นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าการที่คณะกรรมการ บริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีมติขับส.ข. ผู้ช่วย ส.ส. และสมาชิกพรรค 4 คน ออกจาก การเป็นสมาชิกพรรคหลังตรวจสอบพบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต โครงการชุมชนพอเพียง พรรคเพื่อไทยเห็นว่ายังไม่เพียงพอเพราะประชาชนได้รับความเสียหายแล้ว ในหลายชุมชน ทั่วประเทศ
ดังนั้นตนและผู้ที่ได้รับความเสียหายจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้โดยตรง จำนวน3 คน ได้แก่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผอ.โครงการฯและนายประโภชฌ์ สภาวสุ รองผอ.โครงการฯ ซึ่งเป็น ผู้มีส่วนอนุมัติโครงการฯ รวมไปถึงมีการจัดซื้อจัดจ้าง อุปกรณ์ ในวันที่ 7 ก.ย. นี้ เวลา 09.30น. นี้ ที่กองปราบ และ ดีเอสไอ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คณะทำงานของพรรคได้ลงพื้นที่หมู่บ้านบางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็พบปัญหา เนื่องจากชาวบ้านอยากได้ประปาหมู่บ้าน แต่กลับได้รับตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ข้าราชการบางคนใน จ.ลพบุรี ยังมีพฤติกรรมหลอกหลวง ทำตัวเหมือนเป็นนายหน้า บอกกับชาวบ้านว่า ถ้าไม่รีบรับก็จะไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้ชาวบ้านต้องจำใจยอมรับตู้น้ำแทนประปาหมู่บ้าน ซึ่งตรงนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งในความไม่ชอบมาพากลของ โครงการชุมชนโคตรแพง
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส. พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติขับสมาชิกพรรค 4 คนออก เพราะมีส่วนเกี่ยวข้อง ทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงเพราะ พรรคถือว่า 4 คน นี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่มีการสั่งการของพรรคประชาธิปัตย์หรือรัฐมนตรีคนใด
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยโจมตีสินค้าชุมชนพอเพียงเป็นสินค้ามือ 2 เช่น รถนวดข่าว รถอีแต๋น มาพ้นสีทำใหม่ และขายในราคาแพงนั้น ไม่อยากให้ พรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนสับสนเพราะสิทธิ์ในการซื้อขายในการตัดสินใจทั้งเป็นของคณะกรรมการชุมชุน พรรคเพื่อไทยเล่นการเมืองอย่างนี้ มีเจตนาทำลายชุมชุน ขอย้ำว่าการซื้อข่าวสินค้าดังกล่าวเป็นเรื่องของชุมชน ดังนั้น หากอยากให้ชุมชนเข้มแข็ง ต้องรณรงค์ให้ประชาชน ตรวจสอบคณะกรรมการชุมชุนมากกว่า แต่พรรคเพื่อไทย เจตนาจะชี้ให้เห็น ตลอดว่า เป็นการทุจริตโดยรัฐบาล โดยกระบวนการในสภาก็มีอยู่ ขอให้พรรคเพื่อไทย อภิปรายในสภาว่ารัฐมนตรีคนไหนสั่งการเพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง ไม่ใช่เดินเกมแบบม้าเลียบค่ายอย่างนี้ จึงขอให้พรรคเพื่อไทยอย่าหวังผลทางการเมือง มากเป็นไป
น.พ.วรงค์ กล่าวว่ากรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่าการขับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกนั้นเป็นแค่ ปลาซิวปลาสร้อย ยืนยันว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลที่ไม่พบ ความผิดไปถึงรัฐมนตรี ขณะที่พรรคเพื่อไทยครั้งที่เป็นรัฐบาล ในโครงการ 1เอสเอ็มแอล ท่าพบความผิดไปที่รัฐมนตรีชัดเจนแต่ไม่ดำเนินการอะไร ทั้งที่ไปเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยที่ไปดำเนินการกว่าร้อยหมู่บ้าน
ดังนั้นตนและผู้ที่ได้รับความเสียหายจะไปร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้โดยตรง จำนวน3 คน ได้แก่ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผอ.โครงการฯและนายประโภชฌ์ สภาวสุ รองผอ.โครงการฯ ซึ่งเป็น ผู้มีส่วนอนุมัติโครงการฯ รวมไปถึงมีการจัดซื้อจัดจ้าง อุปกรณ์ ในวันที่ 7 ก.ย. นี้ เวลา 09.30น. นี้ ที่กองปราบ และ ดีเอสไอ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า คณะทำงานของพรรคได้ลงพื้นที่หมู่บ้านบางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็พบปัญหา เนื่องจากชาวบ้านอยากได้ประปาหมู่บ้าน แต่กลับได้รับตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ข้าราชการบางคนใน จ.ลพบุรี ยังมีพฤติกรรมหลอกหลวง ทำตัวเหมือนเป็นนายหน้า บอกกับชาวบ้านว่า ถ้าไม่รีบรับก็จะไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้ชาวบ้านต้องจำใจยอมรับตู้น้ำแทนประปาหมู่บ้าน ซึ่งตรงนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งในความไม่ชอบมาพากลของ โครงการชุมชนโคตรแพง
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส. พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติขับสมาชิกพรรค 4 คนออก เพราะมีส่วนเกี่ยวข้อง ทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงเพราะ พรรคถือว่า 4 คน นี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่มีการสั่งการของพรรคประชาธิปัตย์หรือรัฐมนตรีคนใด
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยโจมตีสินค้าชุมชนพอเพียงเป็นสินค้ามือ 2 เช่น รถนวดข่าว รถอีแต๋น มาพ้นสีทำใหม่ และขายในราคาแพงนั้น ไม่อยากให้ พรรคเพื่อไทยทำให้ประชาชนสับสนเพราะสิทธิ์ในการซื้อขายในการตัดสินใจทั้งเป็นของคณะกรรมการชุมชุน พรรคเพื่อไทยเล่นการเมืองอย่างนี้ มีเจตนาทำลายชุมชุน ขอย้ำว่าการซื้อข่าวสินค้าดังกล่าวเป็นเรื่องของชุมชน ดังนั้น หากอยากให้ชุมชนเข้มแข็ง ต้องรณรงค์ให้ประชาชน ตรวจสอบคณะกรรมการชุมชุนมากกว่า แต่พรรคเพื่อไทย เจตนาจะชี้ให้เห็น ตลอดว่า เป็นการทุจริตโดยรัฐบาล โดยกระบวนการในสภาก็มีอยู่ ขอให้พรรคเพื่อไทย อภิปรายในสภาว่ารัฐมนตรีคนไหนสั่งการเพราะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง ไม่ใช่เดินเกมแบบม้าเลียบค่ายอย่างนี้ จึงขอให้พรรคเพื่อไทยอย่าหวังผลทางการเมือง มากเป็นไป
น.พ.วรงค์ กล่าวว่ากรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่าการขับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกนั้นเป็นแค่ ปลาซิวปลาสร้อย ยืนยันว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลที่ไม่พบ ความผิดไปถึงรัฐมนตรี ขณะที่พรรคเพื่อไทยครั้งที่เป็นรัฐบาล ในโครงการ 1เอสเอ็มแอล ท่าพบความผิดไปที่รัฐมนตรีชัดเจนแต่ไม่ดำเนินการอะไร ทั้งที่ไปเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยที่ไปดำเนินการกว่าร้อยหมู่บ้าน
