xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.วุฒิฯซัดเสื้อแดงดึงฟ้าต่ำถวายฎีกาลบอำนาจตุลาการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าการยื่นถวายฎีกาเพื่ออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของกลุ่มคนเสื้อแดง เปรียบเสมือนสมัยพ่อขุนรามคำแหงว่า เป็นคนละอย่างกัน เพราะการที่ประชาชนมาร้องทุกข์ได้ในสมัยก่อนนั้นเพราะปกครองแบบระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ปัจจุบันปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งจะต้องทำตามกฎหมาย ถ้าจะขออภัยโทษจะต้องยืนยันยอมรับความผิดก่อน และที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความผิดทางการเมือง อย่าไปดึงพระองค์ลงมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย เพราะเป็นเรื่องของการเมืองพระองค์อยู่เหนือการเมือง ถ้าอยากขออภัยโทษก็ให้ญาติหรือตัวผู้ที่ทำผิดร้องขอเอง ไม่ใช่ให้ประชาชนมาร้องขอให้
เพราะอำนาจตุลาการได้ชี้ขาดไปแล้วว่าผิด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องรับโทษก่อน แล้วค่อยขออภัยโทษ มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการลบอำนาจอีกอำนาจหนึ่ง แล้วมาให้อีกอำนาจหนึ่งช่วย เพราะฉะนั้นผู้ขอจะต้องขอเองหรือญาติขอให้เท่านั้น โดยขอผ่านกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และต้องให้รมว.ยุติธรรม เป็นผู้เห็นชอบจึงจะสามารถทำได้
ส่วนถ้ากลุ่มเสื้อแดงไม่เชื่อว่า รมว.ยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมได้จะทำอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่เสนอไปที่กระทรวงยุติธรรมเลย จะไปคิดเช่นนั้นไม่ได้หรอก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ต้องดูว่ากลุ่มเสื้อแดงจะทำตามข้อกฎหมายหรือไม่
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เหมือนสมัยในยุคพ่อขุนรามคำแหง เพราะคนสมัยก่อนเขาไม่ล่ารายชื่อถึง 1 ล้าน เพื่อมาบีบบังคับพระมหากษัตริย์หรอก เกรงว่าจะเป็นการสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า ตนคิดว่าขณะนี้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงน่าจะหยุดได้แล้ว แต่ที่ไม่ยอมหยุด เพราะไม่ยอมรับบทเรียนที่ล้มเหลวจากการชุมนุมช่วงสงกรานต์ มากกว่า จึงหันมาเคลื่อนไหวล่ารายชื่อถวายฎีกาเพื่อนักโทษที่หนีอาญาแผ่นดิน เพียงคน เดียว ถ้าเป็นสมัยโบราณเขาคงตัดหัว 7 ชั่วโคตรแล้ว
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แถลงถึงผลสำรวจเรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อ แนวคิดอภัยโทษคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมืองจากประชาชน 17 จังหวัด 4,102 คนพบว่า ประชาชนร้อยละ 54.5 ไม่เห็นด้วยกับการให้อภัยโทษคดีความต่างๆ เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมือง ขณะเดียวกันมีประชาชน ถึงร้อยละ 45.5 ที่เห็นด้วย
นายนพดล กล่าวว่าสิ่งที่น่าพิจารณาคือ เมื่อจำแนกตามอาชีพ พบว่า คนว่างงาน เกินครึ่ง หรือร้อยละ 54 เห็นด้วยกับการให้อภัยคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ขณะที่กลุ่มคนรายได้น้อยไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 54.6 ก็เห็นด้วยกับการอภัยโทษเช่นกัน
และเมื่อจำแนกตามภูมิภาค พบข้อมูลที่น่าตกใจคือ คนในภาคอีสานร้อยละ 60 เห็นด้วยกับการให้อภัยโทษคดีความทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมือง และแม้แต่คน กทม. ร้อยละ 48.5 ที่เห็นด้วย ส่วนคนในภาคใต้ ร้อยละ 80.6 ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม สังคมไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งปรับทัศนคติของคนไทยใน แต่ละกลุ่มอายุ แต่ละอาชีพ ระดับการศึกษา ระดับรายได้ และภูมิภาค ในการปฏิเสธนักการเมืองที่มีคดีความทุจริตคอร์รัปชั่น
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไม่สนใจ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าล่าชื่อได้ทะลุ 1 ล้านคนแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือ ความเหมาะสม และความถูกต้องว่าบังควรหรือไม่ที่จะมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ทั้งที่ประชาชนทั้งประเทศและทุกภาคส่วนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม จึงอยากให้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ตั้งสติ ไม่อยากให้ดันทุรัง เพื่อเอาชนะคะคานหรือความสะใจ
นอกจากนี้ยังมีแกนนำจากพรรคเพื่อไทยออกมาตะแบงเรื่องการทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว ว่าไม่ได้เป็นการทูลเกล้าเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เป็นการทูลเกล้าฯเพื่อขอพระราชทานความเป็นธรรมให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่เข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาลฎีการแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างไร ทั้งที่ศาลฏีกาดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาบอก ว่าศาลฏีกาไม่ให้ความเป็นธรรม ถือเป็นการดูหมิ่นศาล ที่องค์คณะผู้พิพากษาปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธย หรือไม่
นายเทพไท กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ระบุว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมการจัดงานแซยึด ครบรอบ 60 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่มีความผูกพันกับคนเสื้อแดง เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเสื้อเหลืองว่า การที่พรรคเพื่อไทยและเสื้อแดง เป็นกลุ่มคนเดียวกันถือเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกเสมอว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เป็นกลุ่มคนเดียวกันกับกลุ่มคนเสื้อแดง และยังมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมายอมรับในสภา แต่การที่บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นกลุ่มคนเดียวกับกลุ่มเสื้อเหลืองนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยยอมรับว่าเป็นคนคนเดียวกัน แต่เป็นเพราะแนวทาง การเคลื่อนไหวของประชาธิปัตย์และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการเคลื่อนไหวในแนวทาง ที่สอดคล้องกัน โดยพรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหว ในทางการเมืองของระบบพรรคการเมือง ส่วนพันธมิตรฯเป็นการเคลื่อนไหว ของการเมืองภาคประชาชน
ส่วนที่มีส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำพันธมิตรฯนั้น เป็นกรณีของ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯก่อนที่จะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และลงรับสมัครเลือกตั้ง ดังนั้นจะมาเหมา รวมกันไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น