00 เข้าใจสภาพความรู้สึกของคนใน “วงษ์สุวรรณ” ว่ากำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจไปกับปมที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กำลังถูกมรสุมรุมเร้า อาจไปไม่ตลอดรอดฝั่งจนถึงเกษียณอายุราชการในอีกไม่ถึงสองเดือนข้างหน้า และที่น่าจะเป็น “วิบากกรรม” ครั้งใหญ่ที่สุดอีกเรื่องก็คือ การชี้มูลของ ป.ป.ช. กรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ หลังจากก่อนหน้าที่ได้ “เพิ่มข้อหา” ผิดวินัย-อาญา แว่วว่ากลางเดือนก็จะรู้ผลว่า “คุก-ไม่คุก”
00 ส่วนอำนาจในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าฟังจากคำพูดของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ในฐานะประธาน กตร. ที่บอกว่าในช่วงที่ พัชรวาท ลากิจยาวไปต่างประเทศ จะหาคนมารักษาการเก้าอี้ตัวนี้แทน แม้จะพูดรักษาน้ำใจ “เทพเทือก” ก็ตามทีว่าจะต้องหารือกันก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นกับการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลัก พูดแบบนี้ก็เห็นแววไปค่อนตัวแล้วนะ “พี่ป๊อด”
00 นอกจากเรื่องของ “ตอ” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำท่าจะ “หด” ลงแล้ว เรื่องอำนาจในการทำโผโยกย้ายนายตำรวจก็จำเป็นต้องถูกโอนไปให้ ผบ.ตร.คนใหม่เป็นคนจัดทำบัญชีรายชื่อ เพราะที่ผ่านมานายกฯบอกว่า ได้ระงับโผเก่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่จะดึงดันจะโยกย้ายให้ได้นั้นก็ให้เลิกคิดไปได้ เพราะติดเงื่อนระเบียบกฎหมายทั้งของ ก.พ.และระเบียบ กตร.ห้ามไม่ให้ ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการภายใน 60 วัน เข้ามาจุ้นจ้าน และเมื่อนับนิ้วดูแล้วจากวันนี้ ( 4 ส.ค.) ไปจนวันเกษียณฯ ก็ไม่ทันการณ์แล้ว
00 นี่ก็ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า เพราะจู่ๆ มีเสียงโวยวาย “ผิดคิว” ดังลอดรั้วจากบ้านหลังใหญ่ย่านลาดพร้าวที่กำลังตบเท้าให้กำลังใจกันในหมู่เครือญาติ แว่วๆ ทำนองว่า “ขอเงินคืน” เพราะทุกอย่างกำลังพลิกผัน ฮ่วย !!
00 ส่วนคดีทุจริต “กล้ายาง” ก็กำลังมาถึงจุดไคลแม็กซ์แล้ว เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองกำลังจะพิพากษาในวันที่ 17 ส.ค. นัยว่าหลายคนกำลังโฟกัสไปที่ “เสี่ยเน” ว่าจะลงเอยอย่างไร แต่ก็มีเสียงบ่นให้เข้าหูทำนองกังขาว่า ทำไมในขั้นส่งฟ้องดูเหมือนมีความพยายาม “จงใจ” ทำสำนวนให้อ่อนปวกเปียก อย่างนี้ก็เสร็จโก๋อีกละซี แต่ก็อย่างว่า ขนาด “แก้วสรร อติโพธิ” อดีต คตส. ยังเคยไปขึ้นให้การเป็นพยานจำเลยมาแล้ว !!
00 ส่วนอำนาจในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าฟังจากคำพูดของ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ในฐานะประธาน กตร. ที่บอกว่าในช่วงที่ พัชรวาท ลากิจยาวไปต่างประเทศ จะหาคนมารักษาการเก้าอี้ตัวนี้แทน แม้จะพูดรักษาน้ำใจ “เทพเทือก” ก็ตามทีว่าจะต้องหารือกันก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นกับการตัดสินใจของตัวเองเป็นหลัก พูดแบบนี้ก็เห็นแววไปค่อนตัวแล้วนะ “พี่ป๊อด”
00 นอกจากเรื่องของ “ตอ” ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำท่าจะ “หด” ลงแล้ว เรื่องอำนาจในการทำโผโยกย้ายนายตำรวจก็จำเป็นต้องถูกโอนไปให้ ผบ.ตร.คนใหม่เป็นคนจัดทำบัญชีรายชื่อ เพราะที่ผ่านมานายกฯบอกว่า ได้ระงับโผเก่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่จะดึงดันจะโยกย้ายให้ได้นั้นก็ให้เลิกคิดไปได้ เพราะติดเงื่อนระเบียบกฎหมายทั้งของ ก.พ.และระเบียบ กตร.ห้ามไม่ให้ ผบ.ตร. ที่จะเกษียณอายุราชการภายใน 60 วัน เข้ามาจุ้นจ้าน และเมื่อนับนิ้วดูแล้วจากวันนี้ ( 4 ส.ค.) ไปจนวันเกษียณฯ ก็ไม่ทันการณ์แล้ว
00 นี่ก็ไม่รู้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า เพราะจู่ๆ มีเสียงโวยวาย “ผิดคิว” ดังลอดรั้วจากบ้านหลังใหญ่ย่านลาดพร้าวที่กำลังตบเท้าให้กำลังใจกันในหมู่เครือญาติ แว่วๆ ทำนองว่า “ขอเงินคืน” เพราะทุกอย่างกำลังพลิกผัน ฮ่วย !!
00 ส่วนคดีทุจริต “กล้ายาง” ก็กำลังมาถึงจุดไคลแม็กซ์แล้ว เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองกำลังจะพิพากษาในวันที่ 17 ส.ค. นัยว่าหลายคนกำลังโฟกัสไปที่ “เสี่ยเน” ว่าจะลงเอยอย่างไร แต่ก็มีเสียงบ่นให้เข้าหูทำนองกังขาว่า ทำไมในขั้นส่งฟ้องดูเหมือนมีความพยายาม “จงใจ” ทำสำนวนให้อ่อนปวกเปียก อย่างนี้ก็เสร็จโก๋อีกละซี แต่ก็อย่างว่า ขนาด “แก้วสรร อติโพธิ” อดีต คตส. ยังเคยไปขึ้นให้การเป็นพยานจำเลยมาแล้ว !!