมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อม นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด ผู้แทนหอการค้าจังหวัดตาก สภาอุตสาหกรรมตาก ได้เดินทาง ไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดี (Myawaddy Trade Zone) ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดเมียวดี ไปทางตะวันตก ประมาณ 11 กิโลเมตร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อศึกษาข้อมูลการค้าเปรียบเทียบการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ การลงทุน การค้าชายแดน การพาณิชย์ ระบบการคมนาคม ขนส่ง ลอจิสติกส์ สินค้าผ่านแดน แรงงานต่างด้าวและความเชื่อมโยงระหว่างชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้เป็นเมืองคู่แฝดในการเตรียมการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” ตามนโยบายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ที่จะผลักดันยกฐานะแม่สอด เป็นท้องถิ่นพิเศษ หรือพื้นที่ให้บริการสาธารณะพิเศษชายแดน “นครแม่สอด”
นอกจากนี้ คณะของ สภาพัฒน์ ยังได้เดินทางมาศึกษาที่จังหวัดเมียวดี เพื่อดูสภาพเศรษฐกิจ วิถีชีวิตและเส้นทางการค้า ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ระหว่างแม่สอด-เมียวดีและ Myawaddy Trade Zone โดยมีนางมะติ่นติ่น ประธานหอการค้าจังหวัดเมียวดี ให้การต้อนรับ
นางนิตยา กล่าวว่า ก่อนที่จะยกฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” จะต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนว่าความเป็นพิเศษของท้องถิ่นที่นี่จะต้องมีศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน การจัดระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และการกำหนดยุทธศาสตร์กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน ฯลฯ โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดในการเดินทางมาศึกษาเสนอต่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าที่จากสภาพัฒน์ ยังได้เดินทางไปดูสภาพความชำรุดของสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าผ่านแดนทางรถบรรทุกได้อย่างเต็มที่ส่งผลกระทบทำให้พ่อค้า-ผู้ประกอบการ ต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า และการขนถ่ายหลายขั้นตอน
ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขซ่อมแซม หรือให้เกิดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 2 จะเพิ่มศักยภาพทางการขนส่งสินค้าได้รวดเร็วและมากขึ้น จากนั้นได้เดินทางไปดูบริเวณโรงสูบน้ำการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อสนับสนุนงบประมาณในการสร้างประปาระบบใหม่ และยังได้เดินทางไปดูงานตามโรงงานอุตสาหกรรมที่ประกอบกิจการในหลากหลายรูปแบบ
รายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า นางนิตยา กมลวัทนนิศา ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน พร้อมคณะนักวิเคราะห์นโยบายและแผนผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งเป็นคณะทำงานของคณะคณะอนุกรรมการการพัฒนารูปแบบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองท้องถิ่น(อปท.)ในลักษณะเครือข่ายหรือกลุ่มพื้นที่และรูปแบบการจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่พิเศษ ซึ่งมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อม นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด ผู้แทนหอการค้าจังหวัดตาก สภาอุตสาหกรรมตาก ได้เดินทาง ไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดี (Myawaddy Trade Zone) ซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดเมียวดี ไปทางตะวันตก ประมาณ 11 กิโลเมตร เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อศึกษาข้อมูลการค้าเปรียบเทียบการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ การลงทุน การค้าชายแดน การพาณิชย์ ระบบการคมนาคม ขนส่ง ลอจิสติกส์ สินค้าผ่านแดน แรงงานต่างด้าวและความเชื่อมโยงระหว่างชายแดนไทย-พม่า เพื่อให้เป็นเมืองคู่แฝดในการเตรียมการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” ตามนโยบายของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาล ที่จะผลักดันยกฐานะแม่สอด เป็นท้องถิ่นพิเศษ หรือพื้นที่ให้บริการสาธารณะพิเศษชายแดน “นครแม่สอด”
นอกจากนี้ คณะของ สภาพัฒน์ ยังได้เดินทางมาศึกษาที่จังหวัดเมียวดี เพื่อดูสภาพเศรษฐกิจ วิถีชีวิตและเส้นทางการค้า ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ ระหว่างแม่สอด-เมียวดีและ Myawaddy Trade Zone โดยมีนางมะติ่นติ่น ประธานหอการค้าจังหวัดเมียวดี ให้การต้อนรับ
นางนิตยา กล่าวว่า ก่อนที่จะยกฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” จะต้องมีการศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนว่าความเป็นพิเศษของท้องถิ่นที่นี่จะต้องมีศักยภาพทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน การจัดระบบบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว และการกำหนดยุทธศาสตร์กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกัน ฯลฯ โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดในการเดินทางมาศึกษาเสนอต่อ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะเจ้าหน้าที่จากสภาพัฒน์ ยังได้เดินทางไปดูสภาพความชำรุดของสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ที่เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าผ่านแดนทางรถบรรทุกได้อย่างเต็มที่ส่งผลกระทบทำให้พ่อค้า-ผู้ประกอบการ ต้องเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า และการขนถ่ายหลายขั้นตอน
ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขซ่อมแซม หรือให้เกิดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯแห่งที่ 2 จะเพิ่มศักยภาพทางการขนส่งสินค้าได้รวดเร็วและมากขึ้น จากนั้นได้เดินทางไปดูบริเวณโรงสูบน้ำการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อสนับสนุนงบประมาณในการสร้างประปาระบบใหม่ และยังได้เดินทางไปดูงานตามโรงงานอุตสาหกรรมที่ประกอบกิจการในหลากหลายรูปแบบ
