เบบี้มายด์ เท 70 ล้านบาท อัดกลยุทธ์เซกเมนต์เตชั่นทะลวงกลุ่มเป้าหมาย ปรับโฉม 3 สูตรใหม่ ปั้นดับเบิ้ลมิลค์ โปรตีนพลัส เจาะกลุ่มวัยรุ่นบำรุงผิว สิ้นปีรั้งอันดับ 2 กวาดแชร์ 27% ลั่น 2 ปีโค่นบัลลังก์แคร์
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเด็กเบบี้มายด์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับโฉมเบบี้มายด์ 3 สูตรใหม่ คือ ดับเบิ้ลมิลค์ โปรตีนพลัส เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กประถมและเด็กวัยรุ่นที่ต้องการบำรุงผิว และสีขาวเจาะกลุ่มเด็กอายุ 0-3 ปี และสีฟ้าสำหรับทุกคนในครอบครัว นับว่าเป็นการปรับโฉมเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์เซกเมนต์เทชั่นและการวางตำแหน่งตลาด
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท รุกสูตรเบบี้มายด์ ดับเบิ้ลมิลค์ โปรตีนพลัส โดยได้นำ สิงโต – สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีนี้ผลักดันส่วนแบ่งเพิ่มจาก 23-24% เป็น 26-27% ขึ้นเป็นอันดับ 2 จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งไล่เลี่ยกับจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และตั้งเป้าอีก 2 ปีข้างหน้า ขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทนที่แป้งเด็กแคร์ จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งกว่า 30% จากมูลค่าตลาดแป้งเด็ก 2,500 ล้านบาท
ตลาดแป้งมูลค่า 4,300 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังโต 5-6% จากครึ่งปีแรกโต 7% โดยแป้งเด็กมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโต 11% และคาดว่าครึ่งปีหลังโต 10% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกมีสภาพอากาศที่ร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกผลักดันให้ตลาดแป้งโดยรวมเติบโต อย่างไรก็ตามการแข่งขันผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์ราคาลด 10-15% เพื่อกระตุ้นยอดขาย
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอสถสภามาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งเด็กเบบี้มายด์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับโฉมเบบี้มายด์ 3 สูตรใหม่ คือ ดับเบิ้ลมิลค์ โปรตีนพลัส เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กประถมและเด็กวัยรุ่นที่ต้องการบำรุงผิว และสีขาวเจาะกลุ่มเด็กอายุ 0-3 ปี และสีฟ้าสำหรับทุกคนในครอบครัว นับว่าเป็นการปรับโฉมเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์เซกเมนต์เทชั่นและการวางตำแหน่งตลาด
ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 70 ล้านบาท รุกสูตรเบบี้มายด์ ดับเบิ้ลมิลค์ โปรตีนพลัส โดยได้นำ สิงโต – สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีนี้ผลักดันส่วนแบ่งเพิ่มจาก 23-24% เป็น 26-27% ขึ้นเป็นอันดับ 2 จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งไล่เลี่ยกับจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และตั้งเป้าอีก 2 ปีข้างหน้า ขึ้นเป็นผู้นำตลาดแทนที่แป้งเด็กแคร์ จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งกว่า 30% จากมูลค่าตลาดแป้งเด็ก 2,500 ล้านบาท
ตลาดแป้งมูลค่า 4,300 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังโต 5-6% จากครึ่งปีแรกโต 7% โดยแป้งเด็กมูลค่า 2,500 ล้านบาท เติบโต 11% และคาดว่าครึ่งปีหลังโต 10% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกมีสภาพอากาศที่ร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกผลักดันให้ตลาดแป้งโดยรวมเติบโต อย่างไรก็ตามการแข่งขันผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์ราคาลด 10-15% เพื่อกระตุ้นยอดขาย
