xs
xsm
sm
md
lg

“วงษ์สุวรรณ” ร้อน 'ตอ' น้องฟ้อง ASTV-พี่ขู่เล่นใต้ดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ASTVผู้จัดการายวัน - “พัชรวาท” อ้างปกป้องศักดิ์ศรี ทิ้งทวนฟ้องหมิ่น ASTVผู้จัดการ กล่าวหาลงข่าวเปิดประเด็น พล.ต.อ.ธานี เจอตอบี๊กมีสีข่มขู่สอบสวนคดีฆ่าสนธิ ไม่ชอบ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 7 ก.ย. ขณะที่ทีมโฆษกนำคำฟ้องแจกสื่อประจำ ตร.หาพวกลงข่าวช่วยนาย “ประวิตร” กร้าว ประกาศสู้ทั้งบนดินและใต้ดิน อ้างตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ทนไม่ไหวถูกกล่าวหาฝ่ายเดียว



วานนี้ (30 ก.ค.) เวลา 16.20 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความ รับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องบริษัท เอเอสทีวีผู้จัดการ จำกัด ผู้ประกอบการ นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน และ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 326, 328, 332

ฟ้องโจทก์ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-21 ก.ค.2552 ลงข่าวในหน้า3 ว่า “ทวงถามความคืบหน้าคดียิงสนธิ...พล.ต.อ.ธานี ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า มีการข่มขู่ให้หยุดสืบสาวราวเรื่อง ไม่เช่นนั้นจะถูกเบรกตำแหน่ง ..และเขียนต่อไปว่า จึงขอให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ โดยฉบับวันที่ 15 ก.ค.ลงข่าวว่า มีความเคลื่อนไหวในการขัดขวางการสอบสวนการทำคดีมาตลอด ถึงขั้นบิ๊กมีสี เรียกไปข่มขู่หลายครั้งให้ยุติ ทำให้หลาบคนต้องหัวหด แม้กระทั่ง พล.ต.อ.ธานี ออกมารับว่า “เจอตอ” ฉบับวันที่ 16 ก.ค.ก็ลงข่าวว่า พล.ต.อ.ธานี ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้าไปบัง ผบ.ตร.แต่มีคนอื่นไปรายงานแล้ว

ฉบับวันที่ 17 ก.ค.2552 ลงข่าวอีกว่า คำพูดของ พล.ต.อ.ธานี ที่เหลืออด ที่ถูกขู่และหาว่ามีตำรวจเป็นไส้ศึก และว่า การทำคดีลอบสังหาร นายสนธิ มีอุปสรรค จนทำให้นายตำรวจหลายคนต้องถอย ฉบับวันที่ 20 ก.ค.ลงข่าวอีกว่า หักพัชรวาท มาร์ค ทันเกม ไส้ศึก ย้ายกลับมือดีมาทำคดีสนธิ นายกฯมีข้อมูลใครสั่งฆ่า สั่งตำรวจสืบสวนต่อ หลังพัชรวาท สั่งย้าย อ้างกลับไปปฏิบัติภารกิจท่าสุราษฎร์ ... การอยู่ในตำแหน่งต่อไปทำให้คนหวาดผวา คำสั่งย้ายพัชรวาท มัดพัชรวาทขวางทำคดี ...พัชรวาทออกคำสั่งย้าย พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ แต่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ พัชรวาทจึงสั่งย้าย พ.ต.อ.วิวัฒน์ ไปสุราษฎร์ และฉบับวันที่21 ก.ค.ก็ลงข่าวว่า พล.ต.ท.อัศวิน เป็นผู้รายงานคดีให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ทราบเป็นระยะ

ข้อความทั้งหมดเป็นความเท็จทั้งสิ้น เป็นการดูหมิ่นโจทก์ ทำให้ประชาชนเชื่อว่าโจทก์ใช้อำนาจในหน้าที่โดยมิชอบ ไม่สนองนโยบายการทำงานของรัฐบาล ขัดขวางการสืบสวนคดีลอบฆ่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล มิให้เป็นผลสำเร็จ และมีการข่มขู่โดยนายพลใหญ่ ที่อยู่เหนือ พล.ต.อ.ธานี ซึ่งทำให้ทราบทันที ว่า นายพลใหญ่คือโจทก์ และลงข่าวให้เข้าใจว่า โจทก์เป็นลงนามย้าย พ.ต.อ.วิวัฒน์ เพื่อขัดขวางการสืบสวน ทั้งชี้นำประชาชนให้เข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีสั่งย้ายมือดี คือ พ.ต.อ.วิวัฒน์ กลับมา อันเป็นการเสนอข่าวว่ามีการขัดแย้งในการสอบสวน และโจทก์เป็นผู้ขัดขวาง ทั้งที่ความจริงโจทก์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และเป็นคนสั่ง พล.ต.ท.ธานี ให้ปฏิบัติไปตามหน้าที่เอง โจทก์ไม่เคยขัดขวางการสอบสวน จึงเป็นการใส่ความโจทก์ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมายและลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์หลายฉบับเป็นเวลา 7 วันต่อไป

การกระทำของจำเลยทั้งสอง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เกียรติคุณ ทำให้เห็นว่าโจทก์ไม่สมควรจะดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.อีกต่อไป สมควรอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งย้ายโจทก์ เพราะหากดำรงตำแหน่งต่อไปจะกระทบการสืบสวนสอบสวนคดี ทั้งที่ความจริงแล้วโจทก์ เป็นผู้สั่ง พล.ต.อ.ธานี ให้รับผิดชอบคดีและยังสั่งอนุมัติแต่งตั้งพนักงานสอบสวนชุดต่างๆ อีก โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษตามกฎหมาย และให้จำเลยทั้งสอง ร่วมกันโฆษณาคำพิพากษา ใน นสพ.รายวัน รวม 7 ฉบับเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน ศาลรับคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2660/2552 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น.

ด้าน นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน กล่าวว่า ไม่ได้ตกใจถึงกรณีที่ผบ.ตร.ฟ้องร้องในครั้งนี้ โดย นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน ได้ทำตามหน้าที่ของสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงแก่ประชาชน และพร้อมที่จะไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล

อย่างไรก็ตาม ต่อมาเวลา 18.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานโฆษก ตร.ได้นำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงและมูลเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ฟ้องหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี-ผู้จัดการ มาแจกจ่ายให้สื่อมวลชน เนื่องจากเกรงว่า สื่อที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ได้ข่าวฟ้องดังกล่าว

“ป้อม” ท้าชนหวังป้อง “ป๊อด”

พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า ขณะนี้ครอบครัววงษ์สุวรรณทนไม่ไหวแล้วกับพฤติกรรมดังกล่าว เพราะถูกเล่นฝ่ายเดียว ขณะนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ในฐานะน้องชาย ไปดำเนินการฟ้องร้องเอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน และพวกที่กล่าวหาแล้ว

“ตอนนี้ไม่ยอมแล้ว จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องทีเกิดขึ้น เพราะถือว่ายอมมามากแล้ว และเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำฝ่ายเดียว ตอนนี้จะเดินหน้าฟ้องตามกฎหมายทุกอย่างหรือ นอกกฎหมายก็จะยอมทำ”

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข่าวว่า หากนายกฯ มีการปลด ผบ.ตร. ทาง รมว.กลาโหมจะลาออกจากตำแหน่ง พล.อ.นพดล กล่าวว่า เรื่องลาออกต้องติดตามกันต่อไป ยังไม่รู้ว่า ท่านจะลาออก หรือจะอยู่ต่อ เรื่องนี้ต้องดูเอาเองแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไร ขอยืนยันว่า พวกญาติพี่น้อง วงษ์สุวรรณ จะต่อสู้เพราะทนไม่ไหว ท่าน ผบ.ตร. ผิดตรงไหน และเอาเหตุผลอะไรมาปลดท่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันที่หน้าห้องผู้สื่อข่าวกองทัพบก ได้มีใบปลิวมาวางไว้บริเวณโต๊ะม้าหินหน้าห้อง โดยเนื้อความระบุว่า การปลด พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นแผนขั้นแรกในการวางฐานอำนาจของรัฐบาล เพื่อวางคนตัวเองเพื่อเป็นฐานการเมืองและการเลือกตั้ง โดยที่ผ่านมา การสั่งให้ตำรวจสนับสนุนการเลือกตั้งซ่อมที่ สกลนคร ไม่เป็นผล เพราะตำรวจไม่ปฏิบัติตาม เมื่อเปลี่ยน ผบ.ตร.ใหม่เป็นคนของตัวเองก็จะง่ายขึ้น จากนั้นจะรุกคืบไปยังกองทัพ โดยใช้กลไกในการกล่าวหา ตั้งเรื่องไป ปปช.เพื่อเป็นเหตุผลในการสอบสวน ปลด ผบ.ทบ. จากนั้นก็จะกวาดล้างและย่อยสลายกลุ่มเสื้อแดง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้อำนาจที่เบ็ดเสร็จและให้รัฐบาลอยู่ในอำนาจต่อไปอีกหลายปี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น