กระบี่-นักธุรกิจกระบี่ควักกระเป๋ากว่า 100 ล้านบาท ผุดรีสอร์ตหรูย่านอ่าวนาง สวนกระแสเศรษฐกิจ หวังอีก 2 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศฟื้น นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามากระบี่เหมือนเดิม
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บ.กระบี่เจริญทรัพย์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายอาหารสัตว์รายใหญ่ของจังหวัดกระบี่ และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า หลังจากที่สิ้นสุดวาระจากการดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ ได้หันมาทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยได้ลงทุนสร้างรีสอร์ตหรู ระดับ 5 ดาว จำนวน 69 หลัง บริเวณอ่าวนาง หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งได้ก่อสร้างไปแล้วบางส่วน และคาดว่าอีกประมาณ 10 เดือนหลังจากนี้จะเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ หรือประมาณเดือนเมษายนปีหน้า
สำหรับสาเหตุที่กล้าลงทุนนับ 100 ล้านบาท ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา เนื่องจากมองว่าธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และฝั่งอันดามันยังมีอนาคต และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ธุรกิจรีสอร์ตที่สร้างเสร็จไปแล้วก็สามารถรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้ทันที และถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องมาสร้างที่พักแข่งกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เสียโอกาส ที่สำคัญเมื่อถึงตอนนั้นทุนน้อยจะเสียเปรียบทุนใหญ่ ในการแข่งขันทุกด้าน จึงยอมควักเงินลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อได้วางแผนทำธุรกิจได้ถูกต้องและไม่เสียเปรียบทุนใหญ่
“ผมเชื่อว่าไม่เกิน 2 ปี เศรษฐกิจของประเทศและต่างประเทศจะฟื้นกลับมาอย่างแน่นอน และเมื่อนั้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็จะหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยและจังหวัดกระบี่อีกครั้ง เพราะด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ และฝั่งอันดามันไม่ด้อยไปกว่าที่ใดในโลกนี้ มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่ออย่างเกาะพีพี เกาะลันตา ทางบก ได้แก่ น้ำตกร้อน สระมรกต และที่อื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก และการที่ได้ลงทุนในช่วงนี้ก็ยังช่วยให้ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในจังหวัดกระบี่ ได้จำหน่ายสินค้า เนื่องจากวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างทุกอย่างจะสั่งซื้อในจังหวัดกระบี่ทั้งหมด นอกจากนี้ก็ยังมีการจ้างแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ในระหว่างที่มีการก่อสร้าง”
นายวัฒนา เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าธุรกิจท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของห้องพักกว่า 16,000 ห้องที่กระจายอยู่ในจังหวัดกระบี่ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องแข่งขันลดราคาเพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้เข้าพัก เท่ากับว่าเป็นการซ้ำเติมธุรกิจของตัวเองให้ย่ำแย่หนักเข้าไปอีก
นอกจากจะไม่มีกำไร ต้องรับภาระเพิ่มหลายๆอย่าง ซึ่งทางที่ดีควรจะมีการพูดคุยกันระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันว่าจะหาทางออกอย่างไร ให้ธุรกิจประกอบกิจการต่อไปได้ถึงไม่มีกำไรแต่ก็ต้องไม่ขาดทุนจนกว่าจะพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ไม่ใช่แข่งขันลดราคา และทางภาครัฐเองก็จะต้องหาวิธีการต่างๆที่จะต้องเข้ามาสนับสนุนด้วย เพราะให้ผู้ประกอบการเดินไปคนเดียวก็คงจะไม่ถึงฝั่ง
“การท่องเที่ยววันนี้ผู้ประกอบการต้องอย่าตกใจ ค่อยๆร่วมมือกันคิดและหาทางออกร่วมกัน เชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤตไปได้ เพราะหลายๆวิกฤตที่ผ่านมาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ก็สามารถฝ่าฟันจนผ่านวิกฤตไปได้ และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันคงจะผ่านไปได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ความร่วมมือของทุกภาคส่วน และการที่ตนยอมลงทุนในขณะที่เศรษฐกิจทรุด ย่ำแย่ไปทั่วโลก ถือว่าเสี่ยง แต่เมื่อมองอนาคตก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดโดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้อีกมากและแข่งขันได้กับนานาประเทศ” นายวัฒนา กล่าว