xs
xsm
sm
md
lg

แซยิดช่วยชีวิต ‘ป๊อด’เทือกได้ทียื่นเงื่อนไขแลกเด้งเก้าอี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานสรุปคดี"สนธิ"ถึงมือนายกฯ อ้างรออ่านก่อนตัดสินใจ"สุเทพ"อุ้ม"พัชรวาท"อ้างสรุปผลสอบ"ธานี"ไม่ระบุใครคือตอ โยนนายกฯตัดสินใจ แฉเบื้องหลัง “เทือก” ยื่นเงื่อนไขต่อรองขอดูผลงานช่วงแซยิดแม้วก่อน "สุริยะใส"อัดรองนายกฯเลือกเป็นตอเสียเอง แฉผลประโยชน์ทางการเมืองลงตัวไม่ปลด"พัชรวาท"จี้นายกฯต้องตอบสังคม ด้าน"พัชรวาท"เก็บตัวเหงียบ ส่งโฆษก แจงแทน บอกนาย ยิ้มแย้มทำงานตามปกติ

วานนี้(24 ก.ค.)เวลา 15.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เพื่อยื่นเอกสารซึ่งเป็นรายงานสรุปผลการสอบสวนของคดีให้กับนายสุเทพ ที่ตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที พล.ต.อ.ธานี จึงเดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด และเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.อ.ธานี มีสีหน้าที่เคร่งเครียด

จากนั้นเวลา 17.10 น.นายกรัฐมนตรี ได้เดินลงจากตึกบัญชาการ พร้อมตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนกำลังจะไปรับเอกสารที่ทางสำนักงาน นายสุเทพ ส่งมาให้ เดี๋ยวตนจะไปรอรับก่อนและเดี๋ยวไปดู เมื่อถามว่าตกลงมีการโยกย้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามแต่อย่าง

"เทพ"อ้างไม่มีอำนาจปลด

ต่อมาเวลา 17.20 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ ว่าตนได้รับชรายงานจาก 4 ท่านด้วยกัน คือ 1.พล.ต.อ.พัชรวาท สงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. 2.พล.ต.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งท่านได้เขียนรายงาน ถือมาให้ด้วยตนเอง 3. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ 4.พล.ต.ท.วรพงศ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ซึ่งทั้ง 4 คนมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวข้องกับคดีความซึ่งกำลังเป็นข่าวที่คนสนใจอยู่ ตนจึงให้ทั้ง 4 คนทำรายงานมาถึงตนว่า เกิดอะไรขึ้นในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ มีปัญหา มีอุปสรรคอย่างไร ทั้ง 4 คนทำเป็นรายงานลับ ตนจึงขออนุญาตว่าไม่สามารถ นำมาเปิดเผยได้ แต่ได้ถ่ายสำเนารายงานทั้งหมดเก็บไว้ และทำบันทึกเสนอนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งรายงานให้ทราบว่าตนได้ดำเนินการเรี่องนี้อย่างไร แต่ก็ต้องขออนุญาตว่าเป็นเรื่องคดีความอยู่ จึงไม่สามารถเปิดเผยได้

เมื่อถามว่า แสดงว่าเมื่อได้รับรายงานจากทั้ง 4 คน ได้ตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานี้แล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจทำงานในส่วนที่สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับและสิ่งที่สามารถจะปฏิบัติได้ แล้วนำรายงานทั้งหมดนั้นสรุปรวมไปด้วย เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งการตัดสินใจของตนที่รายงานไปแล้ว นายกรัฐมนตรียังสามารถใช้อำนาจได้ทุกอย่าง ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา จึงรายงานให้ทราบ เมื่อนายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานแล้วจะพิจารณาอย่างไร เห็นชอบหรือไม่ ดำเนินการอย่างไร หรือไม่ดำเนินการอย่างไร ก็แล้วแต่

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การตัดสินใจครั้งนี้จะช่วยทำให้คดีเดินหน้าได้อย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า เท่าที่ตนฟังเรื่องที่รายงานมาทั้งหมด คดีก็เดินหน้าไปได้อยู่แล้ว

อ้าง"ธานี"ไม่รายงานใครคือตอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่ามองว่า ไม่เห็นอุปสรรค หลังจากที่ได้รับรายงานจากทั้ง 4 คนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน และขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่ามีอะไร คดีเดินหน้าไปได้อยู่แล้ว แต่ที่เสนอไปที่ท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ตนไม่ได้เขียนอย่างนี้ แต่เอาเป็นว่า บางอย่างไม่ได้เป็นผลกับประชาชน เป็นเรื่องของการปฏิบัติราชการ ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่า ผบ.ตร.ยังสบายใจอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้หรือไม่ นายสุเทพ ย้อนว่า ต้องไปถาม ผบ.ตร. ตนตอบแทนไม่ได้ แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเอง

ส่วนการตัดสินใจของนายสุเทพ มีผลต่อตำแหน่งผบ.ตร.หรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ไม่มั๊ง ส่วนที่คนมองว่าปกป้องผบ.ตร.หรือไม่นั้น คนจะมองอย่างไร เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้อยู่แล้ว แต่ตนได้ทำตามกฎเกณฑ์กติกา ในกรอบระเบียบกฎหมายที่ให้อำนาจตนไว้ ตนได้ทำตามนั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า พูดชัด ๆ เลยได้หรือไม่ว่าปลดผบ.ตร.หรือไม่ปลด นายสุเทพ ตอบว่า ตนปลดเขาไม่ได้อยู่แล้ว ตนไม่มีอำนาจปลดใครซักคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอของคดียิงนายสนธิ ยังอยู่หรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าตออยู่ที่ไหน พล.ต.อ.ธานี ไม่ได้รายงานให้ทราบ เมื่อถามต่อว่า แสดงว่ายังไม่ได้มีการจัดการตอหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และอ่านแล้วไม่เห็นอะไรเลย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แสดงว่าการตัดสินใจของนายสุเทพ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวบุคคลเลยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี และตนไม่ได้ทราบว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานนายกรัฐมนตรีว่าอย่างไรบ้าง แต่ในรายงานที่ พล.ต.อ.ธานี มีมาถึงตน ไม่ได้ระบุตัวบุคคลอะไรเลย

ปัดไม่ย้ายเพราะ"พล.อ.ประวิตร"

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีเสียงวิจารณ์ว่าที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวผบ.ตร.ได้ เพราะมีพี่ชายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น นายสุเทพ ตอบว่าคนเราวิจารณ์ไปได้เรื่อย เป็นเรื่องที่จะวิจารณ์ แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่า ตอนนี้เป็นช่วงที่มีการแต่งตั้งโยกย้าย และมีข้อครหาถึงขณะว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง และที่ไม่สามารถเอาออกจากตำแหน่งได้ เพราะมีการจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว นายสุเทพ ย้อนถามกลับว่า ซื้อจากใคร ใครเป็นคนขาย ใครเป็นคนซื้อ ส่วนตัวตนยังไม่เห็นอะไรเลย ทั้งการซื้อและการขาย เมื่อถามว่า การตัดสินใจครั้งนี้คิดว่า นายกฯจะเห็นด้วยไหม คุยกับนายกฯบ้างหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่ตนได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว เมื่อถามว่า จำเป็นต้องคุยกันเร็วหรือไม่เรื่องนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านเรียกเมื่อไรก็เมื่อนั้น

ยอมรับการตัดสินใจของนายกฯ

ต่อข้อถามว่าตกลงวันนี้ไม่มีอะไรในก่อไผ่ใช่ไหม นายสุเทพ กล่าวว่า ในก่อไผ่ก็มีหน่อไม้ เอาไว้ให้นายกฯพิจารณาก่อน เมื่อถามว่า ถ้านายกฯตัดสินใจในทางที่แตกต่างจากท่านคิดอย่างไรจะยอมรับการตัดสินใจของนายกฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นรองนายกฯ ก็ต้องยอมรับ เมื่อถามต่อว่า คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ท่านกับนายกฯขัดแย้งกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เคยมี และไม่คิดว่าจะมี เมื่อถามว่า การตัดสินของท่านจะสอดคล้องกับการตัดสินใจของนายกฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อุ๊ยนายกฯก็ต้องมีความคิดของท่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสนธิ อาจจะสบายใจกว่าถ้า ผบ.ตร.ไม่ได้ชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท นายสุเทพ กล่าวว่า เหรอครับ ตนไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่า อะไรทำให้ท่านมั่นใจว่า คดีจะเดินหน้าไปได้ถ้าทุกอย่างยังเหมือนเดิม รองนายกฯ กล่าวว่า ตนก็อ่านตามรายงาน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายกฯอีกครั้งว่า ได้มีการอ่านสรุปผลสอบคดีสนธิที่ส่งมาหรือไม่ นายกฯ ปฎิเสธว่า ยังไม่ได้อ่าน

เผยเบื้องหลังเทือกซื้อเวลายื่นเงื่อนไขต่อรอง

รายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงเหตุผลสำคัญที่นายสุเทพยังไม่เสนอให้นายกฯโยกย้ายผบ.ตร.ออกจากตำแหน่งเนื่องจากมีการต่อรองยื่นเงื่อนไขให้พล.อ.พัชรวาท และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมที่ดูแลงานด้านความมั่นคงทั้งคู่ได้พิสูจน์ตัวเองในการเป็นเกราะกำบังและสยบบรรดา “คนเสื้อแดง” ที่กำลังคึกสุดขีดหลังจากประกาศจัดการให้นช.ทักษิณเนื่องในวันคล้ายวันเกิด วันอาทิตย์นี้และเตรียมเคลื่อนไหวต่อด้วยการชุมนุมหรือปลุกระดมคนให้เข้ามาป่วนรัฐบาลภายหลังจากนี้ ซึ่งหากพล.ต.อ.พัชรวาท หรือ พล.อ.ประวิตร ยังปล่อยให้เหตุการณ์ซ้ำรอยที่พัทยาและนายอภิสิทธิ์ถูกทำร้ายเหมือนที่กระทรวงมหาดไทยอีกก็จะมีเหตุผลเพียงพอในการปลดผบ.ตร.

อัด"สุเทพ"ตอขวางคดีสนธิ

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าปัญหาความไม่ชอบมาพากลและความไม่ไว้วางใจจากสังคมต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.ในขณะนี้ต้องเรียกว่าเข้าสู่ยุควิกฤติศรัทธาอย่างปฏิเสธไม่ได้ เหตุเพราะ สตช.ถูกแทรกแซงครอบงำจากนักการเมืองตลอดเวลา โดยเฉพาะในยุคระบอบทักษิณได้สถาปนารัฐตำรวจขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง พอมาช่วงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปัจจุบัน ก็ไม่มีความตั้งใจจริงที่จะปฏิรูป สตช.หรือสลายรัฐตำรวจเพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง

"นับวันบทบาทของตำรวจจึงเริ่มเข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองมากขึ้นพอกันกับทหาร ซึ่งจริงๆ แล้วนายกรัฐมนตรีในฐานะที่กำกับดูแล สตช.ตามกฎหมายมีเหตุผลและความชอบธรรมเพียงพอที่จะปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ได้ตลอดเวลา แต่ถูกดึงไว้จากกลุ่มอำนาจบางกลุ่มในรัฐบาล เพื่อให้อยู่จนครบเกษียณอายุราชการในอีก 2 เดือนพร้อมๆ กับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ซึ่งจะส่งผลให้คดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล เงียบหายไปด้วย"

นายสุริยะใส กล่าวว่าการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาระบุว่าคดีนี้ไม่เจอตอ ซึ่งคงพอเห็นสัญญาณชัดเจนแล้วว่ามีการฮั๊วกันทางผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มอำนาจต่างๆ ในรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว และจุดจบของคดีนี้คงจับได้เพียงผู้ร้ายปลายแถวหรือจับแพะเท่านั้น เพราะความจริงแล้วตอที่ พล.ต.อ.ธานี ระบุก่อนหน้านี้แท้ที่จริงแล้วก็อาจเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเอง

อย่างไรก็ตามตนคิดว่าตำแหน่ง ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ. พัชรวาท คงเป็นความลงตัวทางผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มอำนาจใหม่กับพรรคประชาธิปัตย์ที่อาจมีเรื่องผลประโยชน์จากการโยกย้ายครั้งใหญ่โดยเฉพาะสารวัตรและผู้กำกับระดับโรงพักทั่วประเทศในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ก็อาจเป็นผลประโยชน์จากการวิ่งเต้น ว่ากันว่าทำบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้วรอเพียงลงนามเท่านั้น

"หากนายกฯ ไม่ปลด ผบ.ตร.ก็ต้องตอบคำถามและมีคำอธิบายกับประชาชนว่าเพราะอะไร ไม่กล้าพอ หรือ ห่วงเสถียรภาพของรัฐบาลมากกว่าการสร้างบรรทัดฐานความถูกต้อง และที่สำคัญจะสร้างความกระจ่างต่อสังคมกรณีนายตำรวจที่เป็นไส้ศึกในทีมสอบสวนคดีลอบยิงนายสนธิได้อย่างไร"

"พัชรวาท"ส่งโฆษกแจงแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตลอดทั้งวันที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสข่าวลือสะพัดออกมาจากทำเนียบรัฐบาลว่า จะมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ออกก่อนเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกปลด คือ คดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในขณะเดียวกัน ทางพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีบลอบสังหารนายสนธิ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องที่เกี่ยวข้องกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่ บช.น.และบช.ภ.7 ซึ่งมีผู้สื่อข่าวมารอทำข่าวจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ธานี ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดังกล่าว ก่อนจะเดินทางไปร่วมอัดรายการถวายพระพรเนื่องในโอกาสวัน 12 สิงหา ที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 พร้อม ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้ช่วยผบ.ตร. และรองผบ.ตร. รวมทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท ด้วย

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้นต่าง ๆนานา รวมถึงวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้ ผบ.ตร.อาจถูกปลด อาทิ เรื่องการติดตามคนร้ายในคดีลอบสังหารนายสนธิ ที่มีกระแสข่าวลือว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคในการทำงาน และขาดความรับผิดชอบในการทำงาน ,กรณี พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เคยร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ทุจริต เรื่องจัดทำงบโฆษณาของตร. รวมถึงไม่สนองเรื่องการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายในสายการเมืองในดำรงตำแหน่งตามใบสั่ง

ทั้งนี้ยังมีการคาดเดากันด้วยว่า กระแสปลด ผบ.ตร.เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจาก ทุกครั้งที่อยู่ในช่วงบรรยากาศการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจตามระเบียบของสตช. จะมีข่าวลือเสมอเรื่องการปลดผบ.ตร. อย่างไรก็ตาม ต่างเชื่อกันว่า การปลด ผบ.ตร.ครั้งนี้ เป็นได้ยากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นพี่ชายของพล.ต.อ.พัชรวาท และเป็นบุคคลหนึ่งที่มีบทบาทสูงในรัฐบาล

ส่วนภายในห้องทำงานของผบ.ตร. ชั้น 7 อาคาร 1 สตช.นั้น ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท ถึงกระแสข่าวที่เกิดขึ้น โดยตลอดในช่วงบ่าย มีนายตำรวจที่ใกล้ชิด ผบ.ตร.ทยอยเข้าพบปรึกษาหารือกัน ทั้งนี้นายตำรวจส่วนใหญ่ยังสับสน และลุ้นว่าจะมีคำสั่งมาจากทำเนียบรัฐบาลออกมาว่าอย่างไร จนกระทั่งเวลา ประมาณ 18.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯยืนยันว่า ไม่มีข่าวการปลดผบ.ตร.ในขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังคงเก็บตัวเงียบ และทำงานอยู่ภายในห้อง พร้อมทั้งปฎิเสธที่จะออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

"พัชรวาท"สีหน้ายิ้มแย้ม

ต่อมาเวลา 18.00น. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเดินเข้าออกสำนักงานของ พล.ต.อ.พัชรวาท ตลอดทั้งวันกล่าวถึงข่าวการปลด ผบ.ตร.ว่า ได้เข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อหารืองานตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้คุยเรื่องกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.พัชรวาท ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มและปฏิบัติภารกิจตามปกติ ไม่มีท่าทางเคร่งเครียดกับข่าว เพราะข่าวที่เกิดขึ้นก็คงเป็นเพียงกระแสข่าว และผบ.ตร.ก็ไม่ได้สนใจจะหาต้นตอของการปล่อยข่าวดังกล่าว

ส่วนกรณีที่มีข่าวความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.พัชรวาท กับ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ในการทำคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เรื่องการสอบสวนในคดีก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย เมื่อมอบหมายคดีแล้วก็เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน หากมีปัญหาอะไรก็สามารถปรึกษา ผบ.ตร.ได้ ส่วนจะมีความขัดแย้งหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเพราะไม่เกี่ยวข้องกับคดี

ยธ.จี้ดีเอสไอแจง“วรวุฒิ”31 ก.ค.นี้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนทีมคลี่คลายคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการติดตามตัว ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ ผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดี ว่าเป็นหน้าที่ของดึเอสไอในฐานะหน่วยราชการด้วยกันต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรณี ส.ต.ท.วรวุฒิ ที่เคยมาช่วยงานดีเอสไอในบางคดีตามที่ได้รับรายงานด้วยวาจาจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอนั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนจึงสั่งการให้ดีเอสไอชี้แจงทุกกรณีที่เกี่ยวกับ ส.ต.ท.วรวุฒิ ทั้งเรื่องงานคดีที่เข้ามาช่วย หรือการเบิกใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ หรือรถยนต์ของดีเอสไอ โดยให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมายังตนภายในวันที่ 31 ก.ค.นี้

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า ในระบบการทำงานของหน่วยงานราชการและตำรวจ การขอยืมตัวเป็นกำลังเสริมในการทำคดีต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ส่วนการยืมใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ต้องดูว่าเป็นเครื่องมือประเภทใด และระเบียบกำหนดไว้ให้ทำอย่างไรต้องดำเนินการตามระเบียบ
กำลังโหลดความคิดเห็น