ASTVผู้จัดการรายวัน-นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอล.พี .เอ็น .ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 52 ว่า รายได้รวมของบริษัท บริษัทย่อยและบริษัทร่วมเท่ากับ 2,282.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปี 51 ซึ่งมีจํานวน 2,246.39 ล้านบาทหรือ เพิ่มขึ้น 1.60 % โดยการรับรู้รายได้ส่วนใหญ่มาจากโครงการลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ และ โครงการลุมพินีสวีท ปิ่นเกล้า
ส่วนอัตรากําไรขั้นต้นจากการขายอยู่ที่ 31.67 % ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้คือ 30 % โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 17.76 ลดลงร้อยละ 0.26 จากร้อยละ 18.02 ในไตรมาส 2 ปี 2551 เนื่องจาก ต้นทุนโครงการที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์น้ำมัน แต่หากพิจารณายอดเงินกำไรสุทธิ จะเห็นว่า กำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งมี 405.34 ล้านบาท สูงกว่า 404.78 ล้านบาท ในไตรมาส ที่ 2 ปี 51 อยู่ 0.14 %
ขณะที่บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้น 673.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 222.03 % มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและการบริหารสินค้าคงเหลือ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 63 ล้านบาท และการสำรองเงินสดไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ระยะสั้นเพื่อค้า และตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 882.01 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อรวมเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 977.33 ล้านบาท กับเงินลงทุนข้างต้น บริษัทจะมีสภาพคล่องรวม 1,859.34 ล้านบาท ซึ่งมีมากกว่าหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจำนวน 26ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี52 บริษัทมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยเท่ากับ 1,833.34 ล้านบาท
ในส่วนของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 52 รวมรายได้ 4,318.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 51 ซึ่งมี 3,636.98 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 769.83 ล้านบาท เทียบกับ 609.14 ล้านบาท
สำหรับ 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ อีกประมาณ 4,000 ล้านบาทจาก 2 โครงการหลัก ได้แก่ ลุมพินีวิลล์ รามคําแหง26,ลุมพินี พระราม 8.
ส่วนอัตรากําไรขั้นต้นจากการขายอยู่ที่ 31.67 % ซึ่งสูงกว่าที่กำหนดไว้คือ 30 % โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 17.76 ลดลงร้อยละ 0.26 จากร้อยละ 18.02 ในไตรมาส 2 ปี 2551 เนื่องจาก ต้นทุนโครงการที่เพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์น้ำมัน แต่หากพิจารณายอดเงินกำไรสุทธิ จะเห็นว่า กำไรสุทธิ ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งมี 405.34 ล้านบาท สูงกว่า 404.78 ล้านบาท ในไตรมาส ที่ 2 ปี 51 อยู่ 0.14 %
ขณะที่บริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้น 673.84 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 222.03 % มาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและการบริหารสินค้าคงเหลือ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 63 ล้านบาท และการสำรองเงินสดไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงครึ่งปีหลัง โดยนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ระยะสั้นเพื่อค้า และตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 882.01 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อรวมเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 977.33 ล้านบาท กับเงินลงทุนข้างต้น บริษัทจะมีสภาพคล่องรวม 1,859.34 ล้านบาท ซึ่งมีมากกว่าหนี้สินที่มีดอกเบี้ยจำนวน 26ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี52 บริษัทมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยเท่ากับ 1,833.34 ล้านบาท
ในส่วนของผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 52 รวมรายได้ 4,318.73 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 51 ซึ่งมี 3,636.98 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 769.83 ล้านบาท เทียบกับ 609.14 ล้านบาท
สำหรับ 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ อีกประมาณ 4,000 ล้านบาทจาก 2 โครงการหลัก ได้แก่ ลุมพินีวิลล์ รามคําแหง26,ลุมพินี พระราม 8.
