เดลิเมล์ – นักวิจัยแนะพกรูปลูกน้อยไว้ในกระเป๋าสตางค์ เพราะกรณีที่ทำหล่นหาย มีโอกาสจะได้คืนมากที่สุดเนื่องจากรูปทารกวัยแบเบาะช่วยกระตุ้นสัญชาติญาณความซื่อสัตย์และความห่วงใยที่มีต่อทารก
ในการทดลอง กระเป๋าสตางค์ 240 ใบถูกนำไปสุ่มหย่อนทิ้งบนถนนในเมืองเอดินเบอระ เขตการปกครองสก็อตแลนด์ เพื่อดูว่าจะมีการส่งคืนกระเป๋าสตางค์เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
กระเป๋าสตางค์แต่ละใบจะมีรูปอยู่ภายใน แยกออกเป็นรูปทารก รูปลูกสุนัข รูปครอบครัว รูปคนแก่ และบัตรที่ระบุว่าเจ้าของกระเป๋าเพิ่งบริจาคการกุศล และกระเป๋าอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ใส่สิ่งเหล่านี้ไว้ และกระเป๋าทั้งหมดไม่มีเงินอยู่
ศาสตราจารย์ริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ ที่เป็นผู้นำการทดลองนี้ เปิดเผยว่าได้รับกระเป๋าคืน 42% โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปทารก ซึ่งกระตุ้นปฏิกิริยาความซื่อสัตย์จากผู้ที่เก็บได้มากที่สุดคือ 88% ตามด้วยกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปลูกสุนัข 53%
ส่วนกระเป๋าสตางค์ที่ใส่รูปครอบครัวได้กลับคืนมา 48% และ 28% สำหรับกระเป๋าที่มีรูปคนแก่ และ 20% และ 15% ตามลำดับสำหรับกระเป๋าที่มีบัตรผู้บริจาคและกระเป๋าที่ไม่ได้ใส่รูปหรือการ์ด
ศาสตราจารย์ไวส์แมนกล่าวว่า ผลการทดลองนี้สะท้อนสัญชาติญาณความห่วงใยที่มีต่อทารก ซึ่งเกิดจากวิวัฒนาการของความรู้สึกที่อยากทำให้แน่ใจว่าคนรุ่นต่อไปจะอยู่รอดต่อไป
ในการทดลอง กระเป๋าสตางค์ 240 ใบถูกนำไปสุ่มหย่อนทิ้งบนถนนในเมืองเอดินเบอระ เขตการปกครองสก็อตแลนด์ เพื่อดูว่าจะมีการส่งคืนกระเป๋าสตางค์เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
กระเป๋าสตางค์แต่ละใบจะมีรูปอยู่ภายใน แยกออกเป็นรูปทารก รูปลูกสุนัข รูปครอบครัว รูปคนแก่ และบัตรที่ระบุว่าเจ้าของกระเป๋าเพิ่งบริจาคการกุศล และกระเป๋าอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ใส่สิ่งเหล่านี้ไว้ และกระเป๋าทั้งหมดไม่มีเงินอยู่
ศาสตราจารย์ริชาร์ด ไวส์แมน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ ที่เป็นผู้นำการทดลองนี้ เปิดเผยว่าได้รับกระเป๋าคืน 42% โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปทารก ซึ่งกระตุ้นปฏิกิริยาความซื่อสัตย์จากผู้ที่เก็บได้มากที่สุดคือ 88% ตามด้วยกระเป๋าสตางค์ที่มีรูปลูกสุนัข 53%
ส่วนกระเป๋าสตางค์ที่ใส่รูปครอบครัวได้กลับคืนมา 48% และ 28% สำหรับกระเป๋าที่มีรูปคนแก่ และ 20% และ 15% ตามลำดับสำหรับกระเป๋าที่มีบัตรผู้บริจาคและกระเป๋าที่ไม่ได้ใส่รูปหรือการ์ด
ศาสตราจารย์ไวส์แมนกล่าวว่า ผลการทดลองนี้สะท้อนสัญชาติญาณความห่วงใยที่มีต่อทารก ซึ่งเกิดจากวิวัฒนาการของความรู้สึกที่อยากทำให้แน่ใจว่าคนรุ่นต่อไปจะอยู่รอดต่อไป