เอเอฟพี/เอเจนซี - เกาหลีเหนือประกาศจะลบสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ออกจากแผนที่โลก ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามทางทหารจากทั้งสองชาติ หลังจากปฏิบัติการซ้อมรบร่วมสหรัฐฯ-เกาหลีใต้เตรียมเปิดฉากในวันจันทร์(17) นี้ ด้านผู้นำเกาหลีใต้เอ่ยปากยินดีให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเกาหลีเหนือ หากยอมยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
สำนักข่าวแห่งชาติเกาหลีเหนือหรือ " เคซีเอ็นเอ" รายงานเมื่อวานนี้ (16) โดยอ้างคำพูดของโฆษกกองทัพเกาหลีเหนือที่ออกมาแถลงที่กรุงเปียงยางว่า เกาหลีเหนือจะลบสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ออกจากแผนที่โลกด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ถ้าทั้งสองประเทศยังไม่หยุดคุกคามความมั่นคงของเกาหลีเหนือ
โฆษกกองทัพเกาหลีเหนือยังกล่าวว่า" หากระบอบจักรวรรดินิยมภายใต้การนำของสหรัฐฯ และสาวกของลีมยองบัก ผู้นำเกาหลีใต้ คิดจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีเกาหลีเหนือ พวกเขาจะได้รับการตอบโต้อย่างสาสมด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของเรา และหากพวกเขาคิดจะคุกคามเกาหลีเหนือด้วยขีปนาวุธ เราก็จะตอบโต้ด้วยขีปนาวุธอันทรงประสิทธิภาพของเราเช่นกัน"
นอกจากนั้น โฆษกคนเดิมยังยืนยันว่ากองทัพประชาชนเกาหลี หรือ "เคพีเอ" ซึ่งมีกำลังพลทั้งหมดกว่า 5.9 ล้านคน พร้อมเดินเข้าสู่สนามรบเพื่อทำสงครามสั่งสอนผู้รุกรานโดยไร้ความปรานี
เช่นกัน
การออกมาแถลงของโฆษกกองทัพเกาหลีเหนือครั้งนี้ มีขึ้นก่อนหน้าที่ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ (17) ซึ่งทางสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือระบุว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อเตรียม"ทำสงครามนิวเคลียร์" ต่อเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ต่างยืนยันว่า ไม่มีแผนจะรุกรานเกาหลีเหนือแต่อย่างใด โดยย้ำว่าปฏิบัติการซ้อมรบระหว่าง 17-27 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีทหารสหรัฐฯ จำนวน 10,000 คนและทหารเกาหลีใต้เข้าร่วมจำนวนหนึ่ง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองให้เกาหลีใต้เท่านั้น
ด้านประธานาธิบดีลีมยองบัก ของเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโซลเมื่อวันเสาร์ (15) เนื่องในโอกาสปีที่ 64 ของการที่เกาหลีใต้หลุดพ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 โดยผู้นำเกาหลีใต้วัย 67 ปีเอ่ยปากเสนอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้เกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยินยอมยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้น 2 วัน หลังจากที่เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวคนงานชาวเกาหลีใต้ที่ถูกจับตัวไปเป็นอิสระ
ผู้นำเกาหลีใต้ยังระบุว่า พร้อมเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และยังแสดงความเชื่อมั่นว่า จริงๆ แล้วเกาหลีเหนือต้องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอานุภาพร้ายแรง เพื่อใช้ในการป้องกันตนเองเท่านั้น ไมใช่มีไว้เพื่อการรุกรานเกาหลีใต้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า ฟิลิป โกลด์เบิร์ก ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้านเกาหลีเหนือ เตรียมเปิดฉากเดินทางเยือนหลายประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (20) นี้เป็นต้นไป เพื่อหาช่องทางในการกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเห็นชอบกับมาตรการตรวจค้นเรือสินค้าเกาหลีเหนือต้องสงสัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธร้ายแรง และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินของเกาหลีเหนือมาแล้ว
สำนักข่าวแห่งชาติเกาหลีเหนือหรือ " เคซีเอ็นเอ" รายงานเมื่อวานนี้ (16) โดยอ้างคำพูดของโฆษกกองทัพเกาหลีเหนือที่ออกมาแถลงที่กรุงเปียงยางว่า เกาหลีเหนือจะลบสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ออกจากแผนที่โลกด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ถ้าทั้งสองประเทศยังไม่หยุดคุกคามความมั่นคงของเกาหลีเหนือ
โฆษกกองทัพเกาหลีเหนือยังกล่าวว่า" หากระบอบจักรวรรดินิยมภายใต้การนำของสหรัฐฯ และสาวกของลีมยองบัก ผู้นำเกาหลีใต้ คิดจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีเกาหลีเหนือ พวกเขาจะได้รับการตอบโต้อย่างสาสมด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของเรา และหากพวกเขาคิดจะคุกคามเกาหลีเหนือด้วยขีปนาวุธ เราก็จะตอบโต้ด้วยขีปนาวุธอันทรงประสิทธิภาพของเราเช่นกัน"
นอกจากนั้น โฆษกคนเดิมยังยืนยันว่ากองทัพประชาชนเกาหลี หรือ "เคพีเอ" ซึ่งมีกำลังพลทั้งหมดกว่า 5.9 ล้านคน พร้อมเดินเข้าสู่สนามรบเพื่อทำสงครามสั่งสอนผู้รุกรานโดยไร้ความปรานี
เช่นกัน
การออกมาแถลงของโฆษกกองทัพเกาหลีเหนือครั้งนี้ มีขึ้นก่อนหน้าที่ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้จะเปิดฉากขึ้นในวันจันทร์ (17) ซึ่งทางสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือระบุว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อเตรียม"ทำสงครามนิวเคลียร์" ต่อเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ต่างยืนยันว่า ไม่มีแผนจะรุกรานเกาหลีเหนือแต่อย่างใด โดยย้ำว่าปฏิบัติการซ้อมรบระหว่าง 17-27 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะมีทหารสหรัฐฯ จำนวน 10,000 คนและทหารเกาหลีใต้เข้าร่วมจำนวนหนึ่ง มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการป้องกันตนเองให้เกาหลีใต้เท่านั้น
ด้านประธานาธิบดีลีมยองบัก ของเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโซลเมื่อวันเสาร์ (15) เนื่องในโอกาสปีที่ 64 ของการที่เกาหลีใต้หลุดพ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่นหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 โดยผู้นำเกาหลีใต้วัย 67 ปีเอ่ยปากเสนอความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้เกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยินยอมยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้น 2 วัน หลังจากที่เกาหลีเหนือยอมปล่อยตัวคนงานชาวเกาหลีใต้ที่ถูกจับตัวไปเป็นอิสระ
ผู้นำเกาหลีใต้ยังระบุว่า พร้อมเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และยังแสดงความเชื่อมั่นว่า จริงๆ แล้วเกาหลีเหนือต้องการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอานุภาพร้ายแรง เพื่อใช้ในการป้องกันตนเองเท่านั้น ไมใช่มีไว้เพื่อการรุกรานเกาหลีใต้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่า ฟิลิป โกลด์เบิร์ก ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้านเกาหลีเหนือ เตรียมเปิดฉากเดินทางเยือนหลายประเทศในเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (20) นี้เป็นต้นไป เพื่อหาช่องทางในการกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเห็นชอบกับมาตรการตรวจค้นเรือสินค้าเกาหลีเหนือต้องสงสัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธร้ายแรง และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินของเกาหลีเหนือมาแล้ว