ASTVผู้จัดการรายวัน -“มาร์ค” สั่ง ก.เกษตรฯ เจรจาซื้อหุ้น-ร่วมทุนกับบริษัทอีสวอร์เตอร์ แก้ปัญหาค่าโง่ท่อเชื่อมอ่างเก็บน้ำระยอง
วานนี้ (14 ก.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขออนุมัติงบประมาณโครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง วงเงิน 1,680 ล้านบาท เพื่อให้กรมชลประทาน ไปชดเชยให้แก่ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกจำกัด (มหาชน) หรือ อีสวอร์เตอร์
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ซึ่งแสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมาก ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากรัฐบาลจำเป็นจะต้องจ่ายเงินให้กับ อีสวอร์เตอร์ ซึ่ง ครม.ก็เห็นชอบแต่หากอนุมัติจะถูกกฎหมายหรือไม่ และค่าใช้จ่าย 1,680 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปเจรจากับบริษัทอีสวอร์เตอร์ ในประเด็นที่รัฐบาลอาจจะซื้อหุ้นหรือร่วมทุนกับบริษัทฯ ในโครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และหากทำได้รัฐบาลก็จะสามารถชำระเงินได้โดยไม่ขัดต่กฎหมาย
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ภาคตะวันออกขาดแคลนน้ำมาก รัฐบาลในขณะนั้นมีมติ ครม.วันที่ 2 ส.ค. 2549 ให้อีสวอร์เตอร์ไปดำเนินการผันน้ำ และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 1,008 ล้านบาท และค่าน้ำอีก 600 กว่าล้านบาท จ่ายให้อีสวอร์เตอร์ แต่ปัญหาที่ ครม.เป็นห่วง คือ รัฐบาลตรวจสอบดูแล้วพบว่าไม่ได้มีสัญญาอะไรเลยกับอีสวอร์เตอร์เลย และในขั้นตอนที่อีสวอร์เตอร์ไปจ้างบริษัทเอกชนทำงาน ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานราชการเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดงานและการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้น หากอนุมัติการจ่ายเงินออกไปจะเกิดปัญหาว่า เอาเงินไปจ่ายโดยที่ไม่มีสัญญาและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนายธีระได้ไปดูกระบวนการตรวจสอบ เนื้องานและวงเงินที่ควรจ่ายจริงเป็นเท่าไร
วานนี้ (14 ก.ค.) นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอขออนุมัติงบประมาณโครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง วงเงิน 1,680 ล้านบาท เพื่อให้กรมชลประทาน ไปชดเชยให้แก่ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกจำกัด (มหาชน) หรือ อีสวอร์เตอร์
อย่างไรก็ตาม นายกฯ ซึ่งแสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้อย่างมาก ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หากรัฐบาลจำเป็นจะต้องจ่ายเงินให้กับ อีสวอร์เตอร์ ซึ่ง ครม.ก็เห็นชอบแต่หากอนุมัติจะถูกกฎหมายหรือไม่ และค่าใช้จ่าย 1,680 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายจริงหรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปเจรจากับบริษัทอีสวอร์เตอร์ ในประเด็นที่รัฐบาลอาจจะซื้อหุ้นหรือร่วมทุนกับบริษัทฯ ในโครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และหากทำได้รัฐบาลก็จะสามารถชำระเงินได้โดยไม่ขัดต่กฎหมาย
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ภาคตะวันออกขาดแคลนน้ำมาก รัฐบาลในขณะนั้นมีมติ ครม.วันที่ 2 ส.ค. 2549 ให้อีสวอร์เตอร์ไปดำเนินการผันน้ำ และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ 1,008 ล้านบาท และค่าน้ำอีก 600 กว่าล้านบาท จ่ายให้อีสวอร์เตอร์ แต่ปัญหาที่ ครม.เป็นห่วง คือ รัฐบาลตรวจสอบดูแล้วพบว่าไม่ได้มีสัญญาอะไรเลยกับอีสวอร์เตอร์เลย และในขั้นตอนที่อีสวอร์เตอร์ไปจ้างบริษัทเอกชนทำงาน ยังไม่พบว่ามีหน่วยงานราชการเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดงานและการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้น หากอนุมัติการจ่ายเงินออกไปจะเกิดปัญหาว่า เอาเงินไปจ่ายโดยที่ไม่มีสัญญาและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนายธีระได้ไปดูกระบวนการตรวจสอบ เนื้องานและวงเงินที่ควรจ่ายจริงเป็นเท่าไร