ASTVผู้จัดการรายวัน - กคช.เสนอบอร์ดตัดขายที่ดินเปล่าทั่วประเทศ พร้อมลุยขายโครงการเคหะชุมชนทั่วประเทศ หวังไตรมาส 4 ยอดขายเกิน 10,000 ยูนิต มั่นใจใช้กลยุทธ์ลุยเคาะประตูบ้านลูกค้า เป้าทะลุล่าสุดยอดจองบ้านเอื้อฯ 6,300 ยูนิต หลังจัดงานตลาดนัดบ้านเอื้อฯ คาดสิ้นเดือนมิ.ย. มอบเงื่อนไขเงินจอง 3,000 บาทดันยอดเพิ่มขึ้นอีก 3,000 ยูนิต
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึงแนวทางการสร้างรายได้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)กคช. ในการนำที่ดินเปล่าแปลงที่มีศักยภาพสูงเสนอขายให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อนำรายได้มาใช้หนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยจะมีการจัดสรรแบ่งเป็นแปลง ทั้งแปลงเล็กขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป คาดว่าหลังบอร์ดอนุมัติจะเปิดขายให้แก่บุคคลภายนอกทั่วไปได้ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
นอกจากนี้ ทางกคช.เตรียมนำโครงการเคหะชุมชนที่ซื้อคืนมาจากลูกค้าทั่วประเทศ ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนดโดยนำมาขายอีกครั้งหนึ่ง โดยรูปแบบนี้ กคช.ทำมาแล้ว 5 ปี สำหรับโครงการเคหะชุมชนที่นำมาเสนอขายจะเป็นที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการมาก่อนที่จะมีโครงการบ้านเอื้ออาทร
ขณะเดียวกัน ยังเตรียมแผนนำโครงการเคหะชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศ เช่น โครงการในจ.เชียงราย , กำแพงเพชร , ลำปาง , นครสวรรค์ , สุราษฎร์ธานี ,สระบุรี , นครปฐม และจ.ขอนแก่น มาทำตลาดเสนอขายประชาชนทั่วไป ส่วนโครงการในกรุงเทพฯ จะมีทำเลในย่านร่มเกล้า โดยกำหนดราคาขายลดราคาตั้งแต่ 15 - 50% ราคาขายเริ่มต้น 150,000 บาทไปจนถึง 1 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของยอดจองซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทร ณ วันที่ 1 ต.ค.51-31 พ.ค.52 นั้น มียอดขายสะสมแล้วทั้งสิ้น 25,247 ยูนิต โดยเฉพาะในเดือนมิ.ย.นี้ สามารถทำยอดขายแล้ว 10,000 ยูนิต รวมขณะนี้มียอดขายทั้งสิ้น 35,247ยูนิต โดยเป้าหมายการสร้างยอดขายบ้านเอื้ออาทรจนถึงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2552 (ต.ค.51-ก.ย. 52) อยู่ที่ 47,000 ยูนิต ดังนั้น ทางกคช.ต้องเร่งทำยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 10,000 กว่ายูนิต คาดว่า จะสามารถทำยอดขายได้ตามแผนที่วางไว้
“ แผนการขายในช่วง 3 เดือนจากนี้ กคช.จะทำการตลาดเชิงรุกแบบเข้าถึงบ้านลูกค้า และโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อบ้าน แต่ไม่มีเวลาเลือกบ้าน โดยโครงการบ้านเอื้อฯที่จะนำไปขาย จะเน้นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ เพราะสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้ ในช่วงเดือนส.ค. ทางกคช.อาจจะมีการจัดงานกระตุ้นยอดขายอีกครั้ง ”
ผู้ช่วยผู้ว่าการกคช.กล่าวว่า สำหรับผลการจัดงานตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อบ้านตลอด 10 วันที่จัดงานรวมยอดขายได้ทั้งสิ้น 6,300 ยูนิต โดยเป็นกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง และทางกคช.ได้มอบกุญแจให้ไปพร้อมกับการยื่นขอสินเชื่อไปพร้อมกัน รวมทั้งการทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอเวลานานถึง 1 เดือนครึ่ง ทั้งนี้ ลูกค้าที่มาจองได้ยื่นขอสินเชื่อไปแล้วกว่า 4,000 กว่าราย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการรอ
สำหรับโครงการที่ขายดีที่สุด ในการจัดงานตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำเลที่ได้รับความนิยมเป็น 5 อับดับแรก คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร ร่มเกล้า ระยะ 2 ,โครงการลาดกระบัง2,โครงการรามอินทรา ( วัดคู้บอน),โครงการบางเขน (คลองถนน ) และโครงการเทพารักษ์ 3 เฟส 1
ส่วนโครงการที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคได้รับความนิยม 4 อันดับ คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (ศรีราชา)โครงการจ.นครสวรรค์ โครงการจ.บุรีรัมย์ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโครงการที่จ.เชียงใหม่
" ยอดขายสำหรับการจัดงานครั้งนี้ กคช.ถือว่าการขายประสบความสำเร็จมาก ดังนั้น ทางฝ่ายขายกคช.จึงมีแผนการขายโดยจะยังคงมอบเงื่อนไขพิเศษสำหรับการจอง คือ ลูกค้าที่จะมาซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรให้จองเพียง 3,000 บาทเหมือนช่วงการจัดงานตลาดนัดครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่15-30 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะมียอดขายได้อีก 200 ยูนิตต่อวัน "นายศิริโรจน์กล่าว
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึงแนวทางการสร้างรายได้ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)กคช. ในการนำที่ดินเปล่าแปลงที่มีศักยภาพสูงเสนอขายให้แก่ผู้ที่สนใจ เพื่อนำรายได้มาใช้หนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยจะมีการจัดสรรแบ่งเป็นแปลง ทั้งแปลงเล็กขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวาขึ้นไป คาดว่าหลังบอร์ดอนุมัติจะเปิดขายให้แก่บุคคลภายนอกทั่วไปได้ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้
นอกจากนี้ ทางกคช.เตรียมนำโครงการเคหะชุมชนที่ซื้อคืนมาจากลูกค้าทั่วประเทศ ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนดโดยนำมาขายอีกครั้งหนึ่ง โดยรูปแบบนี้ กคช.ทำมาแล้ว 5 ปี สำหรับโครงการเคหะชุมชนที่นำมาเสนอขายจะเป็นที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการมาก่อนที่จะมีโครงการบ้านเอื้ออาทร
ขณะเดียวกัน ยังเตรียมแผนนำโครงการเคหะชุมชนที่มีอยู่ทั่วประเทศ เช่น โครงการในจ.เชียงราย , กำแพงเพชร , ลำปาง , นครสวรรค์ , สุราษฎร์ธานี ,สระบุรี , นครปฐม และจ.ขอนแก่น มาทำตลาดเสนอขายประชาชนทั่วไป ส่วนโครงการในกรุงเทพฯ จะมีทำเลในย่านร่มเกล้า โดยกำหนดราคาขายลดราคาตั้งแต่ 15 - 50% ราคาขายเริ่มต้น 150,000 บาทไปจนถึง 1 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของยอดจองซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทร ณ วันที่ 1 ต.ค.51-31 พ.ค.52 นั้น มียอดขายสะสมแล้วทั้งสิ้น 25,247 ยูนิต โดยเฉพาะในเดือนมิ.ย.นี้ สามารถทำยอดขายแล้ว 10,000 ยูนิต รวมขณะนี้มียอดขายทั้งสิ้น 35,247ยูนิต โดยเป้าหมายการสร้างยอดขายบ้านเอื้ออาทรจนถึงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2552 (ต.ค.51-ก.ย. 52) อยู่ที่ 47,000 ยูนิต ดังนั้น ทางกคช.ต้องเร่งทำยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 10,000 กว่ายูนิต คาดว่า จะสามารถทำยอดขายได้ตามแผนที่วางไว้
“ แผนการขายในช่วง 3 เดือนจากนี้ กคช.จะทำการตลาดเชิงรุกแบบเข้าถึงบ้านลูกค้า และโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการซื้อบ้าน แต่ไม่มีเวลาเลือกบ้าน โดยโครงการบ้านเอื้อฯที่จะนำไปขาย จะเน้นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อ เพราะสามารถเข้าอยู่ได้ทันที ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวคาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้ ในช่วงเดือนส.ค. ทางกคช.อาจจะมีการจัดงานกระตุ้นยอดขายอีกครั้ง ”
ผู้ช่วยผู้ว่าการกคช.กล่าวว่า สำหรับผลการจัดงานตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อบ้านตลอด 10 วันที่จัดงานรวมยอดขายได้ทั้งสิ้น 6,300 ยูนิต โดยเป็นกลุ่มที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง และทางกคช.ได้มอบกุญแจให้ไปพร้อมกับการยื่นขอสินเชื่อไปพร้อมกัน รวมทั้งการทำสัญญาจะซื้อจะขาย ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าไม่ต้องรอเวลานานถึง 1 เดือนครึ่ง ทั้งนี้ ลูกค้าที่มาจองได้ยื่นขอสินเชื่อไปแล้วกว่า 4,000 กว่าราย ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการรอ
สำหรับโครงการที่ขายดีที่สุด ในการจัดงานตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 แบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำเลที่ได้รับความนิยมเป็น 5 อับดับแรก คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร ร่มเกล้า ระยะ 2 ,โครงการลาดกระบัง2,โครงการรามอินทรา ( วัดคู้บอน),โครงการบางเขน (คลองถนน ) และโครงการเทพารักษ์ 3 เฟส 1
ส่วนโครงการที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคได้รับความนิยม 4 อันดับ คือ โครงการบ้านเอื้ออาทรชลบุรี (ศรีราชา)โครงการจ.นครสวรรค์ โครงการจ.บุรีรัมย์ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) และโครงการที่จ.เชียงใหม่
" ยอดขายสำหรับการจัดงานครั้งนี้ กคช.ถือว่าการขายประสบความสำเร็จมาก ดังนั้น ทางฝ่ายขายกคช.จึงมีแผนการขายโดยจะยังคงมอบเงื่อนไขพิเศษสำหรับการจอง คือ ลูกค้าที่จะมาซื้อโครงการบ้านเอื้ออาทรให้จองเพียง 3,000 บาทเหมือนช่วงการจัดงานตลาดนัดครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่15-30 มิ.ย.นี้ และคาดว่าจะมียอดขายได้อีก 200 ยูนิตต่อวัน "นายศิริโรจน์กล่าว
