เอเจนซี – สหรัฐฯ พร้อมชำระค่าบำรุงทั้งล็อตเก่าและใหม่ รวมเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ที่ยังติดค้างสำนักงานการรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติแล้ว ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่กำลังพิจารณาเรื่องการรักษาสันติภาพ เมื่อวันพุธ (5)
“ขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ในระหว่างการสะสางเงินที่ค้างชำระกับสำนักงานการรักษาสันติภาพตั้งแต่ปี 2005-2008 ทั้งหมด รวมทั้งจะส่งมอบเงินค่าบำรุงเต็มจำนวนสำหรับปี 2009 ด้วย ที่ขณะนี้ประมาณกันว่าอยู่ในราว 2,200 ล้านดอลลาร์”
ทางด้านโฆษกหญิงของสำนักงานผู้แทนถาวรของสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยอดเงินค้างชำระในระหว่างปี 2005-2008 อยู่ที่ 159 ล้านดอลลาร์ จึงคาดว่าสหรัฐฯ จะต้องชำระเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,360 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของสหประชาชาติ และรับผิดชอบงบประมาณด้านการรักษาสันติภาพถึงราวหนึ่งในสี่ของงบประมาณรวมซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างทหารและตำรวจกว่า 110,000 คนที่ปฏิบัติภารกิจในที่ต่างๆ ทั่วโลก 15 ภารกิจด้วยกัน
“ข่าวดียิ่ง” ดังกล่าวเป็นไปตามคำมั่นของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เคยบอกว่าจะสนับสนุนสหประชาชาติ และเมื่อเดือนมิถุนายนเขาได้ขอให้คองเกรสผ่านความเห็นชอบในการชำระเงินดังกล่าว ซึ่งนับเป็นท่าทีที่แตกต่างจากจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตผู้นำสหรัฐฯ ที่มักวิจารณ์สหประชาชาติว่าไร้ประสิทธิภาพและมีคอร์รัปชั่น
ก่อนหน้านี้ “The Better World Campaign” ซึ่งติดตามดูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับสหประชาชาติ กล่าวว่าการที่สหรัฐฯ ไม่ชำระเงินตามกำหนด ส่งผลร้ายต่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพในพื้นที่หลายแห่ง เช่น เขตดาร์ฟูร์ทางตะวันตกของซูดาน, เฮติ, และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
“ขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ในระหว่างการสะสางเงินที่ค้างชำระกับสำนักงานการรักษาสันติภาพตั้งแต่ปี 2005-2008 ทั้งหมด รวมทั้งจะส่งมอบเงินค่าบำรุงเต็มจำนวนสำหรับปี 2009 ด้วย ที่ขณะนี้ประมาณกันว่าอยู่ในราว 2,200 ล้านดอลลาร์”
ทางด้านโฆษกหญิงของสำนักงานผู้แทนถาวรของสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติกล่าวว่า ยอดเงินค้างชำระในระหว่างปี 2005-2008 อยู่ที่ 159 ล้านดอลลาร์ จึงคาดว่าสหรัฐฯ จะต้องชำระเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,360 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของสหประชาชาติ และรับผิดชอบงบประมาณด้านการรักษาสันติภาพถึงราวหนึ่งในสี่ของงบประมาณรวมซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์ โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างทหารและตำรวจกว่า 110,000 คนที่ปฏิบัติภารกิจในที่ต่างๆ ทั่วโลก 15 ภารกิจด้วยกัน
“ข่าวดียิ่ง” ดังกล่าวเป็นไปตามคำมั่นของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่เคยบอกว่าจะสนับสนุนสหประชาชาติ และเมื่อเดือนมิถุนายนเขาได้ขอให้คองเกรสผ่านความเห็นชอบในการชำระเงินดังกล่าว ซึ่งนับเป็นท่าทีที่แตกต่างจากจอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตผู้นำสหรัฐฯ ที่มักวิจารณ์สหประชาชาติว่าไร้ประสิทธิภาพและมีคอร์รัปชั่น
ก่อนหน้านี้ “The Better World Campaign” ซึ่งติดตามดูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับสหประชาชาติ กล่าวว่าการที่สหรัฐฯ ไม่ชำระเงินตามกำหนด ส่งผลร้ายต่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพในพื้นที่หลายแห่ง เช่น เขตดาร์ฟูร์ทางตะวันตกของซูดาน, เฮติ, และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
