นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการรักษาความปลอดภัยให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ในวันนี้ (11 ก.ค.)ว่า สั่งการไปตามปกติ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดูแล ซึ่งก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่วังวลที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าจะจัดทัวร์ไปเขาพนมรุ้ง แต่หากถูกขัดขวางก็จะไปประท้วงนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลไม่ไปหาเรื่องแน่นอน ตำรวจก็ต้องดูแลตามหน้าที่ แต่คงไม่มีการคาดโทษอะไร เพียงแต่เรียกร้องให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ระยะสั้นๆ ของนายกรัฐมนตรี จะหวังผลได้มากน้อย แค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่สามารถออกไปพบปะประชาชนได้ก็แย่แล้ว เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มั่นใจในกระแสในภาคอีสาน ถึงขนาดต้องให้นายเนวิน ชิดชอบ จัดทีมมารักษาความปลอดภัยให้นายกรัฐมนตรีเองเลยหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนภาคอีสานก็เหมือนประชาชนทั่วประเทศ ที่มีเหตุ มีผล มีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ไม่ได้รักหรือเกียจชังใครจนกระทั่งก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง เพียงแต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองนี้วุ่นวายเข้าไว้ ทำให้ดูเหมือนว่าบ้านเมืองนี้จะ ลุกเป็นไฟแล้วหากไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมา พยายามสร้างสถานการณ์กันมาโดยตลอด ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าจะทำกันไปทำไม เพราะทำอย่างนี้ก็ทำลายประเทศชาติไปทั้งหมด แต่หากเขายังไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเราก็ยังดำเนินการอะไรไม่ได้
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในฐานะเจ้าภาพเชิญนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจ 4 อำเภอ ของจ.บุรีรัมย์ โดยชาวบุรีรัมย์ได้เตรียมต้อนรับ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่สิ่งที่ชาวบุรีรัมย์กลัวว่าจะมีพี่น้องประชาชนที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบุรีรัมย์ โดยเกรงว่าจะมีการยุยงให้ประชาชนนอกเขตจังหวัดเข้าไปสร้างปัญหา
ต้องการขอความกรุณาเพราะเวทีการแสดงออกทางการเมืองมีมาก การเดินทางตรวจราชการของนายอภิสิทธิ์ เป็นการมารับทราบปัญหาของประชาชนถ้ามาสร้างปัญหา แล้วเรื่องความเดือดร้อนประชาชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข พื้นที่ใดมีปัญหา เมื่อนายกฯมารับทราบปัญหาแล้วเจอการก่อกวน ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนก็จะเป็นผู้รับกรรม
นายโสภณ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และตรวจสอบนโยบายรัฐบาลว่าเกิดปัญหากับประชาชนหรือไม่ โดยนโยบายที่จะตรวจสอบประกอบด้วย โครงการถนนไร้ฝุ่น นโยบายยกสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาล เกษตร และนโยบายชลประทาน ซึ่ง เรื่องน้ำ และถนน เป็นนโยบายที่ นายกรัฐมนตรีออกมาติดตามรับทราบว่าจะมีส่วนใดที่ต้องทำการแก้ไขปรับปรุง
รมว.คมนาคม เชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะไม่มีผลอะไรกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องคะแนนนิยม หากนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บุรีรัมย์แล้ว ปัญหาในพื้นที่ได้รับการช่วยเหลือคะแนนนิยมจะเกิดกับรัฐบาล ส่วนจะนิยมพรรคไหนนั้นเป็นเรื่องผู้แทนราษฎรที่จะไปชี้แจงประชาชน ส่วนรัฐมนตรี ที่อยู่กับรัฐบาลก็จะเป็นผู้ชี้แจงว่าทำอะไรให้กับประชาชน
การมาอีสานครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีไม่เกิดปัญหา ท่านก็อยากไปที่อื่น เมื่อมาบุรีรัมย์แล้วชาวบุรีรัมย์ได้ประโยชน์ หากที่อื่นมีความเดือดร้อนอยากให้แก้ไข ก็ไม่มีปัญหา หากมาบุรีรัมย์แล้วเกิดปัญหาก็ไม่มีใครมา ประชาชนก็ไม่ได้รับประโยชน์
นายโสภณ กล่าวว่าไม่มีมาตรการป้องกันอะไรกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมต่อต้าน มีแต่มาตรการข้อร้องว่าอย่าไป เมื่อไปสร้างความเดือดร้อนก็อย่าไป เพราะหากไปแล้วจะเป็นการสร้างความเดือดร้อน และสร้างความไม่พอใจ เพราะเปรียบเสมือนว่ามีแขกมาเยี่ยมบ้านเรา แล้วมีคนบ้านอื่นไปด่าแขกเรามันไม้ถูกต้อง
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(ผบช.ส.) กล่าวว่า ตนลงพื้นที่บุรีรัมย์ดูสถานการณ์ด้วยตนเอง เท่าที่ดูจากแผนต่างๆในการรักษาความปลอดภัยและดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ พบว่ามีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันแน่นหนา มีความสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีการระดมมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลมาเป็นแนวกั้นอีกชั้น ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่ากลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถ เคลื่อนขบวนใหญ่ๆเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงได้
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวมาว่าจะมีการขนคนจากพื้นที่อื่นมาต่อต้าน นายอภิสิทธิ์ และคณะนั้น ตำรวจสันติบาลได้เข้าเจรจากับแกนนำแล้วเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เท่าที่ประเมินน่าจะมีไม่น่าเกิน 1,000 คน อย่างไรก็ตามได้ส่งตำรวจสันติบาลไปประจำจุดเข้า-ออกในพื้นที่ทุกจุด เพื่อจะได้ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่ต่อต้าน เพื่อจะได้ประสานงานและป้องกันเหตุวุ่นวายได้ทันท่วงที
ผมยอมรับว่าเกรงจะมีการปะทะกันของมวลชนที่ความเห็นต่างกันเพื่อสร้าง เหตุวุ่นวายและสร้างข่าว ซึ่งตำรวจกำลังเจรจากับแกนนำฯอยู่ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยสงบ
รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งการให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยอรินทราช 26 เดินทางไปจ.บุรีรัมย์ เพื่ออารักขารักษาความปลอดภัย นายอภิสิทธ์ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย
โดยนายสุเทพ ได้สั่งกำชับหน่วยอรินทราช ให้ดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีขั้นสูงสุด หากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ และมีความพยายามที่จะเข้าประชิดตัวนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านมา
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่วังวลที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าจะจัดทัวร์ไปเขาพนมรุ้ง แต่หากถูกขัดขวางก็จะไปประท้วงนายกรัฐมนตรี เพราะรัฐบาลไม่ไปหาเรื่องแน่นอน ตำรวจก็ต้องดูแลตามหน้าที่ แต่คงไม่มีการคาดโทษอะไร เพียงแต่เรียกร้องให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงพื้นที่ระยะสั้นๆ ของนายกรัฐมนตรี จะหวังผลได้มากน้อย แค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วไม่สามารถออกไปพบปะประชาชนได้ก็แย่แล้ว เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มั่นใจในกระแสในภาคอีสาน ถึงขนาดต้องให้นายเนวิน ชิดชอบ จัดทีมมารักษาความปลอดภัยให้นายกรัฐมนตรีเองเลยหรือ นายสุเทพ กล่าวว่า ประชาชนภาคอีสานก็เหมือนประชาชนทั่วประเทศ ที่มีเหตุ มีผล มีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ไม่ได้รักหรือเกียจชังใครจนกระทั่งก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง เพียงแต่มีกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองนี้วุ่นวายเข้าไว้ ทำให้ดูเหมือนว่าบ้านเมืองนี้จะ ลุกเป็นไฟแล้วหากไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมา พยายามสร้างสถานการณ์กันมาโดยตลอด ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าจะทำกันไปทำไม เพราะทำอย่างนี้ก็ทำลายประเทศชาติไปทั้งหมด แต่หากเขายังไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเราก็ยังดำเนินการอะไรไม่ได้
นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ในฐานะเจ้าภาพเชิญนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจ 4 อำเภอ ของจ.บุรีรัมย์ โดยชาวบุรีรัมย์ได้เตรียมต้อนรับ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่สิ่งที่ชาวบุรีรัมย์กลัวว่าจะมีพี่น้องประชาชนที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามจะสร้างปัญหา สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบุรีรัมย์ โดยเกรงว่าจะมีการยุยงให้ประชาชนนอกเขตจังหวัดเข้าไปสร้างปัญหา
ต้องการขอความกรุณาเพราะเวทีการแสดงออกทางการเมืองมีมาก การเดินทางตรวจราชการของนายอภิสิทธิ์ เป็นการมารับทราบปัญหาของประชาชนถ้ามาสร้างปัญหา แล้วเรื่องความเดือดร้อนประชาชนก็จะไม่ได้รับการแก้ไข พื้นที่ใดมีปัญหา เมื่อนายกฯมารับทราบปัญหาแล้วเจอการก่อกวน ประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนก็จะเป็นผู้รับกรรม
นายโสภณ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และตรวจสอบนโยบายรัฐบาลว่าเกิดปัญหากับประชาชนหรือไม่ โดยนโยบายที่จะตรวจสอบประกอบด้วย โครงการถนนไร้ฝุ่น นโยบายยกสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาล เกษตร และนโยบายชลประทาน ซึ่ง เรื่องน้ำ และถนน เป็นนโยบายที่ นายกรัฐมนตรีออกมาติดตามรับทราบว่าจะมีส่วนใดที่ต้องทำการแก้ไขปรับปรุง
รมว.คมนาคม เชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะไม่มีผลอะไรกับพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องคะแนนนิยม หากนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บุรีรัมย์แล้ว ปัญหาในพื้นที่ได้รับการช่วยเหลือคะแนนนิยมจะเกิดกับรัฐบาล ส่วนจะนิยมพรรคไหนนั้นเป็นเรื่องผู้แทนราษฎรที่จะไปชี้แจงประชาชน ส่วนรัฐมนตรี ที่อยู่กับรัฐบาลก็จะเป็นผู้ชี้แจงว่าทำอะไรให้กับประชาชน
การมาอีสานครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีไม่เกิดปัญหา ท่านก็อยากไปที่อื่น เมื่อมาบุรีรัมย์แล้วชาวบุรีรัมย์ได้ประโยชน์ หากที่อื่นมีความเดือดร้อนอยากให้แก้ไข ก็ไม่มีปัญหา หากมาบุรีรัมย์แล้วเกิดปัญหาก็ไม่มีใครมา ประชาชนก็ไม่ได้รับประโยชน์
นายโสภณ กล่าวว่าไม่มีมาตรการป้องกันอะไรกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมต่อต้าน มีแต่มาตรการข้อร้องว่าอย่าไป เมื่อไปสร้างความเดือดร้อนก็อย่าไป เพราะหากไปแล้วจะเป็นการสร้างความเดือดร้อน และสร้างความไม่พอใจ เพราะเปรียบเสมือนว่ามีแขกมาเยี่ยมบ้านเรา แล้วมีคนบ้านอื่นไปด่าแขกเรามันไม้ถูกต้อง
พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล(ผบช.ส.) กล่าวว่า ตนลงพื้นที่บุรีรัมย์ดูสถานการณ์ด้วยตนเอง เท่าที่ดูจากแผนต่างๆในการรักษาความปลอดภัยและดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ พบว่ามีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันแน่นหนา มีความสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีการระดมมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาลมาเป็นแนวกั้นอีกชั้น ซึ่งค่อนข้างมั่นใจว่ากลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลไม่สามารถ เคลื่อนขบวนใหญ่ๆเข้ามาในบริเวณใกล้เคียงได้
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวมาว่าจะมีการขนคนจากพื้นที่อื่นมาต่อต้าน นายอภิสิทธิ์ และคณะนั้น ตำรวจสันติบาลได้เข้าเจรจากับแกนนำแล้วเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เท่าที่ประเมินน่าจะมีไม่น่าเกิน 1,000 คน อย่างไรก็ตามได้ส่งตำรวจสันติบาลไปประจำจุดเข้า-ออกในพื้นที่ทุกจุด เพื่อจะได้ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่ต่อต้าน เพื่อจะได้ประสานงานและป้องกันเหตุวุ่นวายได้ทันท่วงที
ผมยอมรับว่าเกรงจะมีการปะทะกันของมวลชนที่ความเห็นต่างกันเพื่อสร้าง เหตุวุ่นวายและสร้างข่าว ซึ่งตำรวจกำลังเจรจากับแกนนำฯอยู่ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยสงบ
รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แจ้งว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งการให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยอรินทราช 26 เดินทางไปจ.บุรีรัมย์ เพื่ออารักขารักษาความปลอดภัย นายอภิสิทธ์ ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย
โดยนายสุเทพ ได้สั่งกำชับหน่วยอรินทราช ให้ดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีขั้นสูงสุด หากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ และมีความพยายามที่จะเข้าประชิดตัวนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านมา
