xs
xsm
sm
md
lg

“โครงสร้างแกน” สังคมอุดมธรรม (1)

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

สังคมอุดมธรรมที่มีระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนเป็นองค์ธรรมแกน โดยสาระก็คือ “มวลมหาชนผู้มีปัญญาใช้อำนาจกำหนดจากเบื้องล่างกำกับการใช้อำนาจของผู้ปฏิบัติหน้าที่เบื้องบน ให้เอาธรรมนำหน้า ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และเคารพในสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างแท้จริง” ปัจจุบันปรากฏออกมาให้รูปของอุดมการณ์พันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งจะถูกนำเสนอสู่สาธารณชนในโอกาสต่างๆ รวมทั้งจะต้องทำการปลูกฝังในหมู่ชาวพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่อย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน มีแนวคิดตรงกัน ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลสูงสุด

ทั้งนี้ การสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนไทยทั้งหมดนี้ ถือเป็นภารกิจร่วมกันของคนไทยทุกคน ต้องอาศัยอัจฉริยภาพรวมหมู่ของมวลมหาชนชาวไทย ความเป็นเอกภาคทางความคิด (ปัญญา) จึงเป็นสิ่งจำเป็น

ในทางปฏิบัติ การทำให้ทุกคนเกิดความเข้าใจร่วมกัน มีความเป็นเอกภาพทางความคิด ไม่อาจทำให้สำเร็จได้ตั้งแต่เริ่มแรก จะต้องทำไปรับรู้ไป พิสูจน์ไปเข้าใจไป โดยความเป็นเอกภาพทางความคิดหรือปัญญาจะเริ่มปรากฏขึ้นในกลุ่มคนที่เข้ามามีส่วนร่วมหรือแสดงบทบาทของการเป็น “เจ้าภาพ” ในการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยก่อน นั่นหมายถึงว่า พวกเราชาวพันธมิตรฯ หรือสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ ที่ได้ “ลงเรือลำเดียวกัน” แล้ว อยู่ในวิสัยที่จะเกิดความเข้าใจและมีความเป็นเอกภาพทางความคิด ที่นำไปสู่ความเป็นเอกภาพทางการเคลื่อนไหวปฏิบัติก่อนใครอื่น

ด้วยเหตุนี้ ความเป็นเอกภาพทางความคิดเกี่ยวกับการสร้างสังคมอุดมธรรม จะปรากฏขึ้นในหมู่พวกเราชาวพันธมิตรฯ และสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ก่อน บนพื้นฐานของประสบการณ์ตรงจากการเคลื่อนไหวปฏิบัติร่วมกันในการต่อสู้เอาชนะอำนาจการเมืองเก่า เพื่อสถาปนาอำนาจการเมืองใหม่ขึ้นแทนที่

ความจริงแล้ว กระบวนการสร้างสังคมอุดมธรรมได้เริ่มต้นตั้งแต่วันแรกของการ “จุดเทียนปัญญา” เริ่มด้วยการตั้งเป้าไว้ที่การเปิดโปงโฉมหน้าอันชั่วช้าของนักการเมืองโกงกินชาติ เมื่อการต่อสู้ของขบวนการการเมืองภาคประชาชนภายใต้การนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้พัฒนาขยายตัวจากชัยชนะสู่ชัยชนะ ทำให้ตระหนักชัดยิ่งขึ้นว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นเรื่องถูกต้อง เส้นทางที่ชาวพันธมิตรฯ เลือกเดินนั้นถูกต้อง เกิดมรรคผลต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง จากนั้นก็ได้ข้อสรุปใหม่ๆ ที่ทำให้ “เข้าถึง” แก่นแท้ปัญหาของสังคมไทย “เห็น” ทางออกจากปัญหา และบทบาททางประวัติศาสตร์ของมวลมหาชนชาวไทย ที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยไปในทิศทางที่เป็นไปได้ดีที่สุด

การยกระดับทางความคิดและปัญญาตื่นรู้ลักษณะดังกล่าว มีอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคการเมืองใหม่ กลายเป็นขบวนการที่ทรงปัญญา

ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่า แนวคิดเรื่องการสร้างสภาวธรรม “สังคมอุดมธรรม ชีวิตอุดมสุข” แบบไทย ที่มีระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนเป็นองค์ธรรมแกน ถึงที่สุดแล้ว ก็คือผลพวงทางปัญญาของทั้งขบวนการ โดยผู้นำเสนอเป็นเพียงห่วงโซ่หนึ่งของขบวนการเกี่ยวกับ “โครงสร้างแกน” สังคมอุดมธรรม

จนถึงวันนี้ พอสรุปได้เป็นเบื้องต้นว่า โครงสร้างหลักแกนของสังคมอุดมธรรม มีอยู่ 3 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วย 1. ส่วนฐานล่าง 2. ส่วนแกนกลาง และ 3. ส่วนยอดบน

1. ส่วนฐานล่าง ประกอบด้วยประชาชนผู้ใช้แรงงานพื้นฐาน เช่น เกษตรกร กรรมกร หรือผู้มีรายได้น้อย ด้อยโอกาสในสังคม ซึ่งปัจจุบันเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

คนส่วนนี้ถูกทำให้เป็นผู้อ่อนแออย่างต่อเนื่องมานานหลายศตวรรษ เป็นสาเหตุสำคัญของความอ่อนแอของสังคมไทยและประเทศไทยโดยรวม โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจึงต้องการความช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน และเป็นเป้าหมายหลักของการให้ความช่วยเหลือแบบทันที เหมือนคนป่วยหนัก ต้องช่วยให้มีชีวิตอยู่รอดก่อน แล้วจึงวินิจฉัยลงในรายละเอียด แล้วกำหนดมาตรการและแผนระยะยาว ช่วยให้เขาหลุดพ้นจากพันธนาการทุกรูปแบบอย่างเป็นระบบ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา-วัฒนธรรม

ตามหลักปฏิบัติของชาวพันธมิตรฯ การช่วยเหลือที่ดีที่สุดก็คือการจุดเทียนปัญญา จะต้องดำเนินการอย่างเป็นจริงและเอาจริงเอาจังอย่างยิ่งตั้งแต่เริ่มต้น และต้องยืนหยัดดำเนินการอย่างไม่ขาดตอนตลอดไป

การจุดเทียนปัญญา ยกระดับปัญญาตื่นรู้ให้แก่มวลมหาชนฐานล่าง เป็นการแก้ปัญหาในระดับ “ปมเงื่อน” และเป็นการสร้างเงื่อนไขเบื้องต้นของการสร้างระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนให้เข้มแข็ง รองรับการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างสังคมอุดมธรรมได้อย่างยั่งยืน

นับเป็นความจำเป็นเบื้องต้นที่ต้องทำให้ดีตั้งแต่เริ่มแรก

สิ่งนี้จะเป็นเหตุปัจจัยพื้นฐานที่จะนำไปสู่การพลิกผันประเทศไทย จากความเสื่อมรอบด้าน ไปเป็นรุ่งเรืองรอบด้าน

ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้

เมื่อเกิดปัญญาตื่นรู้ มวลมหาชนก็จะจัดตั้งกันเข้าเป็นกลุ่มก้อน เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในระดับฐานล่างของสังคม สร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากให้แก่สังคมอุดมธรรม

ทำกันในวันนี้ ก็จะทำให้พันธมิตรฯ เข้มแข็งได้ในทันที

โดยนัยนี้ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่มวลมหาชนฐานล่างจึงไม่ใช่เป็นเรื่องของอนาคต และไม่ใช่เป็นธุระของใครอื่นใด แต่ทำได้ทันทีในวันนี้ และด้วยมือพวกเราเอง

สิ่งที่คาดหวังได้ในทันทีที่การช่วยเหลือลงไปถึงก็คือ ด้านหนึ่งจะเกิดการยกระดับความสามารถในการช่วยเหลือตนเองในระดับฐานล่าง มีการพึ่งพาอาศัย ช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากขึ้น เกิดทัศนะรวมหมู่ ซึ่งในที่สุดก็จะเกิดการปะทุออกมาซึ่งอัจฉริยภาพรวมหมู่

อีกด้านหนึ่ง จะทำให้การช่วยเหลือจากภาครัฐหรือส่วนยอดบน (ปัจจุบันก็คือแกนนำพันธมิตรฯ ทุกระดับ) เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยให้การทำงานของส่วนยอดบนที่ประกอบไปด้วยผู้ “เสียสละ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ มีความสามารถ” ปรับปรุงการทำงาน สรุปบทเรียน ฝึกฝนตนเองให้พร้อมสำหรับการอุทิศตนเพื่อส่วนรวมมากขึ้นเรื่อยๆ

ผลที่เกิดขึ้นทั้งในระดับฐานล่างและส่วนยอดบน จะกระตุ้นให้ระบบประชาธิปไตยมวลมหาชนดำเนินไปได้ดียิ่งขึ้น

ที่สำคัญคือ ในระหว่างนั้น จะเกิด “ผู้นำ” คนดีมีฝีมือจะปรากฏ และเป็นที่ไว้วางใจของมวลมหาชน ได้รับการสนับสนุนให้ก้าวขึ้นเป็นแกนนำ ทำหน้าที่ใช้อำนาจที่มวลมหาชนมอบหมายให้ กระทั่งมีโอกาสเป็นตัวแทนมวลมหาชนก้าวขึ้นไปรับผิดชอบหน้าที่การงานในระดับยอดบนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น