นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงาน เลือกตั้ง กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี แทนนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกไปว่า อยู่ในขั้นตอนการเสนอพระราชกฤฎีกาเลือกตั้ง โดยด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งได้เสนอวันที่ 30 ส.ค.เป็นวันเลือกตั้งซ่อม ซึ่งกกต. ต้องหารือกันก่อนว่าจะเห็นด้วยกับวันดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้กกต. สุราษฎร์ธานี เตรียมจัดการเลือกตั้งซ่อมแล้ว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเราได้มีการจัดการเลือกซ่อนนายกฯ อบจ.สุราษฎร์ฯ ในวันที่ 26 ก.ค. ที่ได้มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าส.ส.ที่ถูกกต.ตัดสินลาออกกันหมดพร้อมจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดว่า หาก ส.ส.ลาออก กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน อย่างไรก็ต้องทำ รวมถึงงบประมาณที่ต้องขอเพิ่มเติมจากรัฐบาล เพราะกกต.ไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ แต่อยากจะบอกว่าไม่น่าจะลาออก เพราะไม่ถือเป็นการแสดงสปิริต และเรื่องนี้ไม่ใช่การทุจริต แต่เป็นเรื่องการตีความข้อกฎหมาย ที่นักวิชาการยังมีการถกเถียงกันอยู่ขออย่าพึ่งลาออก หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าไม่พ้นจากตำแหน่งด้วยการกระทำดังกล่าว แต่มีการลาออกไปก่อนแล้วงบประมาณที่ใช้จัดการเลือกตั้งใหม่ใครจะรับผิดชอบ
ส่วนการลาออกของนายสุเทพ เป็นการกดดันกกต.ให้รับผิดชอบ ที่กกต.วินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่นั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อกฎหมาย หากมองเห็นต่าง ก็ไม่ใช่ข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นดุลยพินิจ มุมมองทางกฎหมายมองไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องปกติของทางนิติศาสตร์ แม้แต่คำพิพากษาของศาลก็ยังสามารถกลับได้ และจะมากดดันหรือประชด กกต.แบบนี้ก็ไม่ถูก น่าจะไปประชดคนร้องเรียนมากกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท้าให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานีแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์แทนพื้นที่ที่ว่างลงภายหลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลาออกจากส.ส.ว่า นายยงยุทธได้ปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแล้ว คนเป็นหัวหน้าพรรคอันดับ 1 ที่มีส.ส.ถึง 188 เสียงนั้นต้องลงสมัครส.ส.แบบสัดส่วนถึงจะเหมาะสม
ทั้งนี้เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาเมื่อใดพรรคเพื่อไทยยืนยันว่ามีความพร้อมเรื่องตัวผู้สมัครส.ส.ที่ดี เด่น ดังอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เบื้องต้นมีรายชื่อ ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน โดยจะพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะฐานคะแนนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เคลียร์เรื่องภายในพรรคตัวเองให้ได้ก่อน ที่จะมาท้าคนอื่น เพราะยังเห็นกัดกันอยู่ฝุ่นตลบระหว่างกลุ่มทศวรรษใหม่กับกลุ่มผลัดใบว่าจะส่งใครลง ระหว่างน้องชายของนายสุเทพหรือ กับ บุตรชายของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน
ดานนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อนายยงยุทธ ไม่ม่พร้อม ไม่สู้ ในการลงสมัครเลือกตั้งซ่อมคงจะไปฝืนใจไม่ได้ เพราะคนเล่นการเมืองต้องมีจิตใจพร้อมทำงานการเมือง แต่เมื่อถอดใจก็ไม่ว่ากัน ส่วนที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยระบุว่าการที่ตนท้าทายนายยงยุทธ ให้ลงสัมคร ส.ส.ถือว่า ไม่เป็นธรรมเพราะน่าจะท้าทายนักการเมืองด้วยกันนั้น ตนก็ไม่เข้าใจว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนักการเมืองหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพียงแขกยามหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นนักการเมือง แต่ลูกพรรคเพื่อไทยกลับไม่รู้ว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นการเมือง
ส่วนที่เสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตบปากตนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวิธีการอย่างนี้ เพราะเป็นพรรคที่ส.ส. แสดงความเห็นได้เต็มที่ แต่ถ้าต้องการจะปิดปากพวกตนก็ขอให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ปิดปากพูดจาให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ก่อน พวกตนจึงจะหยุดการให้สัมภาษณ์ตอบโต้ ส่วนที่มีการท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ ลงสมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานและเหนือนั้น คงจะไม่ได้ เพราะขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นส.ส.แล้ว แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าพิสูจน์ศรัทธาของประชาชน ก็ขอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นทมี่ภาคอีสานและเหนือลาออกจะได้เห็นการแข่งขันกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล ทั้งนี้การที่มีการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าส.ส.ที่ถูกกต.ตัดสินลาออกกันหมดพร้อมจัดการเลือกตั้งหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า กฎหมายกำหนดว่า หาก ส.ส.ลาออก กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน อย่างไรก็ต้องทำ รวมถึงงบประมาณที่ต้องขอเพิ่มเติมจากรัฐบาล เพราะกกต.ไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ แต่อยากจะบอกว่าไม่น่าจะลาออก เพราะไม่ถือเป็นการแสดงสปิริต และเรื่องนี้ไม่ใช่การทุจริต แต่เป็นเรื่องการตีความข้อกฎหมาย ที่นักวิชาการยังมีการถกเถียงกันอยู่ขออย่าพึ่งลาออก หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าไม่พ้นจากตำแหน่งด้วยการกระทำดังกล่าว แต่มีการลาออกไปก่อนแล้วงบประมาณที่ใช้จัดการเลือกตั้งใหม่ใครจะรับผิดชอบ
ส่วนการลาออกของนายสุเทพ เป็นการกดดันกกต.ให้รับผิดชอบ ที่กกต.วินิจฉัยผิดพลาดหรือไม่นั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อกฎหมาย หากมองเห็นต่าง ก็ไม่ใช่ข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นดุลยพินิจ มุมมองทางกฎหมายมองไม่ตรงกันถือเป็นเรื่องปกติของทางนิติศาสตร์ แม้แต่คำพิพากษาของศาลก็ยังสามารถกลับได้ และจะมากดดันหรือประชด กกต.แบบนี้ก็ไม่ถูก น่าจะไปประชดคนร้องเรียนมากกว่า
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ท้าให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานีแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์แทนพื้นที่ที่ว่างลงภายหลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลาออกจากส.ส.ว่า นายยงยุทธได้ปฏิเสธที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแล้ว คนเป็นหัวหน้าพรรคอันดับ 1 ที่มีส.ส.ถึง 188 เสียงนั้นต้องลงสมัครส.ส.แบบสัดส่วนถึงจะเหมาะสม
ทั้งนี้เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาเมื่อใดพรรคเพื่อไทยยืนยันว่ามีความพร้อมเรื่องตัวผู้สมัครส.ส.ที่ดี เด่น ดังอย่างแน่นอน ทั้งนี้ เบื้องต้นมีรายชื่อ ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน โดยจะพิจารณาจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะฐานคะแนนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เคลียร์เรื่องภายในพรรคตัวเองให้ได้ก่อน ที่จะมาท้าคนอื่น เพราะยังเห็นกัดกันอยู่ฝุ่นตลบระหว่างกลุ่มทศวรรษใหม่กับกลุ่มผลัดใบว่าจะส่งใครลง ระหว่างน้องชายของนายสุเทพหรือ กับ บุตรชายของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน
ดานนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อนายยงยุทธ ไม่ม่พร้อม ไม่สู้ ในการลงสมัครเลือกตั้งซ่อมคงจะไปฝืนใจไม่ได้ เพราะคนเล่นการเมืองต้องมีจิตใจพร้อมทำงานการเมือง แต่เมื่อถอดใจก็ไม่ว่ากัน ส่วนที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยระบุว่าการที่ตนท้าทายนายยงยุทธ ให้ลงสัมคร ส.ส.ถือว่า ไม่เป็นธรรมเพราะน่าจะท้าทายนักการเมืองด้วยกันนั้น ตนก็ไม่เข้าใจว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นนักการเมืองหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพียงแขกยามหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นนักการเมือง แต่ลูกพรรคเพื่อไทยกลับไม่รู้ว่าคนเป็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นการเมือง
ส่วนที่เสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตบปากตนนั้น นายเทพไท กล่าวว่า ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวิธีการอย่างนี้ เพราะเป็นพรรคที่ส.ส. แสดงความเห็นได้เต็มที่ แต่ถ้าต้องการจะปิดปากพวกตนก็ขอให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ปิดปากพูดจาให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ก่อน พวกตนจึงจะหยุดการให้สัมภาษณ์ตอบโต้ ส่วนที่มีการท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ ลงสมัครส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานและเหนือนั้น คงจะไม่ได้ เพราะขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นส.ส.แล้ว แต่ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าพิสูจน์ศรัทธาของประชาชน ก็ขอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นทมี่ภาคอีสานและเหนือลาออกจะได้เห็นการแข่งขันกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล ทั้งนี้การที่มีการ