ASTVผู้จัดการรายวัน – สกอลล์ มองวิกฤตสร้างโอกาส ทิ้งห่างคู่แข่ง อัดงบการตลาดเพิ่ม 35% ปล่อยสินค้าใหม่กว่า 150 รุ่น สูงกว่าปีก่อนถึง 50% ล่าสุดเปิดตัวไลน์ใหม่ “สกอลล์ ไบโอเมคคานิกส์” หวัง 3 ปี สอยรายได้ 100 ล้านบาท ส่วนปีนี้มั่นใจรายได้โตแน่ 25% คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท
นายทิม เอเว่นส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสแอล เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ สกอลล์ เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ เรายิ่งต้องกระตุ้นตลาด ขณะที่คู่แข่งลดงบการทำตลาดและการลงทุนลง แต่เรามีการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เชื่อเป็นผลดี อย่างน้อยที่สุด คือกระตุ้นยอดขายให้เติบโต
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ในส่วนของงบการตลาดรวม จากปกติจะใช้ที่ 20% ของยอดขาย ปีนี้ทางบริษัทได้ใช้เพิ่มอีก 35% เมื่อเทียบกับงบที่ใช้ในปีก่อน เนื่องจากในส่วนของผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทก็ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ป้อนสู่ตลาดมากขึ้นด้วย ไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 150 รุ่น เนื่องจากมีการขยายไลน์อัพ ไปสู่กลุ่มผู้หญิง
และเด็กมากขึ้น ขณะเดียวกันในแง่ของพนักงานขาย ปีนี้ก็ได้ให้ความสำคัญและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดจุดขายที่เพิ่มขึ้น ตามห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดที่มีการขยายสาขามากขึ้น
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ “สกอลล์ ไบโอเมคคานิกส์” เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แผ่นเสริมรองเท้า เฉลี่ยราคาตั้งแต่ 600-800 บาท และรองเท้าพร้อมแผ่นเสริมในตัว เฉลี่ยราคาตั้งแต่ 1,400-2,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ทดลองขายไปบ้างบางส่วน ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี โดยมองว่าในระยะ 3 ปีนับจากนี้ จะมียอดขายได้ถึง 100 ล้านบาท
นายทิม กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดรองเท้า เฉพาะในห้างสรรพสินค้า คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งออกมาเป็นกลุ่มรองเท้าเพื่อสุขภาพได้ ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งสกอลล์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 60% อย่างไรก็ตามในปีนี้ภาพรวมตลาดรองเท้าเพื่อสุขภาพ คาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตที่ 10% เท่ากับปีก่อน ขณะที่ภาพรวมรายได้ของสกอลล์
ปีนี้เชื่อว่าจะทำได้ถึง 1,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตสูงถึง 25% มากกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยยอดขายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
นายทิม เอเว่นส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสแอล เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ สกอลล์ เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ เรายิ่งต้องกระตุ้นตลาด ขณะที่คู่แข่งลดงบการทำตลาดและการลงทุนลง แต่เรามีการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เชื่อเป็นผลดี อย่างน้อยที่สุด คือกระตุ้นยอดขายให้เติบโต
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ในส่วนของงบการตลาดรวม จากปกติจะใช้ที่ 20% ของยอดขาย ปีนี้ทางบริษัทได้ใช้เพิ่มอีก 35% เมื่อเทียบกับงบที่ใช้ในปีก่อน เนื่องจากในส่วนของผลิตภัณฑ์ ทางบริษัทก็ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ป้อนสู่ตลาดมากขึ้นด้วย ไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 150 รุ่น เนื่องจากมีการขยายไลน์อัพ ไปสู่กลุ่มผู้หญิง
และเด็กมากขึ้น ขณะเดียวกันในแง่ของพนักงานขาย ปีนี้ก็ได้ให้ความสำคัญและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดจุดขายที่เพิ่มขึ้น ตามห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดที่มีการขยายสาขามากขึ้น
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวไลน์สินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ “สกอลล์ ไบโอเมคคานิกส์” เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แผ่นเสริมรองเท้า เฉลี่ยราคาตั้งแต่ 600-800 บาท และรองเท้าพร้อมแผ่นเสริมในตัว เฉลี่ยราคาตั้งแต่ 1,400-2,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ทดลองขายไปบ้างบางส่วน ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี โดยมองว่าในระยะ 3 ปีนับจากนี้ จะมียอดขายได้ถึง 100 ล้านบาท
นายทิม กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดรองเท้า เฉพาะในห้างสรรพสินค้า คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยสามารถแบ่งออกมาเป็นกลุ่มรองเท้าเพื่อสุขภาพได้ ประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งสกอลล์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ต่ำกว่า 60% อย่างไรก็ตามในปีนี้ภาพรวมตลาดรองเท้าเพื่อสุขภาพ คาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตที่ 10% เท่ากับปีก่อน ขณะที่ภาพรวมรายได้ของสกอลล์
ปีนี้เชื่อว่าจะทำได้ถึง 1,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตสูงถึง 25% มากกว่าปีก่อนเล็กน้อย โดยยอดขายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นไปตามเป้าที่วางไว้