ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เทศบาลเมืองป่าตองเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้าไฮซีซันปลายปีนี้ ปรับภูมิทัศน์ชายหาดให้สวยงาม พร้อมเชิญผู้ประกอบการให้ความรู้การให้บริการที่ดีที่ไม่รบกวนนักท่องเที่ยว ขณะที่ถนนสาย ก. อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียดของบประมาณ 300-400 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2553
นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของเทศบาลเมืองป่าตองในการรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในช่วงไฮซีซันปลายปีนี้ ว่า หาดป่าตองถือว่าเป็นหาดท่องเที่ยว ที่มีความสำคัญของจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงหน้าฝนหรือช่วงโลว์ซีซันทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาหาดป่าตองลดน้อยลง จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และปัญหาทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวของหาดป่าตองในช่วงหน้าฝนนี้อัตราการพักโรงแรมอยู่ที่ไม่ถึง 50%ซึ่งถือว่าน้อยกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คาดกันว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่ม ฟื้นตัว ในช่วงไฮซีซันนักท่องเที่ยวจะเดินทางกลับมาภูเก็ตและหาดป่าตองเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เทศบาลเมืองป่าตองในฐานที่เป็นเจ้าของพื้นที่หาดป่าตองได้เตรียมความพร้อม ที่จะทำหาดป่าตองให้สวยงามเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ชายหาดป่าตองให้สวยงาม โดยเริ่มดำเนินการในเร็วๆนี้ และการปรับภูมิทัศน์ จะไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวที่พักผ่อนอยู่ ที่หาดป่าตองโดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ เทศบาลฯจะเชิญผู้ประกอบการชายหาดทั้งหมดทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งมีมากกว่า 20 อาชีพ ทั้งเรือเจ็ตสกี เรือลากร่ม หมอนวดชายหาด ฯลฯ เพื่อให้ความรู้ในการไม่ให้รบกวนนักท่องเที่ยวที่พักผ่อนนอนอาบแดดอยู่ที่ชายหาด
ในส่วนของซอยบางลา ซึ่งมีกลิ่นเหม็นของน้ำเสียรบกวนนักท่องเที่ยว นายเปี่ยน กล่าวว่า อยู่ในระหว่างดำเนินการโดยการสั่งซื้อสารเคมีที่จะนำมาดับกลิ่นเหม็นจากน้ำเสีย ซึ่งจุดนี้เทศบาลจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซัน
นายเปี่ยน ยังกล่าวถึงการก่อสร้างถนนสายก. ซึ่งเป็นถนนอีกหนึ่งสายที่อยู่ทางด้านหลังถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี (ถนนสายสอง) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณหาดป่าตองและแก้ปัญหาน้ำท่วม ว่า ขณะนี้เทศบาลเมืองป่าตองได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท ในการอัดลูกรังบนถนนเส้นดังกล่าว และได้โอนถนนสายดังกล่าวให้แก่กรมทางหลวงชนบทเป็นเจ้าของเรื่อง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการออกแบบรายละเอียดเป็นถนนสี่ช่องทางจราจร และมีการนำสายไฟฟ้าลงตลอดสาย 3-4 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบก่อสร้างประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งกรมทางหลวงชนบทจะของบประมาณในปี 2553