ASTVผู้จัดการรายวัน – “สาทิตย์” สั่งปลดผอ.ช่อง11กลางอากาศย้ายไปอยู่เขต 5 หลังทำรัฐบาลขายขี้หน้า ระบบการออกอากาศ รายการ“เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธ์” ขัดข้อง พร้อมส่ง “รัตนา เจริญศักดิ์” ผอ.สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5 สุราษฎร์เสียบมีผลบังคับใช้ทันทีภายในวานนี้ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งย้ายนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ให้ย้ายไปประจำตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมแต่งตั้งให้นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง
11แทน โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีหลัง ทำหนังสือเรียบร้อย ภายในวานนี้
“ช่วงเช้าวานนี้ (24 ส.ค.) ได้ปรึกษากับนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กับกรณีปัญหาการออกอากาศสดของรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธ์” ที่เกิดขัดข้อง และไม่สามารถออกอากาศได้ตามเวลาที่กำหนด ของทางช่อง 11หรือ สทท. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางกรมประชาสัมพันธ์ถือเป็นหน่วยงานที่ดูแลช่อง 11โดยตรง และปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะช่อง11 ถือเป็นช่องของรัฐบาล การที่มีการทำงานที่ผิดพลาดจึงไม่ควรเกิดขึ้น จึงได้สั่งย้ายนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะต้องทำงานให้เรียบร้อยภายใน 7 วันนับจากนี้ ซึ่งนอกจากต้องหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องหาแนวทางเสนอแนะเข้ามาด้วยว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งต่อไป ควรจะมีทางออกและแก้ไขกันอย่างไร
ขณะที่ในส่วนของทีมงานที่ดูแลและผลิตรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย
กับนายกฯอภิสิทธ์” ซึ่งแบ่งออกเป็น 2ชุด คือ ทีมผู้ดูแลเรื่องคอนเท้นท์ที่จะนำเสนอ ดูแลโดยรัฐบาล และทีมฝ่ายอออากาศ ซึ่งอยู่ในการทำงานของช่อง 11แน่นอนว่าทีมงานในส่วนนี้ จะต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นอาจจะต้องเปลี่ยนทีมงานในส่วนนี้ทั้งหมดด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะถูกวางยา หรือถ้าถูกวางยาจริง ตนก็พร้อมที่จะหาตัวผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด
การที่มีการปลดผอ.ช่อง 11 ลงในครั้งนี้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะในความเป็นจริงรัฐบาลก็ได้ให้โอกาสช่อง11 ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ และความผิดพลาดครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สองแล้ว ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยจากความผิดพลาดของการออกอากาศสด ในรายการ รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธ์” ก็ได้มีการปรึกษาหารือและวางแนวทางแก้ใขให้ทันท่วงทีหากเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก แต่ปรากฏว่า ความผิดพลาดในครั้งที่สองนี้ ทั้งที่ไม่สามารถออกอากาศได้ แต่ก็ไม่มีมาตรการมาแก้ไข อย่างที่เคยวางแผนกันไว้ ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดอย่างมาก
ส่วนการแต่งตั้งให้นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ขึ้นมารับตำแหน่งแทนนั้น เพราะพบว่าเป็นคนมีความสามารถ และเคยบริหารงานด้านโทรทัศน์มาแล้วกว่า 17 ปี ไม่ว่าจะเป็น การดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ในส่วนภูมิภาคในจังหวัดอุบลราชธานี และขอนแก่น จนกระทั่งมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปัจจุบัน
นายสาทิตย์กล่าวด้วยว่า หลังหนังสือที่ลงนามสั่งย้ายมีผลบังคับใช้แล้ว เบื้องต้นหน้าที่ของ ผอ.ช่อง11 จะต้องมีการจัดการภายในใหม่ เพราะโดยรวมแล้ว ช่อง11ยังมีข้อบกพร่องอยู่อีกหลายด้าน ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ช่อง11เป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีระบบการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีความน่าเชื่อถือ สมกับเป็นสื่อของรัฐบาล
ต้องไปดูการบริหารจัดการภายในช่อง11 ว่า มีปัญหาอะไรอย่างไร เพราะคิดว่ายังคงมีอีกหลายเรื่อง ฉะนั้นการจัดการในช่อง11ในขณะนี้คงต้องทำด้วยความรวดเร็ว
“ความจริงแล้วเราได้ให้โอกาสนายสุริยงทำงานมาตลอด 6-7 เดือนแล้วตั้งแต่เริ่มรัฐบาลใหม่ ซึ่งตนก็ทราบว่านายสุริยงมีความตั้งใจ แต่การทำงานเมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่มีข้อผิดพลาดก็น่าจะต้องยอมรับข้อผิดพลาดนั้นและภายหลังตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วก็จะต้องมาดูว่าเป็นอย่างไร จึงค่อยตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง และ หลังจากที่ได้พูดคุยกับอธิบดีและรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและภาพพจน์ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้เพราะถือว่าช่อง11เป็นตัวหลักในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ภาครัฐ หากไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ก็ถือว่าสร้างความเสียหายก็ต้องจัดการทันที” นายสาทิตย์ย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะชี้แจงอย่างไรเพราะคนเห็นว่าเป็นพิษการเมือง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะถ้าเป็นพิษการเมืองมาวันแรกก็ต้องเด้งแล้วและตนพุดตั้งแต่วันแรกตั้งแต่มาเป็นรัฐมนตรีแล้วว่าไม่คิดจะย้ายใคร ต่อข้อถามแสดงว่า ผอ.ช่อง 11 ชี้แจงไม่เคลียร์ ถึงต้องเปลี่ยนแปลง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสอบข้อเท็จจริง คนที่เกี่ยวข้องก็ควรที่จะออกไปก่อน เพราะให้กระบวนการสอบข้อเท็จจริงทำได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และเป็นโอกาสปรับปรุงการบริหารจัดการภายในช่อง 11 ด้วย
เมื่อถามว่า การสั่งย้ายนายสุริยงค์ เป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง และเป็นไปตามข้อเสนอของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีเป้าหมายให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานให้เกิดความเหมาะสม เพราะเป้าหมายเหนือสิ่งอื่นใด จะต้องให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นที่น่าเชื่อถือของพี่น้องประชาชน หากตั้งคำถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานพระราชพิธีจะทำอย่างไร ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม และเชื่อว่าตัวนายสุริยงเอง ก็จะเข้าใจ
ด้านนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ตนเดินทางมาปฏิบัติราชการอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ยังไม่ทราบคำสั่ง และยังไม่มีแจ้งมาตน ส่วนเหตุขัดข้องในการถ่ายทอดรายการความเชื่อมั่นประเทศไทยกับ นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้โทรศัพท์มาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่อยากพูดอะไรไปตอนนี้ เดี๋ยวจะพูดไม่ตรงกัน ทราบในเบื้องต้นเป็นปัญหาทางเทคนิค
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งย้ายนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ให้ย้ายไปประจำตำแหน่ง ผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมแต่งตั้งให้นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง
11แทน โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีหลัง ทำหนังสือเรียบร้อย ภายในวานนี้
“ช่วงเช้าวานนี้ (24 ส.ค.) ได้ปรึกษากับนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กับกรณีปัญหาการออกอากาศสดของรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธ์” ที่เกิดขัดข้อง และไม่สามารถออกอากาศได้ตามเวลาที่กำหนด ของทางช่อง 11หรือ สทท. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางกรมประชาสัมพันธ์ถือเป็นหน่วยงานที่ดูแลช่อง 11โดยตรง และปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะช่อง11 ถือเป็นช่องของรัฐบาล การที่มีการทำงานที่ผิดพลาดจึงไม่ควรเกิดขึ้น จึงได้สั่งย้ายนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะต้องทำงานให้เรียบร้อยภายใน 7 วันนับจากนี้ ซึ่งนอกจากต้องหาข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังจะต้องหาแนวทางเสนอแนะเข้ามาด้วยว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งต่อไป ควรจะมีทางออกและแก้ไขกันอย่างไร
ขณะที่ในส่วนของทีมงานที่ดูแลและผลิตรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย
กับนายกฯอภิสิทธ์” ซึ่งแบ่งออกเป็น 2ชุด คือ ทีมผู้ดูแลเรื่องคอนเท้นท์ที่จะนำเสนอ ดูแลโดยรัฐบาล และทีมฝ่ายอออากาศ ซึ่งอยู่ในการทำงานของช่อง 11แน่นอนว่าทีมงานในส่วนนี้ จะต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด เบื้องต้นอาจจะต้องเปลี่ยนทีมงานในส่วนนี้ทั้งหมดด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะถูกวางยา หรือถ้าถูกวางยาจริง ตนก็พร้อมที่จะหาตัวผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด
การที่มีการปลดผอ.ช่อง 11 ลงในครั้งนี้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะในความเป็นจริงรัฐบาลก็ได้ให้โอกาสช่อง11 ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ และความผิดพลาดครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่สองแล้ว ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยจากความผิดพลาดของการออกอากาศสด ในรายการ รายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธ์” ก็ได้มีการปรึกษาหารือและวางแนวทางแก้ใขให้ทันท่วงทีหากเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก แต่ปรากฏว่า ความผิดพลาดในครั้งที่สองนี้ ทั้งที่ไม่สามารถออกอากาศได้ แต่ก็ไม่มีมาตรการมาแก้ไข อย่างที่เคยวางแผนกันไว้ ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดอย่างมาก
ส่วนการแต่งตั้งให้นางสาวรัตนา เจริญศักดิ์ ขึ้นมารับตำแหน่งแทนนั้น เพราะพบว่าเป็นคนมีความสามารถ และเคยบริหารงานด้านโทรทัศน์มาแล้วกว่า 17 ปี ไม่ว่าจะเป็น การดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ในส่วนภูมิภาคในจังหวัดอุบลราชธานี และขอนแก่น จนกระทั่งมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในปัจจุบัน
นายสาทิตย์กล่าวด้วยว่า หลังหนังสือที่ลงนามสั่งย้ายมีผลบังคับใช้แล้ว เบื้องต้นหน้าที่ของ ผอ.ช่อง11 จะต้องมีการจัดการภายในใหม่ เพราะโดยรวมแล้ว ช่อง11ยังมีข้อบกพร่องอยู่อีกหลายด้าน ทั้งนี้เพื่อต้องการให้ช่อง11เป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีระบบการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีความน่าเชื่อถือ สมกับเป็นสื่อของรัฐบาล
ต้องไปดูการบริหารจัดการภายในช่อง11 ว่า มีปัญหาอะไรอย่างไร เพราะคิดว่ายังคงมีอีกหลายเรื่อง ฉะนั้นการจัดการในช่อง11ในขณะนี้คงต้องทำด้วยความรวดเร็ว
“ความจริงแล้วเราได้ให้โอกาสนายสุริยงทำงานมาตลอด 6-7 เดือนแล้วตั้งแต่เริ่มรัฐบาลใหม่ ซึ่งตนก็ทราบว่านายสุริยงมีความตั้งใจ แต่การทำงานเมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่มีข้อผิดพลาดก็น่าจะต้องยอมรับข้อผิดพลาดนั้นและภายหลังตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วก็จะต้องมาดูว่าเป็นอย่างไร จึงค่อยตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง และ หลังจากที่ได้พูดคุยกับอธิบดีและรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและภาพพจน์ของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชนให้ได้เพราะถือว่าช่อง11เป็นตัวหลักในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ภาครัฐ หากไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ก็ถือว่าสร้างความเสียหายก็ต้องจัดการทันที” นายสาทิตย์ย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะชี้แจงอย่างไรเพราะคนเห็นว่าเป็นพิษการเมือง นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะถ้าเป็นพิษการเมืองมาวันแรกก็ต้องเด้งแล้วและตนพุดตั้งแต่วันแรกตั้งแต่มาเป็นรัฐมนตรีแล้วว่าไม่คิดจะย้ายใคร ต่อข้อถามแสดงว่า ผอ.ช่อง 11 ชี้แจงไม่เคลียร์ ถึงต้องเปลี่ยนแปลง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสอบข้อเท็จจริง คนที่เกี่ยวข้องก็ควรที่จะออกไปก่อน เพราะให้กระบวนการสอบข้อเท็จจริงทำได้อย่างเต็มที่มากขึ้น และเป็นโอกาสปรับปรุงการบริหารจัดการภายในช่อง 11 ด้วย
เมื่อถามว่า การสั่งย้ายนายสุริยงค์ เป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง และเป็นไปตามข้อเสนอของกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีเป้าหมายให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานให้เกิดความเหมาะสม เพราะเป้าหมายเหนือสิ่งอื่นใด จะต้องให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นที่น่าเชื่อถือของพี่น้องประชาชน หากตั้งคำถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานพระราชพิธีจะทำอย่างไร ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม และเชื่อว่าตัวนายสุริยงเอง ก็จะเข้าใจ
ด้านนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ตนเดินทางมาปฏิบัติราชการอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ยังไม่ทราบคำสั่ง และยังไม่มีแจ้งมาตน ส่วนเหตุขัดข้องในการถ่ายทอดรายการความเชื่อมั่นประเทศไทยกับ นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้โทรศัพท์มาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่อยากพูดอะไรไปตอนนี้ เดี๋ยวจะพูดไม่ตรงกัน ทราบในเบื้องต้นเป็นปัญหาทางเทคนิค