“อนุภาษและบุตร”ลุย”ซอฟต์แวร์ปาร์ก”ดูดนักลงทุนไอทีไทย-ต่างชาติเข้าภูเก็ต

ศูนย์ข่าวภูเก็ต- “ บลูลากูน” บริษัทในเครืออนุภาษและบุตร พัฒนาที่ดินในโครงการเมืองเจ้าฟ้า 50 ไร่ เป็น “เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต” ดึงนักลงทุนด้านไอทีทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ต เปิดเฟสแรกด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท คุยนักลงทุนเข้าเต็มพื้นที่แล้ว ปีหน้า เตรียมลงทุนเปิดเฟส 2 อีก 120 ล้าน คาดจะมีนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 30 รายเข้ามาลงทุนด้านไอทีในภูเก็ต

นายแพทย์ก้องเกียรติ เก็ษเพ็ชร ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต หรือ Software Park Phuket และ ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมภูเก็ต เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่จังหวัดภูเก็ตได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในหลายๆจังหวัดที่จะพัฒนาเป็นเมืองไอทีซิตี้ และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ หรือ ซิป้า ได้ดำเนินการมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว บริษัท บลูลากูน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท อนุภาษและบุตร จำกัด ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนพัฒนาที่ดินจำนวน 50 ไร่ ในโครงการเมืองเจ้าฟ้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มาพัฒนาเป็น “เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต” หรือ “Software Park Phuket” และ “ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมภูเก็ต” ขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมองว่าภูเก็ตมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานไอที และเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดของภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว การเปิดเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต จะเป็นการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ให้แก่ภูเก็ต และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ก็ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถพัฒนาควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมทางด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี รวมทั้งเป็นการสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ เพื่อรองรับนักศึกษาที่จบทางด้านนี้ เนื่องจากในปัจจุบันมหาวิทยาลัยในภูเก็ตสามารถผลิตบัณฑิตทางด้านไอทีได้ปีละจำนวนมากเช่นกัน

เขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์ภูเก็ต ขณะนี้ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในเฟสแรก ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท แบ่งพื้นที่ภายในอาคารเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต 1,500 ตารางเมตร(ตร.ม.) ให้บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านไอที พัฒนาซอฟต์แวร์ และด้านมัลติมีเดีย เข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งในเฟสแรก มีบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจด้านไอทีได้เข้ามาเช่าพื้นที่เต็มทั้งหมดแล้ว 8 บริษัท เป็นบริษัทต่างชาติ 3 ราย และบริษัทคนไทย 5 ราย

“เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ตถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ในการดึงบริษัทด้านไอทีเข้ามาดำเนินธุรกิจในจุดเดียวเป็นที่แรกในภูเก็ต ซึ่งเขตอุตสาหกรรมได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ CAT Telecom และ บริษัท TOT Cooperation .ในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 6 เมกะบิต และสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งจังหวัดภูเก็ต ไฟเบอร์ออฟติก ตู้ชุมสายโทรศัพท์ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่จำกัดคู่สาย

นายแพทย์ก้องเกียรติ ยังกล่าวถึงการลงทุนเพิ่ม ว่า ภายหลังจากที่เฟสแรกประสบความสำเร็จมีบริษัทเอกชนทั้งไทยและต่างชาติเช่าพื้นที่เต็มทั้งหมดแล้ว และมีอีกหลายๆบริษัทต้องการที่จะเข้ามาเช่าพื้นที่เพิ่มอีก บริษัทได้วางแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 1 อาคาร บนพื้นที่ทั้งหมด 4,500 ตร.ม. ด้วยเงินลงทุนอีก 120 ล้านบาท ภายในปี 2553 เพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัทด้านไอทีทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งคาดว่าเมือเฟส 2 แล้วเสร็จจะมีบริษัทด้านไอทีเข้ามาทำธุรกิจด้านไอทีไม่ต่ำกว่า 30 บริษัท

ขณะที่นาย มาซายะ มิกามิ นักธุรกิจด้านไอทีจากญี่ปุ่น กล่าวถึงการตัดสินใจเข้ามาลงทุนด้านไอทีในเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภูเก็ต ว่า มองว่าในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คนไทยถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพด้านดีไซน์สูงที่สุด ประกอบกับภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ คุ้นเคยกับคนต่างชาติและวัฒนธรรมของคนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในภูเก็ต จึงได้ตัดสินใจเข้ามาตั้งสาขาที่ภูเก็ต เพื่อรับทำเว็บไซต์ และผลิตซอฟต์แวร์ทางด้านการท่องเที่ยวและค้าปลีกค้าส่งในภูเก็ต ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ในขณะนี้ 60% เป็นธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว และบริษัทต้องการที่จะขยายฐานลูกค้าทางด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ทางด้านค้าปลีกค้าส่งให้มากขึ้น