xs
xsm
sm
md
lg

กกต.รอถกโฟนอินแม้ว ก่อนรับรองส.ส.สกลฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 22 มิ.ย.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 3 สกลนคร ว่า ผู้ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 1 คือนางอนุรักษ์ บุญศล จากพรรคเพื่อไทย ได้ 83,348 คะแนน และอันดับ 2 นายพิทักษ์ จันทศรี จากพรรคภูมิใจไทย ได้ 47, 235 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิ 58.06% บัตรดี 96.45% บัตรเสีย 1.16% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2.37%
ส่วนเรื่องร้องเรียน ขณะนี้มี 7 เรื่อง โดยในส่วนของผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งถูกกล่าวหา ในกรณีการใส่ร้าย หลอกลวงให้สำคัญผิดในคะแนนนิยม ซึ่งรวมไปถึงกรณีการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย
ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ถูกร้องในกรณีการแจกเงิน และขนคนมาใช้สิทธิลงคะแนน ซึ่งกกต.กลางจะรอให้ กกต.จว.สกลนคร พิจารณาและเสนอมาว่า จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ โดยกกต. กลางมีเวลาวินิจฉัย 30 วัน ซึ่งหากพิจารณาทัน กกต.ก็อาจจะประกาศรับรองผล หรือแจกใบเหลือง ใบแดง แต่ถ้าพิจารณาไม่ทันเวลาที่กำหนด ก็จะประกาศรับรองผลไปก่อน
ส่วนการหาเสียงที่มีผู้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองมาช่วย จะส่งผลให้ผู้สมัครถูกใบเหลือง ใบแดง หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวมีผู้ร้องเรียนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย กกต. ก็ต้องสอบว่าใครทำอะไร และการโฟนอิน มีเนื้อหาอย่างไร ส่วนจะเป็นความผิดเฉพาะตัว หรือโยงถึงผู้สมัครด้วยก็ขึ้นกับความเห็นของกรรมการว่า มองว่าการกระทำดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่ โดยกำลังให้รวบรวมข้อเท็จจริงอยู่
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า เขต 1 จ.ศรีสะเกษ นายประพันธ์ เปิดเผยมีผู้มาใช้สิทธิ 2 วันรวม 11,174 คน คิดเป็น 3.18% ซึ่งถือว่ามากกว่าการลงคะแนนเมื่อครั้งเลือกตั้งวันที่ 11 ม.ค. 52 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 8,282 คน โดยขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนแล้ว 2 เรื่อง แต่จากการดูสถานการณ์ทราบว่า ไม่มีปัญหา ทุกอย่างคงเรียบร้อย ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอย้ายตัวเองนั้นก็ เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องเท่านั้น และคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คงไม่รุนแรงเท่าที่จ.สกลนคร

**มาร์คให้สติเลือกตั้งต้องมีฐานเสียง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จ.สกลนคร ที่ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย แพ้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ขาดลอย ว่าเป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทย ต้องไปทบทวนแนวทางต่างๆ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การทำงานของพรรคการเมืองนั้น ต้องใช้เวลาในการที่จะสร้างฐานทางการเมือง ในส่วนของรัฐบาลเองก็ต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อที่จะให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ได้เข้าใจแนวทางของรัฐบาล
ส่วนที่มองกันว่าเป็นชัยชนะของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงครองใจชาวบ้านได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวทางพรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงที่แน่นหนา เมื่อถามว่าแต่การต่อสู้ครั้งนี้ เท่ากับเป็นการต่อสู้ของรัฐบาลและฝ่ายค้าน แสดงว่าวันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ใจคนในภาคอีสาน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เป็นรัฐบาลมา ก็มีการเลือกตั้งซ่อมมาเกือบ 30 เขต รัฐบาลก็ชนะเป็นส่วนใหญ่ มันก็มีแพ้มีชนะ แล้วแต่สภาพพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาลก็จะทำงานให้หนักขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการส่งสัญญาณต่อการเลือกตั้งในครั้งหน้า เพราะตนได้ติดตามงานวิจัย และผลสำรวจต่างๆในพื้นที่ ในแง่ความนิยมของพรรคการเมืองต่างๆ ต่อการเลือกตั้งอยู่ แต่ภาพรวมในประเทศไม่มีอะไรหนักใจ ซึ่งตนไม่ได้หมายรวมทั้งภาคอีสาน แต่วิเคราะห์ และประเมินในแต่ละจังหวัดเป็นกลุ่มๆ
"ผมไม่คิดว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะสะท้อนการเมืองภาพใหญ่ ซึ่งเราต้องดูตัวเลขของพื้นที่ต่างๆ และการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก มีการเลือกตั้งซ่อมแล้วหลายครั้งในช่วง 5-6 เดือน ตัวเลขก็จะแตกต่างกันไป ในแต่ละจังหวัด ต้องไปดูคะแนนเสียงเดิม และองค์ประกอบต่างๆ ก็จะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ผมไม่หนักใจ" นายอภิสิทธิ์กล่าว

**เย้ย "แม้ว"กลับมารับโทษได้แล้ว
เมื่อถามว่าการที่พ.ต.ท. ทักษิณ ประกาศว่าถ้าผลการเลือกตั้งซ่อมพรรคเพื่อไทยชนะ ก็จะเดินทางกลับประเทศ นายอภิสิทธิ์ กระตุกยิ้มมุมปากก่อนกล่าวว่า "ก็ดี ควรที่จะเข้ามารับผลทางด้านกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่เราได้บอกมาตั้งแต่ต้นว่า ควรจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม การวางยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมานั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคว่าจะชูแนวทางไหน ผมไม่ได้หนักใจอะไรเลย รวมทั้งตัวเลขที่ออกมาจากผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ผมก็ไม่หนักใจ" นายอภิสิทธิ์กล่าว

**"อภิสิทธิ์"ยันไม่เลือกตั้งเร็ววันนี้
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ที่สิงคโปร์ ว่าไม่มีแผนใดๆ ที่จะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้ พร้อมกันนั้นก็ปฏิเสธด้วยว่า ไม่ได้ทำข้อตกลงใดๆกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายอภิสิทธิ์ ยังได้กล่าวต่อที่ประชุมผู้บริหารธุรกิจที่สิงคโปร์ว่า ต้องการที่จะทำให้มั่นใจว่า การเมืองไทยกลับมีเสถียรภาพ ตลอดจนรับตำแหน่งประธานอาเซียน จนเสร็จสิ้นตามวาระเสียก่อน จึงจะมาพิจารณาเรื่องการเลือกตั้ง
เมื่อถูกถามว่าคิดที่จะทำข้อตกลงกับทักษิณหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไทยตอบว่า "ผมมาอยู่ตรงนี้ เพื่อดูแลประชาชน 60 ล้านคน และผมก็ต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคกัน อดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ได้กระทำผิดกฎหมาย เขาถูกศาลพิพากษาว่าลงโทษเพราะกระทำผิด ดังนั้น เขาจึงต้องยอมรับผลลัพธ์จากการกระทำของเขาในลักษณะเดียวกับที่คนไทยอื่นๆ ก็จะต้องยอมรับ"
นายอภิสิทธิ์ยังบอกว่า เขามองเห็นว่า ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่การเมืองระบบที่มีพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคในระยะเวลาหลายๆปีต่อจากนี้ไป
"แนวโน้มนี้มีความชัดเจน เราดูจะกำลังเคลื่อนตัวไปสู่สิ่งที่เหมือนกับระบบ 2 พรรคการเมือง" เขากล่าว แต่ก็เตือนด้วยว่า ประเทศไทยต้องทำให้มั่นใจว่าสถานการณ์เช่นนี้จะไม่กลายเป็นการทำให้คนไทยเกิดการแบ่งขั้ว

**คุยฟุ้งบทเรียนคนทรยศหักหลัง
นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวของคุณชาวสกลนคร ที่ให้การสนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย และถือว่าชาวสกลนครเป็นตัวอย่างให้กับชาวอีสาน ที่มีความมั่นใจต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้ทำประโยชน์ให้กับคนอีสานด้วย
ด้านพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย แกนนำภาคอีสาน กล่าวว่า สาเหตที่ทำให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ชนะผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย เพราะ 1.ประชาชนในพื้นเป็นนักต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม เมื่อพรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจรัฐลงไปในพื้นที่มากๆ โดยให้รัฐมนตรีลงไปช่วยหาเสียง ทำให้เกิดคำถามในใจประชาชน จนส่งผลถึงการเลือกตั้ง
2. ผลการสำรวจคะแนนนิยม ที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เป็นรองมาตลอด เพราะ นายเนวิน ชิดชอบ ลงไปกำกับอยู่ในพื้นที่ ทำให้พรรคเพื่อไทย ต้องปรับตัวโดยแกนนำของพรรคได้กระตือรือร้น ลงพื้นที่อย่างหนัก
3. ประชาชนยังให้การสนับสนุนคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณอยู่
"นอกจากคนเสื้อแดง และเครือข่ายแล้วยังมีเครือข่ายของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ใน อ.ส่องดาว และ อ.สว่างแดนดิน โดยผมเป็นตัวแทนของพรรค เดินสายเข้าไปประสานและกับคนกลุ่มนี้ ซึ่งยังมีอุดมการณ์และรักความเป็นธรรม ซึ่งยินดีที่จะช่วยเหลือพรรคเพื่อไทย อย่างเต็มที่ ทำให้ม่านสองพันบาท ที่มีความพยายามจะจ่ายให้กับประชาชน ไม่สามารถล้มล้างความนิยมของพ.ต.ท.ทักษิณได้" พ.ต.ท.สมชายกล่าว และว่า หลังจากนี้ ตนจะเสนอให้พรรคปรับยุทธศาสตร์ใหม่ โดยลงไปลุยในพื้นที่ภาคอีสานมากขึ้น โดยเฉพาะ จ.บุรีรัมย์ นครราชสีมา และ สุรินทร์ ที่จะมีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปอย่างมากมาย ดังนั้นพรรคจะต้องเข้าไปทำพื้นที่ โดยยึดความถูกต้องยุติธรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของจิตใจนิสัยคนไทย ที่ไม่ชอบคนทรยศ หักหลัง

**"ชัย"เพ้อใครอยู่ ภท.สอบได้ทุกคน
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ถือเป็นความพ่ายแพ้ เพราะเราเหมือนนักมวยใหม่ที่เป็นเด็กเพิ่งขึ้นเวที จะไปสู้นักมวยเก่าที่ซ้อมมาเป็นอย่างดีคงไม่ได้ แม้จะมีพี่เลี้ยงดี แต่ก็ไม่ได้ขึ้นชกเอง การแพ้ในครั้งนี้ แพ้ที่ตัวบุคคล เพราะคนๆนี้เป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของสกลนคร ช่วยสามีหาเสียงมาโดยตลอด จึงไม่จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะส่งสัญญาณให้ ส.ส.ไม่กล้าย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย มากขึ้นหรือไม่ นายชัย กล่าวว่าไม่ห่วง เพราะ ส.ส.แต่ละคนมีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง อยากอยู่พรรคไหน ก็อยู่ได้ อีกทั้งการย้ายพรรคก็เป็นเอกสิทธิของ ส.ส.แต่ละคน มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส.ที่มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย จะได้รับเลือกตั้งทุกคน
"แพ้ที่จ.สกลนคร ไม่ได้หมายความว่าจะต้องแพ้ทั้งภาคอีสาน ยอมรับว่าคุณทักษิณ ก็ได้รับความนิยมในภาคอีสาน แต่ถ้าเป็นบุรีรัมย์ แค่มีชื่อ ชัย ชิดชอบ ก็ผ่านแล้ว" นายชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลต่อการเลือกตั้งซ่อมในจ.ศรีสะเกษ หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ส่งส.ส.ลงแข่งขัน เพราะพื้นที่นั้น พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นผู้ส่งลงสมัคร และยังไม่ได้ขอร้องให้พรรคฯเข้าไปช่วยหาเสียง

**สกุลทิพย์ไม่ใช่เด็กเนวินฝากเลี้ยง
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ ว่านาง สุกลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ศรีสะเกษ พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ที่มาฝากเลี้ยงไว้ในพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ไม่จนริง นางสกุลทิพย์ เป็นคนของพรรคชาติไทยพัฒนาโดยแท้ ข่าวที่ออกมาเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อสร้างกระแสให้กับพรรคตัวเอง เนื่องจากเห็นว่ากระแสของนายเนวิน กำลังเพลี่ยงพล้ำ หลังจากแพ้การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร
กำลังโหลดความคิดเห็น