รอยเตอร์ – ตำรวจอิหร่านปะทะกับผู้ประท้วงในกรุงเตหะรานอีกเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้(14) หลังจากผลการเลือกตั้งออกมาว่า ประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด เป็นผู้ชนะได้ดำรงตำแหน่งอีกสมัย แล้วฝ่ายค้านประณามว่าถูกโกง ขณะที่อะห์มาดิเนจัดยืนยันว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างใสสะอาด
มีรายงานว่านอกจากกรุงเตหะรานแล้ว ยังเกิดความไม่สงบตามเมืองใหญ่อื่นๆ อีกหลายแห่ง ตั้งแต่ทางการประกาศผลการเลือกตั้งในวันเสาร์(13) การประท้วงเหล่านี้ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจต่อคณะผู้นำอิหร่านครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายๆ ปี
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้สนับสนุนอะห์มาดิเนจัดหลายหมื่นคน พากันเดินขบวนไปบรรจบกันที่จัตุรัสใหญ่ในนครหลวง เพื่อรับฟังคำปราศรัยประกาศชัยชนะของประธานาธิบดี ซึ่งได้เสียงจากการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในวันศุกร์(12) เกินกว่าที่คาดหมายกันไว้มาก
ก่อนหน้านั้น พวกผู้สนับสนุน มีร์ฮอสเซน มูซาวี อดีตนายกรัฐมนตรีผู้มีแนวทางสายกลาง ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งคราวนี้ ได้ไปชุมนุมกันที่ใจกลางกรุงเตหะราน พร้อมกับตะโกนชื่อมูซาวี และขว้างก้อนหินใส่ตำรวจ ทั้งนี้ตามปากคำของคนของรอยเตอร์ผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์
พวกตำรวจได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ฝูงชนให้กระจายไป โดยมีผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ตำรวจยังได้ควบคุมพวกนักข่าวและช่างภาพที่ถ่ายภาพเหตุการณ์เอาไว้เป็นช่วงระยะสั้นๆ ด้วย
ทางด้านอะห์มาดิเนจัดได้กล่าวปราศรัยประกาศชัยชนะ โดยบอกว่าการถกเถียงกันเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านกลายเป็นอดีตไปแล้ว และชี้ว่าในสมัยที่สองของเขานโยบายเรื่องนิวเคลียร์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเตือนว่า ประเทศใดก็ตามที่โจมตีอิหร่าน จะต้องเสียใจที่ทำเช่นนั้น
อะห์มาดิเนจัดยังยืนยันว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง “ใสสะอาดและมีสุขภาวะ”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โมฮัมหมัด อาลี อับตาฮี ผู้นำกลุ่มปฏิรูปในอิหร่าน ระบุว่าชาวอิหร่านที่นิยมแนวทางปฏิรูปกว่า 100 คนถูกจับกุมตัวในคืนวันเสาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีอะห์มาดิเนจัด ชนะการเลือกตั้ง และมีผู้ออกมาประท้วงตามท้องถนน
ทว่า โฆษกของศาลอิหร่านผู้หนึ่งแย้งว่าพวกเขาไม่ได้ถูกจับกุมตัว แต่ถูกเรียกตัวไปและ “ตักเตือนไม่ให้สร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น” และทั้งหมดได้รับการปล่อยกลับบ้านแล้ว
อับตาฮี ที่เคยเป็นอดีตรองประธานาธิบดีของอิหร่านกล่าวว่า พวกที่ถูกจับกุมตัวไปนั้นเป็นสมาชิกของพรรคโมชาเรกัต ซึ่งมีแนวทางปฏิรูป นอกจากนั้นโมฮัมหมัด เรซา คาตามี น้องชายของอดีตประธานาธิบดีโมฮํมหมัด คาตามี ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุมตัวครั้งนี้ด้วย
“พวกเขาถูกจับกุมตัวออกจากบ้านในตอนกลางคืน” และคาดว่าจะมีการจับกุมเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ในวันเสาร์มีประชาชนหลายพันคนปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ ซาเดค มาห์ซูลี รัฐมนตรีมหาดไทยอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอะห์มาดิเนจัด ประกาศว่า อะห์มาดิเนจัดได้รับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ 62.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมูซาวีได้คะแนนเพียง 33.7 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงมหาดไทยยังปฏิเสธคำร้องเรียนของมูซาวีที่กล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการเลือกตั้งและโกงการเลือกตั้งด้วย
“ผมขอเตือนว่าผมจะไม่ยอมจำนนต่อความผิดพลาดอันเลวร้ายครั้งนี้ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจากทางการ จะทำลายเสาค้ำสาธารณรัฐอิสลามและสถาปนาระบอบทรราชย์ขึ้นมา” มูซาวีระบุในแถลงการณ์
ประชาชนหลายพันคนที่สนับสนุนมูซาวีออกมาประท้วงบนท้องถนนในวันเสาร์ บางคนร้องตะโกนถามว่า คะแนนเสียงของเราหายไปไหน” ในขณะที่อีกหลายคนตะโกนต่อต้านอะห์มาดิเนจัดว่า “เราก็เป็นชาวอิหร่านเหมือนกัน” “มูซาวีคือประธานาธิบดีของเรา”
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไม้ตะบองทุบตีผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมทั่วเมืองหลวง และมีการเผาข้าวของต่างๆ ตามข้างถนนด้วย
อย่างไรก็ดี อยาตอลเลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดทางศาสนาได้เรียกร้องให้ชาวอิหร่านเคารพผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทำให้คู่แข่งหัวปฏิรูปคนสำคัญคือ มูซาวี ต้องพลาดหวังที่จะได้เก้าอี้ประธานาธิบดี
คาเมนียังบอกให้ฝ่ายที่แพ้การเลือกตั้งรวมทั้งผู้สนับสนุนหลีกเลี่ยงการใช้ “พฤติกรรมในเชิงยั่วยุ” เขาระบุในแถลงการณ์ในระหว่างออกอากาศทางโทรทัศน์ของรัฐว่า “ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกและได้รับการยอมรับนับถือ คือประธานาธิบดีของชาวอิหร่านทั้งประเทศ และทุกคน ซึ่งรวมทั้งคู่แข่งชิงตำแหน่ง จะต้องให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน”
อนึ่ง อาห์มาดิเนจัดได้คะแนนจากพื้นที่ชนบทและคนยากจนในเมือง ส่วนมูซาวีมีฐานเสียงในกลุ่มคนร่ำรวยในเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและคนหนุ่มสาว
นักวิเคราะห์ชาวอิหร่านและตะวันตกเห็นว่าชัยชนะอีกครั้งของอะห์มาดิเนจัดทำให้มหาอำนาจตะวันตกผิดหวัง เพราะตะวันตกต้องการชักชวนอิหร่านให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ซึ่งสงสัยกันว่าเป็นโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งประกาศว่าจะเปลี่ยนวิธีรับมือกับอิหร่าน มาเป็นการพูดจาด้วย
มีรายงานว่านอกจากกรุงเตหะรานแล้ว ยังเกิดความไม่สงบตามเมืองใหญ่อื่นๆ อีกหลายแห่ง ตั้งแต่ทางการประกาศผลการเลือกตั้งในวันเสาร์(13) การประท้วงเหล่านี้ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจต่อคณะผู้นำอิหร่านครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายๆ ปี
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้สนับสนุนอะห์มาดิเนจัดหลายหมื่นคน พากันเดินขบวนไปบรรจบกันที่จัตุรัสใหญ่ในนครหลวง เพื่อรับฟังคำปราศรัยประกาศชัยชนะของประธานาธิบดี ซึ่งได้เสียงจากการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในวันศุกร์(12) เกินกว่าที่คาดหมายกันไว้มาก
ก่อนหน้านั้น พวกผู้สนับสนุน มีร์ฮอสเซน มูซาวี อดีตนายกรัฐมนตรีผู้มีแนวทางสายกลาง ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งคราวนี้ ได้ไปชุมนุมกันที่ใจกลางกรุงเตหะราน พร้อมกับตะโกนชื่อมูซาวี และขว้างก้อนหินใส่ตำรวจ ทั้งนี้ตามปากคำของคนของรอยเตอร์ผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์
พวกตำรวจได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ฝูงชนให้กระจายไป โดยมีผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน ตำรวจยังได้ควบคุมพวกนักข่าวและช่างภาพที่ถ่ายภาพเหตุการณ์เอาไว้เป็นช่วงระยะสั้นๆ ด้วย
ทางด้านอะห์มาดิเนจัดได้กล่าวปราศรัยประกาศชัยชนะ โดยบอกว่าการถกเถียงกันเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านกลายเป็นอดีตไปแล้ว และชี้ว่าในสมัยที่สองของเขานโยบายเรื่องนิวเคลียร์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเตือนว่า ประเทศใดก็ตามที่โจมตีอิหร่าน จะต้องเสียใจที่ทำเช่นนั้น
อะห์มาดิเนจัดยังยืนยันว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง “ใสสะอาดและมีสุขภาวะ”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โมฮัมหมัด อาลี อับตาฮี ผู้นำกลุ่มปฏิรูปในอิหร่าน ระบุว่าชาวอิหร่านที่นิยมแนวทางปฏิรูปกว่า 100 คนถูกจับกุมตัวในคืนวันเสาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีอะห์มาดิเนจัด ชนะการเลือกตั้ง และมีผู้ออกมาประท้วงตามท้องถนน
ทว่า โฆษกของศาลอิหร่านผู้หนึ่งแย้งว่าพวกเขาไม่ได้ถูกจับกุมตัว แต่ถูกเรียกตัวไปและ “ตักเตือนไม่ให้สร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น” และทั้งหมดได้รับการปล่อยกลับบ้านแล้ว
อับตาฮี ที่เคยเป็นอดีตรองประธานาธิบดีของอิหร่านกล่าวว่า พวกที่ถูกจับกุมตัวไปนั้นเป็นสมาชิกของพรรคโมชาเรกัต ซึ่งมีแนวทางปฏิรูป นอกจากนั้นโมฮัมหมัด เรซา คาตามี น้องชายของอดีตประธานาธิบดีโมฮํมหมัด คาตามี ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับกุมตัวครั้งนี้ด้วย
“พวกเขาถูกจับกุมตัวออกจากบ้านในตอนกลางคืน” และคาดว่าจะมีการจับกุมเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ในวันเสาร์มีประชาชนหลายพันคนปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากที่ ซาเดค มาห์ซูลี รัฐมนตรีมหาดไทยอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอะห์มาดิเนจัด ประกาศว่า อะห์มาดิเนจัดได้รับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ 62.6 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมูซาวีได้คะแนนเพียง 33.7 เปอร์เซ็นต์ กระทรวงมหาดไทยยังปฏิเสธคำร้องเรียนของมูซาวีที่กล่าวหาว่ามีการแทรกแซงการเลือกตั้งและโกงการเลือกตั้งด้วย
“ผมขอเตือนว่าผมจะไม่ยอมจำนนต่อความผิดพลาดอันเลวร้ายครั้งนี้ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจากทางการ จะทำลายเสาค้ำสาธารณรัฐอิสลามและสถาปนาระบอบทรราชย์ขึ้นมา” มูซาวีระบุในแถลงการณ์
ประชาชนหลายพันคนที่สนับสนุนมูซาวีออกมาประท้วงบนท้องถนนในวันเสาร์ บางคนร้องตะโกนถามว่า คะแนนเสียงของเราหายไปไหน” ในขณะที่อีกหลายคนตะโกนต่อต้านอะห์มาดิเนจัดว่า “เราก็เป็นชาวอิหร่านเหมือนกัน” “มูซาวีคือประธานาธิบดีของเรา”
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไม้ตะบองทุบตีผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมทั่วเมืองหลวง และมีการเผาข้าวของต่างๆ ตามข้างถนนด้วย
อย่างไรก็ดี อยาตอลเลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดทางศาสนาได้เรียกร้องให้ชาวอิหร่านเคารพผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทำให้คู่แข่งหัวปฏิรูปคนสำคัญคือ มูซาวี ต้องพลาดหวังที่จะได้เก้าอี้ประธานาธิบดี
คาเมนียังบอกให้ฝ่ายที่แพ้การเลือกตั้งรวมทั้งผู้สนับสนุนหลีกเลี่ยงการใช้ “พฤติกรรมในเชิงยั่วยุ” เขาระบุในแถลงการณ์ในระหว่างออกอากาศทางโทรทัศน์ของรัฐว่า “ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกและได้รับการยอมรับนับถือ คือประธานาธิบดีของชาวอิหร่านทั้งประเทศ และทุกคน ซึ่งรวมทั้งคู่แข่งชิงตำแหน่ง จะต้องให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน”
อนึ่ง อาห์มาดิเนจัดได้คะแนนจากพื้นที่ชนบทและคนยากจนในเมือง ส่วนมูซาวีมีฐานเสียงในกลุ่มคนร่ำรวยในเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงและคนหนุ่มสาว
นักวิเคราะห์ชาวอิหร่านและตะวันตกเห็นว่าชัยชนะอีกครั้งของอะห์มาดิเนจัดทำให้มหาอำนาจตะวันตกผิดหวัง เพราะตะวันตกต้องการชักชวนอิหร่านให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ซึ่งสงสัยกันว่าเป็นโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ซึ่งประกาศว่าจะเปลี่ยนวิธีรับมือกับอิหร่าน มาเป็นการพูดจาด้วย