ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยเบฟฯ ผุดบริษัท ไทยดริ้งค์ เดินหน้ารุกตลาดน้ำดื่มเต็มตัว ควักเกว่า 100 ล้าน เพิ่มหน่วยรถกว่า 100 คัน หวังกระจายสินค้าครอบคลุมกรุงเทพฯ ปริมณฑล ลั่นประกาศชิงแชร์ตลาดครึ่งปีหลัง โกย 20 ล้านลิตร
นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยดริ้งค์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ บริษัทไทยดริ้งค์ จำกัด เพื่อกำกับดูแลผลิตภัณฑ์แยกประเภทเครื่องดื่มชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปราศจากแอลกอฮอล์ ให้ชัดเจนมากขึ้นโดยบริษัทไทยดริ้งค์ จะดูแลสินค้าหลัก คือ น้ำดื่มตราช้าง
ล่าสุดได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มหน่วยรถกระจายน้ำดื่มเป็นเท่าตัว ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถกว่า 100 คัน โดยการเพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้า ทำให้น้ำดื่มช้างสามารถกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังมีความรวดเร็ว คล่องตัว นอกจากนี้ยังจัดอบรมบุคลากรทีมงานจัดส่งสินค้า และลูกค้าสัมพันธ์
“ที่ผ่านมาการดำเนินงานของบริษัทไทยดริ้งค์ เริ่มเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้า มากขึ้นโดยเฉพาะหน่วยรถบริการที่เราได้จัดส่งน้ำดื่มตรงถึงที่พักให้แก่ลูกค้า ทำให้สมาชิกมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ “
สำหรับสถานการณ์ของตลาดน้ำดื่มมูลค่า 1.8หมื่นล้านบาท โดยน้ำดื่มบรรจุขวดยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างงต่อเนื่องในช่วง 5ปีที่ผ่านมา จากการมีผู้ประกอบการรายหลายในตลาด ซึ่งน้ำดื่มสิงห์ เป็นผู้นำตลาด ต ามาด้วย น้ำดื่มคริสตัล เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดให้กับน้ำดื่มช้าง โดยเฉพาะการนำเสนอกลยุทธ์ความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง จากการมีบรรจุภัณฑ์ขที่หลากหลาย ได้แก่ ขนาด 600 ซีซี , 750 ซีซี , 1.5 ลิตร ขวดแก้วขนาด 500 ซีซี , ขวดพีซีขนาด 18.9 ลิตร ซึ่งจะเหมาะกับผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกันไป
สำหรับบริษัทไทยดริ้งค์ ได้ตั้งเป้ายอดขายน้ำดื่มภายใต้ยี่ห้อช้างในครึ่งปีหลังคิดเป็นปริมาณประมาณ 20 ล้านลิตร ประกอบไปด้วยน้ำดื่มช้างทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งยอดขายนี้จะมาจากการขายผ่านของช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ เช่นทีมจัดส่งตรงของไทยดริ้งค์ เอเย่นต์ โมเดิร์นเทรด และทีมขายของบริษัทไทยเบฟเวอเรจฯ
นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยดริ้งค์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ บริษัทไทยดริ้งค์ จำกัด เพื่อกำกับดูแลผลิตภัณฑ์แยกประเภทเครื่องดื่มชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปราศจากแอลกอฮอล์ ให้ชัดเจนมากขึ้นโดยบริษัทไทยดริ้งค์ จะดูแลสินค้าหลัก คือ น้ำดื่มตราช้าง
ล่าสุดได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มหน่วยรถกระจายน้ำดื่มเป็นเท่าตัว ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถกว่า 100 คัน โดยการเพิ่มหน่วยรถกระจายสินค้า ทำให้น้ำดื่มช้างสามารถกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังมีความรวดเร็ว คล่องตัว นอกจากนี้ยังจัดอบรมบุคลากรทีมงานจัดส่งสินค้า และลูกค้าสัมพันธ์
“ที่ผ่านมาการดำเนินงานของบริษัทไทยดริ้งค์ เริ่มเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้า มากขึ้นโดยเฉพาะหน่วยรถบริการที่เราได้จัดส่งน้ำดื่มตรงถึงที่พักให้แก่ลูกค้า ทำให้สมาชิกมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ “
สำหรับสถานการณ์ของตลาดน้ำดื่มมูลค่า 1.8หมื่นล้านบาท โดยน้ำดื่มบรรจุขวดยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างงต่อเนื่องในช่วง 5ปีที่ผ่านมา จากการมีผู้ประกอบการรายหลายในตลาด ซึ่งน้ำดื่มสิงห์ เป็นผู้นำตลาด ต ามาด้วย น้ำดื่มคริสตัล เนสท์เล่ ไทยน้ำทิพย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่ายังมีช่องว่างทางการตลาดให้กับน้ำดื่มช้าง โดยเฉพาะการนำเสนอกลยุทธ์ความแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง จากการมีบรรจุภัณฑ์ขที่หลากหลาย ได้แก่ ขนาด 600 ซีซี , 750 ซีซี , 1.5 ลิตร ขวดแก้วขนาด 500 ซีซี , ขวดพีซีขนาด 18.9 ลิตร ซึ่งจะเหมาะกับผู้บริโภคที่มีความต้องการแตกต่างกันไป
สำหรับบริษัทไทยดริ้งค์ ได้ตั้งเป้ายอดขายน้ำดื่มภายใต้ยี่ห้อช้างในครึ่งปีหลังคิดเป็นปริมาณประมาณ 20 ล้านลิตร ประกอบไปด้วยน้ำดื่มช้างทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ ซึ่งยอดขายนี้จะมาจากการขายผ่านของช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ เช่นทีมจัดส่งตรงของไทยดริ้งค์ เอเย่นต์ โมเดิร์นเทรด และทีมขายของบริษัทไทยเบฟเวอเรจฯ