เอเอฟพี – ประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ของฮอนดูรัสซึ่งถูกรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จะพบกับโรแบร์โต มิชเลตตี รักษาการประธานาธิบดีซึ่งได้รับการแต่งตั้งหลังรัฐประหาร เพื่อหาช่องทางให้เซลายาสามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยอาศัยกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆ ทั้งนี้โดยมีประธานาธิบดีออสการ์ อาริอัส แห่งคอสตาริกา ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นผู้ประสานงานให้ทั้งสองฝ่ายได้พบกันที่บ้านพักของเขาในกรุงซานโฮเซเป็นเวลาสองวัน
“ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะแสวงหาข้อยุติโดยใช้วิธีทางการทูตและโดยการสานเสวนากัน” อาริอัสกล่าวในวันพุธ (8) ทว่าทั้งเซลายาและมิชเลตตี กลับแถลงต่อสาธารณชนในทางตรงกันข้าม โดยมิชเลตตีกล่าวในวันเดียวกันว่า “เราจะไม่ต่อรองใดๆ เราจะคุยกันเท่านั้น” ในขณะที่เซลายาก็ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของชิลีว่าการพบกันครั้งนี้ “เป็นการวางแผนทางออกให้กับผู้นำรัฐประหาร” และเขายังกล่าวถึงคู่ต่อสู้ทางการเมืองว่าเป็น “คนใจร้าย”
นอกจากนั้น มิชเลตตียังแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการพบปะกันครั้งนี้และบอกว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเข้าร่วมการเจรจาดีหรือไม่ เนื่องจากพันธมิตรทางการเมืองของเขาเป็นห่วงว่าเขาอาจถูก “จับกุมตัว” ในระหว่างการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม สมาชิกขององค์การรัฐอเมริกัน (โอเอเอส) ซึ่งมีสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย ได้เสนอให้การสนับสนุนการสานเสวนาครั้งนี้ โดยหวังว่าจะเป็นการหาหนทางออกจากวิกฤตการณ์ในฮอนดูรัสขณะนี้
“จะต้องมีคนกลางที่ชัดเจนและเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น เราขอสนับสนุนความพยายามของประธานาธิบดีอาริอัสแห่งคอสตาริกาในการรับบทบาทอันสำคัญนี้” ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวสนับสนุน
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการพบปะกันดังกล่าว ศาลสูงสุดของฮอนดูรัส ซึ่งเป็นผู้อนุมัติคำสั่งให้จับกุมตัวเซลายาและเนรเทศเขาออกนอกประเทศด้วยข้อหากบฏ กลับเสนอวิธีการที่จะให้อดีตผู้นำฮอนดูรัสสามารถกลับประเทศได้ด้วยการที่รัฐสภาออกกฎหมายนิรโทษกรรม
“ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะแสวงหาข้อยุติโดยใช้วิธีทางการทูตและโดยการสานเสวนากัน” อาริอัสกล่าวในวันพุธ (8) ทว่าทั้งเซลายาและมิชเลตตี กลับแถลงต่อสาธารณชนในทางตรงกันข้าม โดยมิชเลตตีกล่าวในวันเดียวกันว่า “เราจะไม่ต่อรองใดๆ เราจะคุยกันเท่านั้น” ในขณะที่เซลายาก็ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของชิลีว่าการพบกันครั้งนี้ “เป็นการวางแผนทางออกให้กับผู้นำรัฐประหาร” และเขายังกล่าวถึงคู่ต่อสู้ทางการเมืองว่าเป็น “คนใจร้าย”
นอกจากนั้น มิชเลตตียังแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการพบปะกันครั้งนี้และบอกว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเข้าร่วมการเจรจาดีหรือไม่ เนื่องจากพันธมิตรทางการเมืองของเขาเป็นห่วงว่าเขาอาจถูก “จับกุมตัว” ในระหว่างการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม สมาชิกขององค์การรัฐอเมริกัน (โอเอเอส) ซึ่งมีสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย ได้เสนอให้การสนับสนุนการสานเสวนาครั้งนี้ โดยหวังว่าจะเป็นการหาหนทางออกจากวิกฤตการณ์ในฮอนดูรัสขณะนี้
“จะต้องมีคนกลางที่ชัดเจนและเพื่อที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น เราขอสนับสนุนความพยายามของประธานาธิบดีอาริอัสแห่งคอสตาริกาในการรับบทบาทอันสำคัญนี้” ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวสนับสนุน
ทั้งนี้ ก่อนหน้าการพบปะกันดังกล่าว ศาลสูงสุดของฮอนดูรัส ซึ่งเป็นผู้อนุมัติคำสั่งให้จับกุมตัวเซลายาและเนรเทศเขาออกนอกประเทศด้วยข้อหากบฏ กลับเสนอวิธีการที่จะให้อดีตผู้นำฮอนดูรัสสามารถกลับประเทศได้ด้วยการที่รัฐสภาออกกฎหมายนิรโทษกรรม
