xs
xsm
sm
md
lg

ชี้เด็กขาดพ่อแนวโน้มต่อต้านสังคม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดลิเมล์ - ในโลกที่ความก้าวหน้าในการโคลนนิ่งและพันธุกรรมกำลังคุกคามผู้ชายมากขึ้น แต่นักวิจัยมีข่าวคราวที่น่าจะทำให้สุภาพบุรุษทั้งหลายพอเบาใจได้บ้าง
การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่าพ่อมีบทบาทสำคัญในชีวิตครอบครัว โดยหากปราศจากพ่อในวัยเริ่มต้นอันสำคัญของชีวิต ลูกจะเติบโตขึ้นมาโดยขาดทักษะในการเข้าสังคม
แม้ผลการค้นพบนี้มาจากการศึกษากับสัตว์ แต่ก็ถือเป็นหลักฐานที่ตอกย้ำว่าพ่อมีบทบาทอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูก
วารสารนิวไซเอนทิสต์รายงานว่า การศึกษาหลายฉบับก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า เด็กผู้หญิงที่ขาดพ่อตอนเป็นเด็ก มีแนวโน้มแตกเนื้อสาวเร็ว ข้องแวะกับเพศสัมพันธ์ก่อนวัย และตั้งครรภ์ตั้งแต่ยังวัยรุ่น
งานศึกษาอีกหลายชิ้นบ่งชี้ว่า เด็กชายที่ขาดพ่อมีความภูมิใจในตัวเองต่ำเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
สำหรับงานศึกษาล่าสุดได้มุ่งประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพของหนูทดลอง เมื่อโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่ออยู่ใกล้ๆ
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมกกิลล์ แคนาดา ใช้หนูทดลองที่เป็นพวกผัวเดียวเมียเดียวและมีแนวโน้มช่วยกันเลี้ยงลูกเหมือนคน
ในกลุ่มแรก พ่อหนูจะถูกแยกออกไปเมื่อลูกหนูอายุได้สามวัน และอยู่แบบนั้น 30-40 วัน
จากนั้น ทีมนักวิจัยที่นำโดยดร.เกเบรียลลา ก็อบบี้ ได้วิเคราะห์พฤติกรรมและเซลล์สมองของลูกหนูเหล่านั้นโดยเปรียบเทียบกับลูกหนูกลุ่มที่สองที่ได้อยู่ร่วมกับทั้งพ่อและแม่
สิ่งที่พบคือ เซลล์สมองของลูกหนูที่อยู่แต่กับแม่ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนความผูกพัน 'ออกซิโตซิน' ที่สมองปล่อยออกมาหลังจากการมีเพศสัมพันธ์หรือการได้รับสัมผัสที่อบอุ่น
หมายความว่าหนูกลุ่มแรกมีแนวโน้มรู้สึกดีต่อการได้อยู่ร่วมกับตัวอื่นๆ น้อยกว่าปกติ นอกจากนี้ หนูที่ไม่มีพ่อยังมีพฤติกรรมต่อต้านสังคม
"ปกติแล้ว ถ้าคุณจับสัตว์สองตัวมาไว้ในกรงเดียวกัน พวกมันจะดูท่าทีและสัมผัสกัน แต่เมื่อเรานำหนูที่ไม่ได้อยู่กับพ่อมาอยู่ด้วยกัน พวกมันกลับไม่สนใจกันเลย" ดร.ก็อบบี้อธิบาย
นักวิจัยยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเด็กที่เติบโตโดยปราศจากพ่อหรือไม่ และผลการศึกษานี้ใช้ได้กับคนหรือไม่
ในการทดลอง พ่อหนูจะเลียขนให้ลูกมากกว่าแม่ และด้วยเหตุที่การแสดงความรักดังกล่าวส่งผลต่อพัฒนาการของลูกหนู ดังนั้น การขาดแคลนสัมผัสทางร่างกายจึงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองตามไปด้วย
การค้นพบนี้เป็นการต่อยอดการศึกษาก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นว่า ระดับฮอร์โมนออกซิโตซินของผู้ชายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากลูกคลอดออกมา
ดร.รูธ เฟลด์แมน จากมหาวิทยาลัยบาร์-อิรานในรามัต-กัน อิสราเอล วัดระดับฮอร์โมนออกซิโตซินในสามีภรรยา 80 คู่ ก่อนมีลูกและหลังจากลูกอายุครบหกเดือน ซึ่งพบว่าระดับฮอร์โมนความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นในทั้งพ่อและแม่หลังลูกเกิด
อย่างไรก็ตาม ฮอร์โมนนี้ส่งผลต่อพ่อและแม่คนละแบบกัน กล่าวคือแม่ที่มีฮอร์โมนชนิดนี้มากที่สุด จะใช้เวลาจ้องมอง ลูบไล้และหอมลูกยาวนาน รวมถึงพูดคุยด้วยน้ำเสียงไพเราะราวบทเพลง
ขณะที่พ่อที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนชนิดนี้ออกมามากที่สุด จะเล่นกับลูกมากกว่าพ่อที่สมองปล่อยออกซิโตซินออกมาน้อยที่สุด
"พ่อและแม่มีอิทธิพลในรูปแบบที่แตกต่างและพิเศษอย่างมาก" ดร.เฟลด์แมนยังเชื่อว่า พ่ออาจถูกตั้งโปรแกรมทางชีววิทยาเพื่อให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาการของลูก
กำลังโหลดความคิดเห็น