ศูนย์ข่าวศรีราชา –“พญาไทศรีราชา” แจงผลประกอบการปี 51 ยังเติบโตโดยมียอดคนไข้เข้าใช้บริการเพิ่มจากปีก่อนถึง 23% กำไรพุ่งสูงถึง 28% จากความพร้อมของศูนย์รักษาโรคเฉพาะทาง โดยเฉพาะศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก และกลุ่มคนไข้จีนเพิ่มไม่หยุด ชี้ผลประกอบการปี 52 จะลดต่ำตามภาวะเศรษฐกิจ
นายแพทย์ธนาคม แมนธนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เผยถึงความก้าวหน้าและแผนดำเนินงานของโรงพยาบาลในปี 2552 ว่านอกจากจะไม่ขึ้นราคาค่ารักษาเพื่อช่วยเหลือคนไข้ในยุคเศรษฐกิจตกต่ำแล้ว ยังจะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่เป็นโรคยากและต้องการใช้เทคโนโลยีสูงได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางเข้ารักษาตัวถึงในกรุง เทพฯ
ขณะที่การลงทุนด้านเครื่องมือทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 2551 ถึงไตรมาสแรกของปี 2552 ยังคงเป็นไปตามปกติคือ นอกจากจะมีการนำเข้าเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง CT 64 Slices และเครื่อง MRI ที่ทันสมัยที่สุดเพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคทางสมอง ระบบประสาท โรคทางหัวใจ โรคทางลำไส้ ภายในศูนย์รักษาโรคทางระบบประสาทและศูนย์รักษาโรคทางหัวใจ ด้วยมูลค่า 70 ล้านบาทแล้ว
โรงพยาบาลยังได้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องจ่ายน้ำยาฆ่าเชื้อล้างมือ ระบบปิด โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสซึ่งขณะนี้ใช้ชื่อว่า แอลกอฮอล์ เจล และได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ทางปัญญาแต่เพียงผู้เดียว โดยระบบดังกล่าวสามารถป้องกันเชื้อจากภายนอกปนเปื้อนในน้ำยา และยังไม่ต้องใช้มือสัมผัสปุ่มกด เหมาะกับการใช้งานในโรง เรียน อนุบาล สถานเลี้ยงเด็ก โรงงานและสนามบิน รวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆ โดยปัจจุบันโรงพยาบาลฯได้ติดตั้งในห้องค้นไข้เพื่อลดการติดเชื้อภายใน
“ในส่วนของศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก เราประสบความสำเร็จมาก ปัจจุบันมีทั้งกลุ่มคนไข้ชาวไทย และต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีอัตราประสบความสำเร็จสูงถึง 47% ถือเป็นอัตราที่สูงสุดในประเทศไทย เพราะปัจจุบันอัตราการประสบความสำเร็จของการดำเนินการในประเทศไทยอยู่ที่ 33% ยุโรป 65-70% แต่เรากลับทำได้สูงถึงเกือบ 50% ”
นายแพทย์ธนาคม ยังเผยถึงผลประกอบการของโรงพยาบาลในปี 2551 ว่าเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้คือ มียอดเติบโตของกลุ่มคนไข้เพิ่มขึ้นถึง 23% จากปีก่อน ส่วนผลกำไรก็เติบโตถึง 28% แต่ในปี 2552 คาดว่าผลประกอบการจะลดต่ำตามภาวะเศรษฐกิจ แต่โรงพยาบาลฯจะไม่ชะลอแผนการลงทุนต่างๆ ที่ได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นแผนเพิ่มจำนวนห้องตรวจโรคจาก 50 ห้องเป็น 80 ห้องเพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนคนไข้ที่เข้าใช้บริการสูงเฉลี่ย 1,300 คนต่อวัน เช่นเดียวกับการปรับโครงสร้างโรงพยาบาลในส่วนต่างๆ เพื่อให้สวยงามและเหมาะสมกับการรองรับคนไข้
นอกจากนั้นยังจะเพิ่มระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อแจงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้คนไข้ทุกห้องได้รับทราบ โดยไม่ต้องลงมาสอบถามจากเคาน์เตอร์ด้านล่าง
“การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พบผู้ติดเชื้อในเมืองพัทยา พบว่าก่อให้เกิดการตื่นตัวของประชาชนในจังหวัดชลบุรี ที่ขอเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากขึ้น แต่โรงพยาบาลฯก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้คนไข้ทราบว่าเชื้อหวัดดังกล่าวไม่ได้น่ากลัวอย่างเชื้อซาร์ส หรือไข้หวัดนก ที่มีโอกาสเสียชีวิตสูง แต่ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ หากประชาชนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และไม่เข้าไม่อยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงก็จะไม่ติด และเชื้อดังกล่าวยังมีอัตราการเสียชีวิตเพียง 0.05% เท่านั้น” นายแพทย์ธนาคม กล่าว
