เอเอฟพี - โตเกียว แซงหน้า มอสโก กลายเป็นเมืองที่แพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างประเทศที่จะไปพำนักอาศัย ขณะที่ ปักกิ่ง ก็แพงหูฉี่ขึ้นมากจนขยับขึ้นติดอันดับท็อป10 แล้ว ทั้งนี้เป็นผลการสำรวจเมืองต่างๆ ทั่วโลกซึ่งบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านการลงทุน "เมอร์เซอร์" นำออกมาเผยแพร่วานนี้(7)
บรรดาเมืองใหญ่แถบเอเชียและยุโรป ยังคงเป็นพวกที่ครองตำแหน่งระดับท็อปเอาไว้มากที่สุดในการจัดอันดับปีนี้เช่นเดียวกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา ทว่าการผันผวนของค่าเงินตรา เป็นต้นว่าการแข็งขึ้นของเงินดอลลาร์อเมริกัน ก็มีส่วนอย่างมากในการทำให้อันดับของเมืองต่างๆ ทั่วโลกเกิดการปรับเปลี่ยนไป เมอร์เซอร์ระบุในคำแถลงเปิดตัวรายงาน
"สกุลเงินตราจำนวนมาก เป็นต้นว่า ยูโร และปอนด์อังกฤษ มีการอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งขึ้น ทำให้นครในยุโรปจำนวนหนึ่งมีอันดับหล่นลงมา" นาธาลี คอนสแตนติน-เมตรัล นักวิจัยอาวุโสของเมอร์เซอร์กล่าวในคำแถลง
นครหลายแห่งในสหรัฐฯ, จีน, และตะวันออกกลาง ต่างถูกเลื่อนอันดับความแพงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยที่นิวยอร์กพุ่งพรวดจากอันดับ 22 มาอยู่ที่ 8, ปักกิ่งเวลานี้อยู่ที่ 9 จากอันดับ 20, ขณะที่ดูไบไต่ขึ้น 32 อันดับมาอยู่ที่ 20
ลอนดอนนั้นหล่นลงมา 13 อันดับจากปีที่แล้วมาเป็นเมืองแพงที่สุดเป็นอันดับ 16 ของโลก ส่วนปารีสเซถลาลงมา 1 อันดับอยู่ที่ 13 ทั้งนี้ตามการสำรวจ "ค่าใช้จ่ายในการพำนักอาศัย" ประจำปีของเมอร์เซอร์ ซึ่งสำรวจนครต่างๆ 143 เมืองทั่วโลก
การสำรวจของเมอร์เซอร์ใช้นครนิวยอร์กเป็นเมืองฐาน โดยให้มีดัชนีเท่ากับ 100 จุด แล้วเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ รวม 200 รายการ เป็นต้นว่า ที่พักอาศัย, การขนส่ง, อาหาร, เสื้อผ้า, สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้าน, และการนันทนาการ
โตเกียวนั้นได้คะแนน 143.7 จุด มากเกือบเป็น 3 เท่าตัวของนครที่ถูกที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ โยฮันเนสเบิร์ก ในแอฟริกาใต้ ที่ได้คะแนนดัชนี 49.6
โอซากามาเป็นอันดับ 2 ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่มี 2 เมืองติดอันดับท็อป5 จากนั้นก็เป็นมอสโกซึ่งเป็นแชมป์ปีที่แล้วหล่นมาอยู่ที่ 3, เจนีวาเป็นอันดับ 4, และฮ่องกงที่ 5
อันดับ 6 คือเป็นซูริก ทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มี 2 เมืองติดท็อป10, สำหรับที่ 7 เป็นโคเปนเฮเกน, อันดับ8 นิวยอร์ก, อันดับ9 ปักกิ่ง, และที่ 10 คือสิงคโปร์ที่ไต่ขึ้นจากอันดับ13 ในปีที่แล้ว
เมอร์เซอร์ชี้ว่า นครใหญ่ๆ ในจีนต่างถูกเลื่อนอันดับเป็นแถว เนื่องจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับสกุลเงินตราอื่นๆ โดยนอกจากปักกิ่งแล้ว เซี่ยงไฮ้, เซินเจิ้น, และกว่างโจว ต่างเลื่อนมาอยู่ในอันดับ 12, 22, และ 23 ตามลำดับ
ในส่วนของนครที่มีราคาถูกลงสำหรับชาวต่างประเทศนั้น อยู่ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และอินเดีย เป็นต้นว่า ซิดนีย์หล่นจากที่ 15 มาอยู่อันดับ 66 และมุมไบ(บอมเบย์)ก็ลงจากอันดับ 48 มาอยู่ที่ 66 เช่นกัน
บรรดาเมืองใหญ่แถบเอเชียและยุโรป ยังคงเป็นพวกที่ครองตำแหน่งระดับท็อปเอาไว้มากที่สุดในการจัดอันดับปีนี้เช่นเดียวกับหลายๆ ปีที่ผ่านมา ทว่าการผันผวนของค่าเงินตรา เป็นต้นว่าการแข็งขึ้นของเงินดอลลาร์อเมริกัน ก็มีส่วนอย่างมากในการทำให้อันดับของเมืองต่างๆ ทั่วโลกเกิดการปรับเปลี่ยนไป เมอร์เซอร์ระบุในคำแถลงเปิดตัวรายงาน
"สกุลเงินตราจำนวนมาก เป็นต้นว่า ยูโร และปอนด์อังกฤษ มีการอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งขึ้น ทำให้นครในยุโรปจำนวนหนึ่งมีอันดับหล่นลงมา" นาธาลี คอนสแตนติน-เมตรัล นักวิจัยอาวุโสของเมอร์เซอร์กล่าวในคำแถลง
นครหลายแห่งในสหรัฐฯ, จีน, และตะวันออกกลาง ต่างถูกเลื่อนอันดับความแพงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยที่นิวยอร์กพุ่งพรวดจากอันดับ 22 มาอยู่ที่ 8, ปักกิ่งเวลานี้อยู่ที่ 9 จากอันดับ 20, ขณะที่ดูไบไต่ขึ้น 32 อันดับมาอยู่ที่ 20
ลอนดอนนั้นหล่นลงมา 13 อันดับจากปีที่แล้วมาเป็นเมืองแพงที่สุดเป็นอันดับ 16 ของโลก ส่วนปารีสเซถลาลงมา 1 อันดับอยู่ที่ 13 ทั้งนี้ตามการสำรวจ "ค่าใช้จ่ายในการพำนักอาศัย" ประจำปีของเมอร์เซอร์ ซึ่งสำรวจนครต่างๆ 143 เมืองทั่วโลก
การสำรวจของเมอร์เซอร์ใช้นครนิวยอร์กเป็นเมืองฐาน โดยให้มีดัชนีเท่ากับ 100 จุด แล้วเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ในเรื่องค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ รวม 200 รายการ เป็นต้นว่า ที่พักอาศัย, การขนส่ง, อาหาร, เสื้อผ้า, สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้าน, และการนันทนาการ
โตเกียวนั้นได้คะแนน 143.7 จุด มากเกือบเป็น 3 เท่าตัวของนครที่ถูกที่สุดในโลก ซึ่งก็คือ โยฮันเนสเบิร์ก ในแอฟริกาใต้ ที่ได้คะแนนดัชนี 49.6
โอซากามาเป็นอันดับ 2 ทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่มี 2 เมืองติดอันดับท็อป5 จากนั้นก็เป็นมอสโกซึ่งเป็นแชมป์ปีที่แล้วหล่นมาอยู่ที่ 3, เจนีวาเป็นอันดับ 4, และฮ่องกงที่ 5
อันดับ 6 คือเป็นซูริก ทำให้สวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มี 2 เมืองติดท็อป10, สำหรับที่ 7 เป็นโคเปนเฮเกน, อันดับ8 นิวยอร์ก, อันดับ9 ปักกิ่ง, และที่ 10 คือสิงคโปร์ที่ไต่ขึ้นจากอันดับ13 ในปีที่แล้ว
เมอร์เซอร์ชี้ว่า นครใหญ่ๆ ในจีนต่างถูกเลื่อนอันดับเป็นแถว เนื่องจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับสกุลเงินตราอื่นๆ โดยนอกจากปักกิ่งแล้ว เซี่ยงไฮ้, เซินเจิ้น, และกว่างโจว ต่างเลื่อนมาอยู่ในอันดับ 12, 22, และ 23 ตามลำดับ
ในส่วนของนครที่มีราคาถูกลงสำหรับชาวต่างประเทศนั้น อยู่ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, และอินเดีย เป็นต้นว่า ซิดนีย์หล่นจากที่ 15 มาอยู่อันดับ 66 และมุมไบ(บอมเบย์)ก็ลงจากอันดับ 48 มาอยู่ที่ 66 เช่นกัน