เอเอฟพี - สองโจรก่อเหตุอุกอาจปล้นเพชรครั้งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ จากร้านในย่านช็อปิ้งไฮโซชื่อดังกลางกรุงลอนดอน ตำรวจแดนผู้ดีเผยแพร่ภาพคนร้ายทั้งสองเมื่อวันอังคาร(11) พร้อมระบุว่า เครื่องเพชรที่สูญหายไปมีทั้งแหวนเพชร สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และนาฬิกา ทั้งหมด 43 รายการ คิดเป็นมูลค่าราว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,275 ล้านบาท)
จากภาพในกล้องวงจรปิดที่ตำรวจนำออกเผยแพร่ โจร 2 คนนี้สวมสูทสีเทาเสื้อเชิ้ตสีขาว พูดด้วยสำเนียงชาวลอนดอน ทั้งคู่พกปืนเดินเข้าไปในร้าน "กราฟฟ์" ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องประดับหรูบนถนนนิวบอนด์สตรีท เมื่อวันพฤหัสบดี (6) ที่แล้ว จากนั้นก็ขู่บังคับเอาเครื่องเพชรดังกล่าวจากพนักงาน และดึงตัวพนักงานหญิงคนหนึ่งไว้เป็นตัวประกัน ก่อนจะยิงปืนขู่นัดหนึ่งที่ภายนอกร้าน แล้วขึ้นรถหลบหนีไป โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
พวกเขาใช้รถบีเอ็มดับเบิลยูเป็นพาหนะในการหลบหนี แต่พอขับออกไประยะหนึ่งก็ลงจากรถ และได้ยิงปืนอีกนัดหนึ่ง จากนั้นจึงเปลี่ยนไปขึ้นรถเมอร์ซีเดส-เบนซ์ แล้วต่อมายังเปลี่ยนไปขึ้นรถคันที่สาม
"คนร้ายทั้งสองเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง ในระหว่างหลบหนี พวกเขายิงปืนอย่างน้อยสองนัดกลางถนนในกรุงลอนดอนซึ่งการจราจรกำลังพลุกพล่าน" แพม เมซ หัวหน้าทีมสืบสวนจากหน่วย "Flying Squad" ซึ่งเป็นหน่วยสืบสวนเรื่องการปล้นโดยใช้อาวุธกล่าว
"เรายังไม่พบว่ามีการปล้น (เพชร) ที่ใหญ่กว่านี้เลยในสหราชอาณาจักร" เมซบอกและเสริมว่า "คงมีคนรู้บ้างหรอกว่าคนร้ายทั้งสองเป็นใคร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนร้ายคงต้องพูดถึงเรื่องการปล้นนี้กับคนอื่นมาก่อนแล้ว หรือไม่ก็เอาไปคุยโวทีหลัง"
ทั้งนี้ รายงานของตำรวจระบุด้วยว่า โจรทั้งสองน่าจะได้รับความช่วยเหลือจากคนร้ายอีกอย่างน้อย 2 คน ที่เป็นคนขับรถพาหลบหนี
เหตุปล้นอุกอาจรายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 16.40 น. วันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่โฆษกตำรวจลอนดอนบอกว่า เพิ่งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าข้าวของที่สูญหายไปในสัปดาห์นี้ จึงนำภาพถ่ายและภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิดมาเผยแพร่ในวันอังคาร เพื่อขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม
สำหรับร้านกราฟฟ์ที่ถูกปล้นคราวนี้ เป็นร้านจำหน่ายเครื่องเพชรชื่อดังที่มีลูกค้าเป็นคนดังๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปารีส ฮิลตัน, นาโอมี แคมป์เบล, โอปราห์ วินเฟรย์ และ วิกตอเรีย เบ็คแฮม
ขณะที่นิวบอนด์สตรีท ก็อยู่ในย่านเมย์แฟร์ ซึ่งเป็นย่านขายสินค้าหรู มีร้านขายเพชรชื่อดังตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งร้านช่างเพชรหลวง "แอสเพรย์"
ส่วนเครื่องเพชรที่ถูกโจรกรรมไปในครั้งนี้ มีอาทิ ต่างหูห่วงคู่ประดับพลอยแอฟริกาแท้สีขาว สร้อยคอเพชรรูปดอกไม้สีเหลือง แหวนเพชรประดับแพลตินัมรูปมาร์คิส นาฬิกาผู้ชายแบบโครโนกราฟขนาด 45 มม.
ร้านกราฟฟ์เคยถูกปล้นมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2003 โดยสิ่งของมีค่าที่ถูกชิงไปในคราวนั้นมีมูลค่า 23 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอันเก่าสำหรับการปล้นเพชรในกรุงลอนดอน ก่อนจะมาถูกทำลายในคราวนี้ ทั้งนี้ในคราวก่อนกลุ่มโจรผู้ก่อเหตุคือแก๊งปล้นเพชรชื่อ "พิงค์แพนเธอร์" และมีโจรชาวเซอร์เบียรายหนึ่งถูกจับตัวได้ขณะหลบหนี ต่อมาเขาก็ต้องโทษจำคุก
หลังจากนั้นเมื่อปี 2007 ได้เกิดเหตุปล้นเพชรมูลค่า 10 ล้านปอนด์จากร้านสาขาแห่งหนึ่งของกราฟฟ์บนถนนสโลน โดยโจรสองคนปลอมตัวเป็นลูกค้านั่งรถเบนต์ลีย์มีคนขับมาส่งที่หน้าร้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปแล้วใช้ปืนบังคับเอาเพชรจากพนักงานเช่นกัน
เหตุการณ์ปล้นเพชรครั้งล่าสุดนี้ ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการปล้นที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในอังกฤษด้วย โดยเป็นรองการก่อเหตุปล้นเงิน 53 ล้านปอนด์จากศูนย์ของเครือข่ายขนส่งเงินและสิ่งของมีค่า "ซีเคียวริตัส" ในเมืองเคนต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อปี 2006 โดยครั้งนั้นแก๊งโจรจับพนักงานมัดไว้แล้วเอาเงินสดไป
จากภาพในกล้องวงจรปิดที่ตำรวจนำออกเผยแพร่ โจร 2 คนนี้สวมสูทสีเทาเสื้อเชิ้ตสีขาว พูดด้วยสำเนียงชาวลอนดอน ทั้งคู่พกปืนเดินเข้าไปในร้าน "กราฟฟ์" ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องประดับหรูบนถนนนิวบอนด์สตรีท เมื่อวันพฤหัสบดี (6) ที่แล้ว จากนั้นก็ขู่บังคับเอาเครื่องเพชรดังกล่าวจากพนักงาน และดึงตัวพนักงานหญิงคนหนึ่งไว้เป็นตัวประกัน ก่อนจะยิงปืนขู่นัดหนึ่งที่ภายนอกร้าน แล้วขึ้นรถหลบหนีไป โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
พวกเขาใช้รถบีเอ็มดับเบิลยูเป็นพาหนะในการหลบหนี แต่พอขับออกไประยะหนึ่งก็ลงจากรถ และได้ยิงปืนอีกนัดหนึ่ง จากนั้นจึงเปลี่ยนไปขึ้นรถเมอร์ซีเดส-เบนซ์ แล้วต่อมายังเปลี่ยนไปขึ้นรถคันที่สาม
"คนร้ายทั้งสองเป็นตัวอันตรายอย่างยิ่ง ในระหว่างหลบหนี พวกเขายิงปืนอย่างน้อยสองนัดกลางถนนในกรุงลอนดอนซึ่งการจราจรกำลังพลุกพล่าน" แพม เมซ หัวหน้าทีมสืบสวนจากหน่วย "Flying Squad" ซึ่งเป็นหน่วยสืบสวนเรื่องการปล้นโดยใช้อาวุธกล่าว
"เรายังไม่พบว่ามีการปล้น (เพชร) ที่ใหญ่กว่านี้เลยในสหราชอาณาจักร" เมซบอกและเสริมว่า "คงมีคนรู้บ้างหรอกว่าคนร้ายทั้งสองเป็นใคร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนร้ายคงต้องพูดถึงเรื่องการปล้นนี้กับคนอื่นมาก่อนแล้ว หรือไม่ก็เอาไปคุยโวทีหลัง"
ทั้งนี้ รายงานของตำรวจระบุด้วยว่า โจรทั้งสองน่าจะได้รับความช่วยเหลือจากคนร้ายอีกอย่างน้อย 2 คน ที่เป็นคนขับรถพาหลบหนี
เหตุปล้นอุกอาจรายนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 16.40 น. วันพฤหัสบดีที่แล้ว แต่โฆษกตำรวจลอนดอนบอกว่า เพิ่งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าข้าวของที่สูญหายไปในสัปดาห์นี้ จึงนำภาพถ่ายและภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิดมาเผยแพร่ในวันอังคาร เพื่อขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม
สำหรับร้านกราฟฟ์ที่ถูกปล้นคราวนี้ เป็นร้านจำหน่ายเครื่องเพชรชื่อดังที่มีลูกค้าเป็นคนดังๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปารีส ฮิลตัน, นาโอมี แคมป์เบล, โอปราห์ วินเฟรย์ และ วิกตอเรีย เบ็คแฮม
ขณะที่นิวบอนด์สตรีท ก็อยู่ในย่านเมย์แฟร์ ซึ่งเป็นย่านขายสินค้าหรู มีร้านขายเพชรชื่อดังตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งร้านช่างเพชรหลวง "แอสเพรย์"
ส่วนเครื่องเพชรที่ถูกโจรกรรมไปในครั้งนี้ มีอาทิ ต่างหูห่วงคู่ประดับพลอยแอฟริกาแท้สีขาว สร้อยคอเพชรรูปดอกไม้สีเหลือง แหวนเพชรประดับแพลตินัมรูปมาร์คิส นาฬิกาผู้ชายแบบโครโนกราฟขนาด 45 มม.
ร้านกราฟฟ์เคยถูกปล้นมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2003 โดยสิ่งของมีค่าที่ถูกชิงไปในคราวนั้นมีมูลค่า 23 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอันเก่าสำหรับการปล้นเพชรในกรุงลอนดอน ก่อนจะมาถูกทำลายในคราวนี้ ทั้งนี้ในคราวก่อนกลุ่มโจรผู้ก่อเหตุคือแก๊งปล้นเพชรชื่อ "พิงค์แพนเธอร์" และมีโจรชาวเซอร์เบียรายหนึ่งถูกจับตัวได้ขณะหลบหนี ต่อมาเขาก็ต้องโทษจำคุก
หลังจากนั้นเมื่อปี 2007 ได้เกิดเหตุปล้นเพชรมูลค่า 10 ล้านปอนด์จากร้านสาขาแห่งหนึ่งของกราฟฟ์บนถนนสโลน โดยโจรสองคนปลอมตัวเป็นลูกค้านั่งรถเบนต์ลีย์มีคนขับมาส่งที่หน้าร้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปแล้วใช้ปืนบังคับเอาเพชรจากพนักงานเช่นกัน
เหตุการณ์ปล้นเพชรครั้งล่าสุดนี้ ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นการปล้นที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในอังกฤษด้วย โดยเป็นรองการก่อเหตุปล้นเงิน 53 ล้านปอนด์จากศูนย์ของเครือข่ายขนส่งเงินและสิ่งของมีค่า "ซีเคียวริตัส" ในเมืองเคนต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อปี 2006 โดยครั้งนั้นแก๊งโจรจับพนักงานมัดไว้แล้วเอาเงินสดไป
