วานนี้ (10 ส.ค.) เชค คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้จัดพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมถวายเลี้ยงพระกระยาหาร แด่นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนด้วย
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือทวิภาคีระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ว่า ในการหารือเป็นประเด็นทั่วไป เกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ หารือข้อตกลงทางด้านการค้า การลงทุน การเงิน การธนาคาร และยังมีการหารือทางด้านการศึกษา และการสาธารณสุข การแลกเปลี่ยน ด้านการเกษตร และด้านการบิน
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ในด้านการศึกษา ได้มอบให้รัฐมนตรีศึกษาธิการของทั้ง 2 ประเทศไปพิจารณาเรื่องการแลกเปลี่ยนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น เพราะทางประเทศบาห์เรน ได้มอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาไทยมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงมีการกะชับความสัมพันธ์มากขึ้น และยังพิจารณาปรับกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการปรับคุณวุฒิการศึกษา ของผู้ที่จบจากบาห์เรน
ส่วนแนวทางด้านการค้ามีการหารือจำนวนมากที่จะร่วมมือ ในเรื่องของอาหาร สินค้าเกษตร ข้าว และปูนซีเมนต์ นอกจากนี้ประเทศบาห์เรน ยังต้องการแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล และยินดีที่จะสนับสนุนการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ กระจายสินค้าไทย-บาห์เรน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา
ด้านการธนาคารจะมีการช่วยเหลือกันมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารอิสลาม และเรื่องของพันธบัตรอิสลาม ไทยต้องการจะปรับโครงสร้างโครงการอิสลามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาดว่าจะได้รับความร่วมมือมากขึ้น
ด้านการบินประเทศบาห์เรน ต้องการให้ไทยขยายการบิน และการบินไทยกำลังพิจารณาอยู่ เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจะแจ้งให้กับประเทศบาห์เรนทราบ
"ทั้ง 2 ประเทศ มีความใกล้ชิดเป็นมิตร มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาตร์ ความสัมพันธ์ด้านการเมือง การค้าที่ดี และจะเดินหน้าร่วมกันทั้งในระดับ ทวิภาคี-พหุภาคี และความร่วมมือนานาชาติ เช่น ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับบาห์เรน และความร่วมมือด้านสหประชาชาติ ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนสนับสนุนกัน โดยเฉพาะการสมัครสมาชิก อีโคซอค และ องค์สิทธิมนุษยชน รวมไปถึงการขอความสนับสนุนประเทศบาห์เรน ในการให้การสนับสนุนไทยให้เป็นสมาชิกองค์กรสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงประเภทเลือกตั้ง ภายในปี ค.ศ.2017 ส่วนเรื่องประเทศบาห์เรน ในปีค.ศ. 2011-2013 ส่วนฮิวแมนไลท์คอมมิชชั่น ในปี ค.ศ.2010-2013 " นายปณิธานกล่าว
นายปณิธาณ กล่าวอีกว่า ไทยได้ขอบคุณที่บาห์เรนให้สัมปทานการผลิต และสำรวจให้กับบริษัทปตท.ในอ่าวของบาห์เรน และยังสนใจที่จะร่วมมือกับประเทศบาห์เรนมากขึ้น ด้านสาธารณสุขทางบาห์เรนได้ขอแลกเปลี่ยน บุคลากรเนื่องจากมีการขยายอุตสาหกรรมด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล ซึ่งทางบาห์เรน ให้ความสนใจในความร่วมมือดังกล่าว โดยมีข้อตกลงร่วม ได้ขอให้มีการทำ แอคชั่นแพลน เพื่อกำหนดกรอบชัดเจนในความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-บาห์เรน
ทั้งนี้ ในวันที่ 12-18 ส.ค. นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน จะเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ส่วนวันที่ 13 ส.ค. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะถวายปริญญารัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ทรงขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 17 ส.ค.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือทวิภาคีระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายกรัฐมนตรี แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ว่า ในการหารือเป็นประเด็นทั่วไป เกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์ หารือข้อตกลงทางด้านการค้า การลงทุน การเงิน การธนาคาร และยังมีการหารือทางด้านการศึกษา และการสาธารณสุข การแลกเปลี่ยน ด้านการเกษตร และด้านการบิน
นายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ในด้านการศึกษา ได้มอบให้รัฐมนตรีศึกษาธิการของทั้ง 2 ประเทศไปพิจารณาเรื่องการแลกเปลี่ยนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น เพราะทางประเทศบาห์เรน ได้มอบทุนการศึกษาให้นักศึกษาไทยมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงมีการกะชับความสัมพันธ์มากขึ้น และยังพิจารณาปรับกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการปรับคุณวุฒิการศึกษา ของผู้ที่จบจากบาห์เรน
ส่วนแนวทางด้านการค้ามีการหารือจำนวนมากที่จะร่วมมือ ในเรื่องของอาหาร สินค้าเกษตร ข้าว และปูนซีเมนต์ นอกจากนี้ประเทศบาห์เรน ยังต้องการแลกเปลี่ยนด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล และยินดีที่จะสนับสนุนการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ กระจายสินค้าไทย-บาห์เรน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา
ด้านการธนาคารจะมีการช่วยเหลือกันมากขึ้น โดยเฉพาะธนาคารอิสลาม และเรื่องของพันธบัตรอิสลาม ไทยต้องการจะปรับโครงสร้างโครงการอิสลามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคาดว่าจะได้รับความร่วมมือมากขึ้น
ด้านการบินประเทศบาห์เรน ต้องการให้ไทยขยายการบิน และการบินไทยกำลังพิจารณาอยู่ เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจะแจ้งให้กับประเทศบาห์เรนทราบ
"ทั้ง 2 ประเทศ มีความใกล้ชิดเป็นมิตร มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาตร์ ความสัมพันธ์ด้านการเมือง การค้าที่ดี และจะเดินหน้าร่วมกันทั้งในระดับ ทวิภาคี-พหุภาคี และความร่วมมือนานาชาติ เช่น ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับบาห์เรน และความร่วมมือด้านสหประชาชาติ ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงให้ความร่วมมือแลกเปลี่ยนสนับสนุนกัน โดยเฉพาะการสมัครสมาชิก อีโคซอค และ องค์สิทธิมนุษยชน รวมไปถึงการขอความสนับสนุนประเทศบาห์เรน ในการให้การสนับสนุนไทยให้เป็นสมาชิกองค์กรสหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงประเภทเลือกตั้ง ภายในปี ค.ศ.2017 ส่วนเรื่องประเทศบาห์เรน ในปีค.ศ. 2011-2013 ส่วนฮิวแมนไลท์คอมมิชชั่น ในปี ค.ศ.2010-2013 " นายปณิธานกล่าว
นายปณิธาณ กล่าวอีกว่า ไทยได้ขอบคุณที่บาห์เรนให้สัมปทานการผลิต และสำรวจให้กับบริษัทปตท.ในอ่าวของบาห์เรน และยังสนใจที่จะร่วมมือกับประเทศบาห์เรนมากขึ้น ด้านสาธารณสุขทางบาห์เรนได้ขอแลกเปลี่ยน บุคลากรเนื่องจากมีการขยายอุตสาหกรรมด้านสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล ซึ่งทางบาห์เรน ให้ความสนใจในความร่วมมือดังกล่าว โดยมีข้อตกลงร่วม ได้ขอให้มีการทำ แอคชั่นแพลน เพื่อกำหนดกรอบชัดเจนในความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-บาห์เรน
ทั้งนี้ ในวันที่ 12-18 ส.ค. นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน จะเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ส่วนวันที่ 13 ส.ค. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะถวายปริญญารัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ทรงขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 17 ส.ค.