ASTVผู้จัดการรายวัน – ไทยแอร์เอเชียดิ้นสู้ งัดกลยุทธ์งดเก็บค่าบริการดึงลูกค้า หลังพบรายงานผลวิจัยระบุ คนไทยยังอยากเที่ยวแต่กระเป๋าแห้ง มั่นใจสิ้นปีดันยอดผู้โดยสารได้ตามเป้า 5.2 ล้านคน แนะรัฐบาลเร่งหามาตรการจูงใจดึงสายการการบินเข้าประเทศสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจไทย
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียประกาศนโยบายด้านอัตราค่าโดยสารใหม่ โดยยกเลิกการเก็บค่าบริการ (No admin Fee) นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วโดยสารของไทยแอร์เอเชียไปอีกเที่ยวละเฉลี่ย 270-300 บาทแต่เมื่อนำมารวมกับค่าธรรมเนียมน้ำมันที่ไทยแอร์เอเชียได้ยกเลิกการเก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ จะทำให้ผู้โดยสารประหยัดได้มากกว่า 1,000 บาทต่อเที่ยว
การออกนโยบายดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เพื่อสิ้นปีจะได้จำนวนลูกค้า 5.2 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้ และ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคฝ่ายวิจัยตลาดพบว่า คนไทยยังต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยว ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ต้องอยู่ในวงเงินที่สามารถจับจ่ายได้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นปัจจุบันนี้
ดังนั้นการตัดค่าธรรมเนียมต่างๆออกไปน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ราคาตั๋วของไทยแอร์เอเชียถูกลงมา และเมื่อนำมารวมกับโปรโมชั่นประจำเดือนที่ไทยแอร์เอเชียยังจัดเพื่อส่งเสริมการขาย เช่น ตั๋วโดยสารราคา 0 บาท หรือ 599 บาท ยิ่งทำให้เป็นราคาที่จูงใจให้เกิดการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียม แต่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น บริษัทก็จะมีรายได้เสริม จากการจำหน่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น เช่น รายได้จากค่าอาหารและเครื่องดื่ม ,การจำหน่ายของที่ระลึก ค่าบุ๊กที่นั่งพิเศษ ค่าเหมาจ่ายการขนสัมภาระ เป็นต้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี
นับจากนี้รายได้จากบริการเสริมจะคิดเป็น 15% ของรายได้รวม โดยขณะนี้ทำได้สัดส่วนเกือบ 10% แล้ว กลุ่มที่เติบโตสูงสุดขอที่ระลึกและอื่นๆ เติบโ 160% ส่วนอาหารและเครื่องดื่มโต 40%
นายทัศพล กล่าวอีกว่า ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เห็นได้จากอัตราเข้าพักโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอย่าง กรุงเทพ ภูเก็ต สมุย และ กระบี่ ยังลดลงมาเหลือไม่ถึง 30% ในเดือนนี้ และยอดจองล่วงหน้าแทบจะไม่มีเลย จึงต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการจูงใจให้สายการบินนานาชาติ หันมาเปิดเส้นบินเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้ขนผู้โดยสารชาวต่างชาติให้เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น
โดยโจทย์สำคัญ คือ ต้องให้สายการบินนั้นๆ มีกำไรเพิ่ม ต้นทุนลดลง เป็นที่น่าจูงใจ แต่การที่จะให้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เพียงรายเดียว มาลดค่าบริการ เช่น ค่าจอดเครื่องบิน คงไม่เพียงพอและไม่ยุติธรรมกับการทำธุรกิจของเขาซึ่งต้องหากำไรจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ผลประกอบการของไทยแอร์เอเชีย ไตรมาสแรกเติบโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 1 ล้านคน และมีส่วนแบ่งเฉพาะตลาดเส้นทางภายในประเทศอยู่ที่ 40% แต่หลังจากมีเหตุความรุนแรงทางการเมืองชวงเทศกาลสงกรานต์และต่อด้วยการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้อัตราผู้โดยสาร(โหลดแฟกเตอร์) ต่อเที่ยวลดลงต่อเนื่อง เดือน พ.ค.53 อยู่ได้ประมาณ 76%
ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ได้อยู่ราว 78%
สำหรับ 6 เดือนปีนี้ คาดว่าธุรกิจจะเติบโต ไม่น้อยกว่า 12% จาก 6 เดือนแรกของปีก่อนที่ขนส่งผู้โดยสรได้กว่า 3 ล้านคน ซึ่งกลยุทธ์การออกโปรโมชั่น และทำการส่งเสริมตลาดอย่างต่อเนื่องของไทยแอร์เอชีย จะทำให้สิ้นปีบรรลุเป้าหมาย 5.2 ล้านคนตามที่ตั้งไว้แน่นอน
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ไทยแอร์เอเชียประกาศนโยบายด้านอัตราค่าโดยสารใหม่ โดยยกเลิกการเก็บค่าบริการ (No admin Fee) นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อตั๋วโดยสารของไทยแอร์เอเชียไปอีกเที่ยวละเฉลี่ย 270-300 บาทแต่เมื่อนำมารวมกับค่าธรรมเนียมน้ำมันที่ไทยแอร์เอเชียได้ยกเลิกการเก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ จะทำให้ผู้โดยสารประหยัดได้มากกว่า 1,000 บาทต่อเที่ยว
การออกนโยบายดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เพื่อสิ้นปีจะได้จำนวนลูกค้า 5.2 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้ และ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคฝ่ายวิจัยตลาดพบว่า คนไทยยังต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยว ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ต้องอยู่ในวงเงินที่สามารถจับจ่ายได้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นปัจจุบันนี้
ดังนั้นการตัดค่าธรรมเนียมต่างๆออกไปน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ราคาตั๋วของไทยแอร์เอเชียถูกลงมา และเมื่อนำมารวมกับโปรโมชั่นประจำเดือนที่ไทยแอร์เอเชียยังจัดเพื่อส่งเสริมการขาย เช่น ตั๋วโดยสารราคา 0 บาท หรือ 599 บาท ยิ่งทำให้เป็นราคาที่จูงใจให้เกิดการเดินทางเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้จากการเก็บค่าธรรมเนียม แต่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น บริษัทก็จะมีรายได้เสริม จากการจำหน่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น เช่น รายได้จากค่าอาหารและเครื่องดื่ม ,การจำหน่ายของที่ระลึก ค่าบุ๊กที่นั่งพิเศษ ค่าเหมาจ่ายการขนสัมภาระ เป็นต้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี
นับจากนี้รายได้จากบริการเสริมจะคิดเป็น 15% ของรายได้รวม โดยขณะนี้ทำได้สัดส่วนเกือบ 10% แล้ว กลุ่มที่เติบโตสูงสุดขอที่ระลึกและอื่นๆ เติบโ 160% ส่วนอาหารและเครื่องดื่มโต 40%
นายทัศพล กล่าวอีกว่า ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เห็นได้จากอัตราเข้าพักโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอย่าง กรุงเทพ ภูเก็ต สมุย และ กระบี่ ยังลดลงมาเหลือไม่ถึง 30% ในเดือนนี้ และยอดจองล่วงหน้าแทบจะไม่มีเลย จึงต้องการให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการจูงใจให้สายการบินนานาชาติ หันมาเปิดเส้นบินเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น เพื่อจะได้ขนผู้โดยสารชาวต่างชาติให้เข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น
โดยโจทย์สำคัญ คือ ต้องให้สายการบินนั้นๆ มีกำไรเพิ่ม ต้นทุนลดลง เป็นที่น่าจูงใจ แต่การที่จะให้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เพียงรายเดียว มาลดค่าบริการ เช่น ค่าจอดเครื่องบิน คงไม่เพียงพอและไม่ยุติธรรมกับการทำธุรกิจของเขาซึ่งต้องหากำไรจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ผลประกอบการของไทยแอร์เอเชีย ไตรมาสแรกเติบโต 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือขนส่งผู้โดยสารได้กว่า 1 ล้านคน และมีส่วนแบ่งเฉพาะตลาดเส้นทางภายในประเทศอยู่ที่ 40% แต่หลังจากมีเหตุความรุนแรงทางการเมืองชวงเทศกาลสงกรานต์และต่อด้วยการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้อัตราผู้โดยสาร(โหลดแฟกเตอร์) ต่อเที่ยวลดลงต่อเนื่อง เดือน พ.ค.53 อยู่ได้ประมาณ 76%
ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ได้อยู่ราว 78%
สำหรับ 6 เดือนปีนี้ คาดว่าธุรกิจจะเติบโต ไม่น้อยกว่า 12% จาก 6 เดือนแรกของปีก่อนที่ขนส่งผู้โดยสรได้กว่า 3 ล้านคน ซึ่งกลยุทธ์การออกโปรโมชั่น และทำการส่งเสริมตลาดอย่างต่อเนื่องของไทยแอร์เอชีย จะทำให้สิ้นปีบรรลุเป้าหมาย 5.2 ล้านคนตามที่ตั้งไว้แน่นอน