xs
xsm
sm
md
lg

พ่อแม่สุดดีใจลูกคว้าโอกาส1ใน100 หายใจเองหลังถอดอุปกรณ์ช่วยชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากตัดสินใจปิดอุปกรณ์ช่วยชีวิตลูกสาววัยหกสัปดาห์ พีท วินเซนต์ และเอมิลี แอสเฮิร์สต์ อุ้มลูกน้อยแนบอกเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อบอกลาเลือดเนื้อเชื้อไขที่กำลังจากไปอย่างสงบ
แต่เกรซคงไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพ่อแม่ เพราะเด็กหญิงน้อยๆ ไขว่คว้าโอกาสที่มีเพียง 1% ในการมีชีวิตรอดจากการติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และหายใจด้วยตัวเอง
นับจากนั้น เกรซก็แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความอัศจรรย์ใจและความปีติยินดีของพ่อแม่ ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หมอลงความเห็นว่าทารกน้อยแข็งแรงพอที่จะกลับบ้านได้
พีท นาวิกโยธินวัย 26 ปี และสมาชิกหน่วยคอมมอนโดที่เพิ่งกลับจากอัฟกานิสถานเมื่อเดือนเมษายน รู้ซึ้งถึงจิตวิญญาณของการต่อสู้ และดูเหมือนลูกสาวเล็กๆ คนนี้จะได้เลือดพ่อมาเต็มๆ และรับรู้ในสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน
“เป็นโชคร้ายของเรา ไม่มีใครคิดว่าเกรซจะมีโอกาสรอด พวกหมอไม่อยากให้เราหวังลมๆ แล้งๆ แต่เราทั้งหมดต่างดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เหลือเชื่อมากที่เกรซฟื้นขึ้นมา แกเป็นนักสู้ตัวจริง แกคว้าโอกาสทั้งหมดที่มีและพิสูจน์ให้เห็นว่าทุกคนคิดผิด”
เกรซเข้าโรงพยาบาลนิวคาสเซิล เจเนรัล อังกฤษ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม หลังจากพ่อแม่สังเกตเห็นว่าลูกซึมและหายใจลำบาก
ผลการตรวจระบุว่าเกรซเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อสเตรปโตคอคคัสกลุ่มบี ซึ่งเกิดกับทารก 1 ใน 100 คน โดยมีการติดเชื้อระหว่างการคลอด
หลังจากอยู่ห้องไอซียูสี่วัน แพทย์บอกพีทและเอมิลีว่าเกรซหมดหวังที่จะมีชีวิตรอด
“การตัดสินใจถอดอุปกรณ์ช่วยชีวิตอิงกับสิ่งที่หมอบอกเรา ผลการสแกนเลวร้ายมาก เราจึงคิดว่าการตัดสินใจแบบนี้ดีที่สุดสำหรับลูก
“หมอบอกว่าหลังถอดเครื่องช่วยหายใจ แกจะหายใจเองได้ครู่เดียว แต่เกรซกลับหายใจต่อเนื่องอยู่หกชั่วโมง หกเดือนในอัฟกานิสถานกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลยเมื่อเทียบกับการต่อสู้ของเกรซ” พีทเล่า
ไม่นานทุกคนก็รู้แน่ว่าเกรซไม่ยอมแพ้ สี่วันต่อมา อัตราเต้นของหัวใจ อุณหภูมิและความดันโลหิตของทารกน้อยกลับคืนสู่ปกติ อย่างไรก็ตาม เด็กหญิงสูญเสียความสามารถในการมองเห็น และแพทย์ยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นแบบนี้ชั่วคราวหรือถาวร
เอมิลี วัย 26 ปีที่ทำงานเป็นพนักงานธุรการในโรงพยาบาล บอกว่าตอนนี้ครอบครัวซึ่งรวมถึงเมแกน พี่สาวของเกรซวัยหกขวบ เริ่มมองไปถึงอนาคต
“หมอบอกเราว่าสมองเกรซถูกทำลาย และแกไม่มีโอกาสรอด แต่แกก็รอดมาได้ เราดีใจและมีความสุขมาก และคิดว่าเราจะเป็นครอบครัวที่มีความสุข
“ทุกวันแกจะมีพัฒนาการอย่างช้าๆ ไม่กี่วันมานี้แกเพิ่งร้องไห้เป็นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ และนั่นเป็นเสียงที่เพราะที่สุดในโลกสำหรับฉัน เป็นความรู้สึกมหัศจรรย์ที่ได้ยินแกร้องไห้
“ไม่มีหมอคนไหนบอกได้ว่าเกรซจะเป็นอย่างไรต่อไป เรายังห่วงแก แต่ก็หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น