เอเอฟพี/รอยเตอร์- เหตุไม่สงบจากประท้วงคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอิหร่านเข้าขั้นวิกฤต หลังกองกำลังรัฐบาลยิงผู้สนับสนุนผู้นำฝ่ายค้านเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย7ราย ด้านผู้นำสหรัฐฯแถลงแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ในอิหร่าน ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติชี้รัฐบาลอิหร่านควรรับฟังเสียงของประชาชน
สถานีวิทยุกระจายเสียงอิหร่านหรือ "ไออาร์ไอบี" ของทางการอิหร่าน รายงานเมื่อวานนี้ (16)ว่ากองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลยิงผู้ประท้วงคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย7รายระหว่างการปราบปราบกลุ่มผู้ชุมนุมใจกลางกรุงเตหะราน ขณะที่ทางการอิหร่านควบคุมตัว โมฮัมหมัด อาลี อับตอฮี หนึ่งในแกนนำนักการเมืองสายปฏิรูปไปสอบสวนเมื่อช่วงเช้าวานนี้และยังไม่มีการเปิดเผยถึงชะตากรรมของเขาแต่อย่างใด
ไออาร์ไอบียืนยันว่า กลุ่มผู้ประท้วงตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศมีจำนวนเพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับแหล่งข่าวที่เป็นนายตำรวจอาวุโสที่ระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงเฉพาะในย่านใจกลางกรุงเตหะรานเพียงจุดเดียวก็มีจำนวนประมาณ 1.5-2 ล้านคนแล้ว
รายงานข่าวระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายถูกยิงเมื่อวันจันทร์(15)ในระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเมื่อปี1979 กลุ่มผู้ชุมนุมมีการเผายางรถยนต์ ถังขยะ และจักรยานยนต์ โดยไม่ฟังคำสั่งห้ามของทางการที่ไม่ให้ชุมนุมประท้วง
ขณะที่ ช่างภาพชาวอิหร่านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ยิงกันที่อาคารของหน่วยทหารกองหนุน บาสิจ อิสลามิก ของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอีผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ โดยผู้ประท้วงรายหนึ่ง ถูกพลแม่นปืนของหน่วยทหารดังกล่าวที่ประจำการบนหลังคาอาคารแห่งนี้ยิงที่ศีรษะ
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในพื้นที่ 3 เขตทางเหนือของกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีฐานะร่ำรวย
ด้านโฆษกกองทัพอิหร่านแถลงว่า เจ้าหน้าที่ถูกกลุ่มผู้ประท้วงทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก พร้อมกล่าวหากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีมีร์ ฮอสเซนมูซาวี ว่าพยายามปล้นปืนของเจ้าหน้าที่และปล้นสะดมร้านค้าต่างๆ บริเวณจัตุรัสอาซาดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการตอบโต้ขั้นเด็ดขาด
อดีตนายกรัฐมนตรีมูซาวี ผู้ประกาศว่าตนถูกโกงผลการเลือกตั้ง ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ว่า ทางการอิหร่านกำลังเตรียมปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมขั้นเด็ดขาด จึงขอร้องให้กลุ่มคนที่สนับสนุนเขา ยุติการออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนน แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสันติก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องเสียเลือดเนื้อจากน้ำมือของทางการอีก
ขณะที่วานนี้ประธานาธิบดี มะห์มุด อะห์มาดิเนจัด เดินทางจากกรุงเตหะราน ไปถึงเมืองเยคาเทรินเบิร์ก ทางภาคกลางของรัสเซียแล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้หรือ "เอสซีโอ" ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือของ 6 ประเทศในภูมิภาคคือ รัสเซีย จีน อุซเบกิสถาน คีร์กิซสถาน คาซัคสถาน และทาจิกิสถาน ส่วนอิหร่านได้สิทธิ์เข้าร่วมประชุมในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์
การเดินทางไปรัสเซียของอะห์มาดิเนจัดครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านสมัยที่สองได้แบบน่ากังขา
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวที่กรุงวอชิงตันวานนี้ (16) แสดงความวิตกต่อการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงของทางการอิหร่านและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลการเลือกตั้งซึ่งถูกร้องเรียนว่าไม่โปร่งใสโดยเร็ว แต่ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯพร้อมเจรจากับอิหร่านเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างทั้งสองชาติ
บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ในอิหร่านอย่างใกล้ชิด และเห็นด้วยหากจะมีการสอบสวนเรื่องความไม่โปร่งใสของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมขอให้รัฐบาลอิหร่านเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยและยอมรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า อับบาซอลี คัดโคได โฆษกสภาพิทักษ์สาธารณรัฐซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติสูงสุดของอิหร่าน ออกมายืนยันผ่านทางสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอวานนี้ (16) ว่าสภาฯพร้อมให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดรอบใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นหลังการนับคะแนนรอบนี้
สถานีวิทยุกระจายเสียงอิหร่านหรือ "ไออาร์ไอบี" ของทางการอิหร่าน รายงานเมื่อวานนี้ (16)ว่ากองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลยิงผู้ประท้วงคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย7รายระหว่างการปราบปราบกลุ่มผู้ชุมนุมใจกลางกรุงเตหะราน ขณะที่ทางการอิหร่านควบคุมตัว โมฮัมหมัด อาลี อับตอฮี หนึ่งในแกนนำนักการเมืองสายปฏิรูปไปสอบสวนเมื่อช่วงเช้าวานนี้และยังไม่มีการเปิดเผยถึงชะตากรรมของเขาแต่อย่างใด
ไออาร์ไอบียืนยันว่า กลุ่มผู้ประท้วงตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศมีจำนวนเพียงหลักหมื่นคนเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับแหล่งข่าวที่เป็นนายตำรวจอาวุโสที่ระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงเฉพาะในย่านใจกลางกรุงเตหะรานเพียงจุดเดียวก็มีจำนวนประมาณ 1.5-2 ล้านคนแล้ว
รายงานข่าวระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายถูกยิงเมื่อวันจันทร์(15)ในระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเมื่อปี1979 กลุ่มผู้ชุมนุมมีการเผายางรถยนต์ ถังขยะ และจักรยานยนต์ โดยไม่ฟังคำสั่งห้ามของทางการที่ไม่ให้ชุมนุมประท้วง
ขณะที่ ช่างภาพชาวอิหร่านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ยิงกันที่อาคารของหน่วยทหารกองหนุน บาสิจ อิสลามิก ของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอีผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ โดยผู้ประท้วงรายหนึ่ง ถูกพลแม่นปืนของหน่วยทหารดังกล่าวที่ประจำการบนหลังคาอาคารแห่งนี้ยิงที่ศีรษะ
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในพื้นที่ 3 เขตทางเหนือของกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีฐานะร่ำรวย
ด้านโฆษกกองทัพอิหร่านแถลงว่า เจ้าหน้าที่ถูกกลุ่มผู้ประท้วงทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก พร้อมกล่าวหากลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีมีร์ ฮอสเซนมูซาวี ว่าพยายามปล้นปืนของเจ้าหน้าที่และปล้นสะดมร้านค้าต่างๆ บริเวณจัตุรัสอาซาดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการตอบโต้ขั้นเด็ดขาด
อดีตนายกรัฐมนตรีมูซาวี ผู้ประกาศว่าตนถูกโกงผลการเลือกตั้ง ได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ว่า ทางการอิหร่านกำลังเตรียมปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมขั้นเด็ดขาด จึงขอร้องให้กลุ่มคนที่สนับสนุนเขา ยุติการออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนน แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสันติก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องเสียเลือดเนื้อจากน้ำมือของทางการอีก
ขณะที่วานนี้ประธานาธิบดี มะห์มุด อะห์มาดิเนจัด เดินทางจากกรุงเตหะราน ไปถึงเมืองเยคาเทรินเบิร์ก ทางภาคกลางของรัสเซียแล้ว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้หรือ "เอสซีโอ" ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือของ 6 ประเทศในภูมิภาคคือ รัสเซีย จีน อุซเบกิสถาน คีร์กิซสถาน คาซัคสถาน และทาจิกิสถาน ส่วนอิหร่านได้สิทธิ์เข้าร่วมประชุมในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์
การเดินทางไปรัสเซียของอะห์มาดิเนจัดครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านสมัยที่สองได้แบบน่ากังขา
ทางด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวที่กรุงวอชิงตันวานนี้ (16) แสดงความวิตกต่อการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงของทางการอิหร่านและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบผลการเลือกตั้งซึ่งถูกร้องเรียนว่าไม่โปร่งใสโดยเร็ว แต่ยังคงยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯพร้อมเจรจากับอิหร่านเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างทั้งสองชาติ
บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า กำลังจับตาดูสถานการณ์ในอิหร่านอย่างใกล้ชิด และเห็นด้วยหากจะมีการสอบสวนเรื่องความไม่โปร่งใสของการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมขอให้รัฐบาลอิหร่านเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยและยอมรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน
ทั้งนี้ รายงานล่าสุดระบุว่า อับบาซอลี คัดโคได โฆษกสภาพิทักษ์สาธารณรัฐซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติสูงสุดของอิหร่าน ออกมายืนยันผ่านทางสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอวานนี้ (16) ว่าสภาฯพร้อมให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดรอบใหม่ และมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นหลังการนับคะแนนรอบนี้