ASTVผู้จัดการรายวัน/ศูนย์ข่าวภูมิภาค – ร.ร.เซ็นต์คาเบรียลประกาศปิดเรียน 7 วันหลังพบนักเรียน 5 รายติดเชื้อหวัดพันธุ์ใหม่ สธ.สั่งเก็บตัวอย่างนักเรียนเพิ่มอีก 10 ราย “มานิต” รับยังไม่สามารถหาต้นเหตุของโรคได้ นายกสมาคมผู้ปกครองฯ เผยอาจติดจาก ร.ร.กวดวิชา ขณะที่เซ็นต์ฟรังฯ ผวาออกประกาศปิดโรงเรียน 1 สัปดาห์เช่นเดียวกับ “อนุบาลปทุมธานี” ที่มีเด็กไข้สูงยกชั้นกว่า 30 คน เมืองพัทยาระส่ำหนักหลังผลแล็บยืนยันเจอผู้ติดเชื้อรวดเดียว 21 ราย คาดเป็นการแพร่เชื้อจาก “ผับ-เธค” กรุ๊ปทัวร์ไต้หวันยกเลิกมาพัทยา สถานบันเทิงต้นเหตุปิดให้บริการ 1 สัปดาห์ ส่วนผู้ประกอบการภูเก็ตหวังไม่กระทบท่องเที่ยวแต่พร้อมคุมเข้ม
วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อเตรียมแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ร่วมกับม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และนายสมชาย ตรีดารา นายกสมาคมผู้ปกครองและครูเซนต์คาเบรียลนายอาวุธ ศิลาเกษ รองอธิการบดีโรงเรียนเซนต์คาเบรียล นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
**ปิดเซ็นคาเบรียล 7 วันสกัดโรค
นายมานิตกล่าวว่า หลังจากที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นเด็กชายอายุ 11 ปีศึกษาอยู่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 6/2 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล วานนี้(11 มิ.ย.) สธ.พบเด็กนักเรียนอีก 4 ราย ที่อยู่ห้องเดียวกัน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งรวมมีเด็กนักเรียนที่เป็นหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 5 ราย ดังนั้น จึงได้หารือกับผู้บริหารโรงเรียน กทม.และศธ.มีความเห็นว่าจะปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 12-18 มิ.ย. เพื่อให้ทางกทม.ส่งทีมลงมาดำเนินการทำความสะอาดโรงเรียนในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้จากเดิมที่ปิดเรียนเพียง 3 ห้อง 3 วัน เพื่อการป้องกันโรคมีความรัดกุมมากขึ้น
สำหรับสาเหตุการป่วยของนักเรียนวัย 11 ปีนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่ได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงสอบสวนโรคในเด็กทั้ง 4 ราย ที่มีอาการป่วยแล้ว ซึ่งอาจมีเด็กรายใดรายหนึ่งมีญาติพี่น้องเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่"นายมานิตกล่าว
ทั้งนี้ นักเรียนโรงเรียนนี้มีจำนวนมากที่เดินทางกลับจากการไปต่างประเทศเพื่อศึกษาภาคฤดูร้อนระยะสั้น อีกทั้ง ในอีก 2-3 วันนี้ จะมีคณะครูของโรงเรียนนี้อีกประมาณ 30 คน เดินทางกลับจากการศึกษาดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
นายมานิตกล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนทำตัวตามปกติ รักษาสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง หากมีการไอ จาม ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้คนปกติ ที่ไม่มีอาการป่วยสวมหน้ากากอนามัย เพราะหากทุกคนสวมหน้ากากกันทั่วประเทศก็อาจทำให้แตกตื่นกันทั้งประเทศได้
**เก็บตัวอย่าง นร.เพิ่มอีก 10 ราย
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของนักเรียนในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลเพิ่มอีก 10 ราย โดยมีทั้งเด็กนักเรียนห้องเดียวกันและห้องใกล้เคียงกับผู้ป่วยรายที่ 16 จากเดิมที่เก็บไปแล้ว 9 ราย ซึ่งผลออกมาแล้วทั้งหมดพบติดเชื้อ 4 ราย ไม่ติดเชื้อ 5 ราย ซึ่งคงจะต้องรอการตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการอีกครั้ง แต่หลังจากนี้จะไม่ดำเนินการเก็บตัวอย่างจากนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากได้ให้นักเรียนกลับไปเฝ้าสังเกตอาการที่บ้านแล้ว ถ้ายังหากเก็บตัวอย่างอีกก็จะถือว่ามีตัวอย่างมากจนล้นห้องปฏิบัติการทั้งที่อาการไม่รุนแรง
"ขณะนี้สธ.ได้เปลี่ยนแบบแผนในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยในรายที่ไม่มีอาการรุนแรง ไม่มีไข้สูง สามารถรับประทานยาลดไข้และพักรักษาตัวอยู่บ้านได้ โดยสธ.จะไม่ให้ยาโอเซลทามิเวียร์ เนื่องจากลักษณะอาการของโรคไม่รุนแรงจึงไม่มีความจำเป็น อีกทั้งก็เกรงว่าจะเกิดการดื้อยา แต่หากรายใดมีไข้สูง อาการของโรครุนแรงทางสธ.จะให้ยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับรักษาโรคดังกล่าวทันที"นพ.ไพจิตร์ กล่าว
**ยังไม่รู้ต้นตอเด็กเซนต์คาเบรียลป่วย
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกรณีของผู้ป่วยเด็กชายอายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนเขตดุสิต ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 16 และผู้ป่วยชาวไต้หวัน 2 รายที่ติดเชื้อหลังจากมาเที่ยวประเทศไทยนั้น ขณะนี้ทั้ง 2 กรณีต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถทราบสาเหตุการติดเชื้อต้นทาง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะ ส่วนกรณีของที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าผู้ป่วยไต้หวันติดเชื้อจากไกด์ขณะมาเที่ยวในไทยนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากได้มีการนำตัวอย่างมาตรวจ ซึ่งไม่พบเชื้อว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009แต่อย่างใด
“ส่วนกรณีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ทางการแจ้งว่าพบผู้ป่วยหลังจากที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต ทางการของฮ่องกงได้ส่งข้อมูลมายังสธ. ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคที่จ.ภูเก็ตกำลังดำเนินการสอบสวนโรคอยู่คาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วนของผู้ป่วยรายที่ 20 ที่เดินทางไปรับลูกที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่สุวรรณภูมินั้น สาเหตุการติดเชื้อจะมาจากลูกที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือติดจากภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แน่ชัด กำลังอยู่ในการสอบสวน โดยล่าสุดได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของลูกชายผู้ป่วยรายดังกล่าวเพื่อตรวจพิสูจน์แล้ว
**สั่งครู 30 คนหยุดงานหลังไปนอก
นายอาวุธ ศิลาเกษ รองอธิการบดีโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กล่าวว่า ขณะนี้มีคณะครูเดินทางไปรับปริญญาโทที่รัฐชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเดินทางกลับมาวันที่ 18 มิ.ย. และอีกกลุ่มที่เดินทางไปรับปริญญาโทที่ประเทศเยอรมนี จะกลับประมาณวันที่ 20 มิ.ย. โดยครูทั้ง 2 กลุ่มที่เดินทางไปต่างประเทศประมาณ 30 ราย หลังจากกลับมาจะให้พักดูอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 3 วันก่อนที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม
**กทม.ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยสกัด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้ส่งหน่วยแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่จากศูนย์บริการสาธารณสุข 6 เข้ามาดูแลสถานการณ์ที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล โดยเบื้องต้นกทม.ได้มอบหน้ากากอนามัย และยาฆ่าเชื้อโรคอย่างละ 1,000 มอบให้กับทางโรงเรียน และในวันพรุ่งนี้ทางสำนักงานเขตดุสิตจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดทั่วโรงเรียนทั้งอุปกรณ์การเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร ของเล่นที่มีการใช้ร่วมกันโดยจะประสานการทำงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักอนามัย อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหากมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ ตนได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1. ให้สำนักอนามัยส่งหนังสือเวียนไปยังโรงเรียนทุกแห่งทั่วกทม.เพื่อให้ข้อมูลการดูแลป้องกันอย่างถูกต้อง 2. ให้สำนักการศึกษากำชับผู้บริหารโรงเรียนทั้ง 435 แห่งในสังกัดกทม.ให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดในโรงเรียน 3. ในวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ โรงเรียนกทม.ทั้ง 435 แห่งจะมีการทำความสะอาดอย่างครบวงจรเพื่อเป็นการล้างเชื้อโรค และ 4. จะเชิญผู้แทนของโรงเรียนทุกสังกัดในกทม. ผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชา ผู้ประกอบการสถานบังเทิงผับบาร์ โรงภาพยนตร์มาร่วมประชุมพร้อมกันในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ที่ เจเจ มอลล์ เวลา 13.00 น. ทั้งนี้เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะการป้องกัน รวมทั้งกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้
ด้านนายสมชาย ตรีดารา นายกสมาคมผู้ปกครองและครูเซ็นต์คาเบรียล กล่าวว่า สอบถามเด็กที่ได้รับเชื้อทราบว่าเด็กคนดังกล่าวได้ไปที่โรงเรียนกวดวิชาและเมื่อกลับมาเรียนที่โรงเรียนก็ทำให้เพื่อนคนอื่นๆ ติดไข้ไปด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของทุกคนทางโรงเรียนมีนโยบายหยุดเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ซึ่งเป็นระยะที่ปลอดภัยที่สุด
**ผู้ปกครองตื่นหวัดรับลูกกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเช้า วานนี้(11 มิ.ย.) ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลซึ่งพบว่ามีนักเรียนอายุ 11 ขวบ ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดA H1N1 ว่า ผู้ปกครองยังคงเดินทางมาส่งบุตรหลานเข้าเรียนตามปกติ โดยนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่พาบุตรหลานมาถึงโรงเรียน และเมื่อทราบว่ามีนักเรียนในโรงเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็พาลูกเดินทางกลับบ้านทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคงให้บุตรหลานเข้าเรียนตามปกติ
ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.4 รายหนึ่ง ซึ่งตัดสินใจพาลูกกลับบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้านเนื่องจากกลัวว่าในโรงเรียนจะมีการแพร่เชื้ออยู่ จึงต้องการป้องกันไว้ก่อน
ส่วนบุตรลูกชายของผู้ปกครองคนดังกล่าว กล่าวว่า ไม่อยากกลับบ้านเพราะอยากเรียนหนังสือ แต่ว่าต้องกลับเพราะแม่อยากให้กลับ ส่วนตัวไม่กลัวติดหวัด เพราะมีหน้ากากอนามัย และคุณครูบอกให้ล้างมือบ่อยๆ ก็จะป้องกันได้
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนซึ่งมีบุตรเรียนอยู่ชั้น ป.1 และ ป.4 และให้ลูกเข้าเรียนหนังสือตามปกติ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกลัว หรือตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเคยพูดคุยกับแพทย์ถึงการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้ว ทราบว่าจะมีความรุนแรงเฉพาะคนที่มีภูมิต้านทานน้อย สำหรับลูกชายทั้ง 2 คน เคยเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ได้กำชับให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือบ่อยๆ
ส่วนตัวมองว่าผู้ปกครองที่นำบุตรหลานกลับบ้าน อาจจะกลัวเพราะยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงให้กลับบ้านเพื่อป้องกันไว้ก่อน ซึ่งตนยังเชื่อมั่นกับวิธีการรับมือของทางโรงเรียนว่าจะป้องกันการแพร่ระบาดได้ และจะให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนอย่างเต็มที่ในการรายงานข้อมูล
**”วิทยา” เผยพัทยาติดเชื้อ 21 ราย
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ว่า สธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มอีก 22 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในระบบเฝ้าระวัง 5 ราย และผู้ป่วยในระบบค้นหาสอบสวนโรคที่พัทยา 12 ราย
ในกลุ่มผู้ป่วยเฝ้าระวัง 5 ราย รายละเอียดดังนี้ รายที่ 1 เป็นชายชาวอังกฤษอายุ 20 ปี เดินทางผ่านมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะไปต่อที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 พบมีไข้สูง จึงส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยรายนี้มีอาการไอ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2552
รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 23 ปี เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ มีอาการป่วยมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 27 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ป่วยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2552 รายที่ 4 มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่ไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2552 เริ่มป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นแม่ของผู้ป่วยรายที่ 16 ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย และอยู่ในข่ายเฝ้าระวังติดตามอาการ โดยรายนี้ไม่มีอาการป่วย แต่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีม SRRT ลงสอบสวนโรคและผู้สัมผัส ในกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่พัทยา พบมีผู้ป่วยติดเชื้อ 21 ราย โดย 17 เป็นพนักงานในสถานประกอบการ ส่วนอีก 4 รายเป็นนักท่องเที่ยว ทำให้ยอดรวมล่าสุดของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจนถึงขณะนี้มีทั้งสิ้น 42 ราย
**ตั้งศูนย์ รพ.บางละมุงสู้หวัด2009
น.พ.มล.สมชาย จักรพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ พร้อมด้วย น.พ.มารุต จิระเศรษฐกศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์การติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
นายอิทธิพลกล่าวว่า เมื่อมีผู้ติดเชื้อ เมืองพัทยาก็จะได้ร่วมกับกรมควบคุมโรคเพื่อเปิดศูนย์ปฏิบัติ การเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลบางละมุง โดยนำรถตรวจสอบเคลื่อนที่เร็วมาให้บริการ ซึ่งจะรองรับได้ประมาณวันละ 200 ราย ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จะได้มีการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ทั่วเขตเมืองพัทยา ในวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่โรงแรมพัทยาพาร์ค โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยหลายราย แต่เมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองก็มีมาตรการในการป้องกันที่เข้มงวดและจะไม่มีการขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้สามารถยืนยันความมั่นใจได้ว่าเมืองพัทยาจะปลอดจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในระยะ 4 สัปดาห์จากนี้ พร้อมกันนี้ยังจะได้ทำการแจ้งหนังสือชี้แจงและประชาสัมพันธ์ไปยังทางการไต้หวันและบริษัทนำเที่ยวต่างๆเพื่อชี้แจงสถานการณ์ไข้ หวัดใหญ่ 2009 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยา ในโอกาสต่อไป และยืนยันว่าสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงอะไรและสามารถป้องกันหรือรักษาให้หายได้ในเวลาอันสั้น
**สถานบริการต้นเหตุปิดบริการ 7 วัน
แหล่งข่าวระดับสูงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสถานบันเทิงต้นเหตุไข้หวัด 2009 ดังกล่าวได้ปิดให้บริการแล้ว 7 วันโดยเป็นการปิดให้บริการเอง โดยจะให้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขเข้าไปแก้ไขการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่ามีการส่งข้อมูลผู้ติดเชื้อจากสถานพยาบาลรอบเขตเมืองพัทยาที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก 7 รายด้วยกัน
**กรุ๊ปทัวร์จากไต้หวันยกเลิกเข้าพัทยา
ด้านนายสุวัฒน์ แพภิรมณ์รัตน์ อุปนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา เผยว่าในขณะนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการในเมืองพัทยา ยังไม่ได้มีการทำอะไรเลย ต้องรอให้ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกประชุม เพื่อวางแผนการดำเนินงานว่าพวกเราควรจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งทราบว่าทางจังหวัดจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (12 มิ.ย.) ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวไต้หวันที่มีการติดเชื่อไข้หวัด 2009 หลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยานั้นขณะนี้กรุ๊ปทัวร์จากเกาะไต้หวันได้ยกเลิกการเดินทางพัทยาทั้งหมดแล้ว
**ท่องเที่ยวภูเก็ตยันไม่กระทบ
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตกรณีที่สำนักข่าวซินหัวของฮ่องกงรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง วัย 33 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต แต่เมื่อเดินทางกลับประเทศปรากฎว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า คิดว่าโดยภาพรวมแล้วคิดว่าไม่น่าที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตมากนัก ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวจะระบุว่าติดเชื้อภายหลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต เพราะทางประเทศไทยและ จ.ภูเก็ต ได้มีการมาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวได้ตื่นตัวในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งโรคดังกล่าวเป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้ และที่สำคัญโรคดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยและ จ.ภูเก็ต แต่ขณะนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้แพร่ระบาดครบทั้ง 50 รัฐแล้ว
"อยากจะให้ทุกคนตั้งสติไม่หวั่นวิตกกับข่าวที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะเป็นโรคที่รักษาหาย มียาพร้อมทุกโรงพยาบาล และเมื่อพบแหล่งที่มาของการติดเชื้อหน่วยงานทางสาธารณสุขก็จะเข้าไปสกรีนพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดที่สุดและที่ไม่น่าห่วงคือโรงแรมในภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมที่เป็นในลักษณะรีสอร์ทมีพื้นที่ที่เป็นโอเพ่นแอร์มากกว่าพื้นที่ที่ติดแอร์ ที่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะห้องพักเท่านั้น โอกาสที่ติดเชื้อจากโรงแรมค่อนข้างน้อย"
นายสมบูรณ์กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตในขณะนี้ว่า ช่วงนี้ถือว่าค่อนข้างที่จะซบเซาอัตราเข้าพักโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30-35% เพราะช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.ถือเป็นช่วงโลว์ที่สุดของการท่องเที่ยวภูเก็ต เมื่อประกอบกับในปีนี้เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้การท่องเที่ยวช่วงนี้ของภูเก็ตตกต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา แต่อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่ดีว่าในช่วงปลายปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮชีชั่นการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว การเมืองภายในประเทศก็เริ่มที่จะนิ่ง
รวมทั้งสายการบินต่างๆ ที่ได้ยกเลิกบินเข้ามา จ.ภูเก็ตในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองได้เริ่มที่จะบินกลับเข้ามาภูเก็ตแล้ว เช่น สายการบินเชียงไฮแอร์ ที่จะบินเข้ามาในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ และสายการบินไชน่าอีสเทิร์น เป็นต้น รวมทั้งนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปจีน ซึ่งจุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วงไฮชีชั่นปีนี้อาจจะตกลงจากปีที่แล้วบ้างรวมทั้งรายได้ที่จะเกิดขึ้นก็อาจจะลดลงบ้างเช่นกัน
***เข้มฉีดยาฆ่าเชื้อ-ติดตามอาการ
นพ.พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวกรณีมีข่าวนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ช่วงวันที่ 4-8 มิ.ย.และกลับไปป่วยเป็นโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า หลังจากทราบรายงานข่าวได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการฉีดยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดโรงแรมที่พัก และสถานบันเทิงที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเข้าไปเที่ยวทันที พร้อมกับเฝ้าระวังและติดตามสอบสวนโรคอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่พบผู้มีอาการที่สงสัยเพิ่ม
**สธ.เตรียมหารือปรับแผนจากบีเป็นซี
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าประเทศไทยมีการระบาดในประเทศแล้ว แต่จะปรับระดับสถานการณ์การแพร่ระบาดจากระดับบี เป็นระดับซีหรือไม่ ต้องรอให้นักระบาดวิทยาประเมินสถานการณ์ซึ่งแนวโน้มน่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ชลบุรี เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อป่วยก็ไม่พบแพทย์ ไม่แจ้งอาการป่วยให้แพทย์ทราบ ยืนยันว่า สธ.พร้อมที่จะรับผู้ป่วยไม่ได้มุ่งที่จะเข้าไปจับกุม จึงไม่อยากให้กลัวแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวง หรือหนีโรงพยาบาล
“จากการประเมินสถานการณ์ เริ่มมีการแพร่เชื้อในประเทศในหลายพื้นที่ คาดว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่อยากให้ประชาชนตกใจ เพราะข้อมูลทั้งในและต่างประเทศชี้ว่า โรคนี้ไม่รุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 มีอาการน้อยและหายเองได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันโรค เพื่อจำกัดการระบาดอยู่ในวงเล็กที่สุด ลดผลกระทบด้านต่างๆ ของประเทศ”นายวิทยา กล่าว
**”มาร์ค”ยันไข้หวัดยังไม่น่าวิตก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามสถานการณ์ไข้หวัด20009 ซึ่งแพร่ระบาดในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้เร่งให้มีการตรวจสอบทั้งที่พัทยาและภูเก็ต การที่ทางการไต้หวันประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อจากการเดินทางมาเที่ยวสถาบันเทิงที่พัทยานั้น รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณะสุขได้ส่งตนไปตรวจสอบสถานบันเทิงดังกล่าว และได้ดูแลผู้ติดเชื้อและเร่งตรวจสอบคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ยังไม่มีรายใดที่มีอาการรุนแรง ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเพิ่มระดับการเฝ้าระวังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องเน้นการประชาสัมพันธ์ให้เข้มข้นขึ้น แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นตระหนก ใครมีอาการอะไรก็ให้ความร่วมมือกับทางราชการ ในการที่จะมาตรวจรักษาก็ไม่น่าจะมีปัญหา
**ศธ.เรียกประชุมโรงเรียนทั่วประเทศ
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 13.30 น.ที่ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ โดยได้ทำหนังสือเชิญทุกโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนกวดวิชาที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมถึงมหาวิทยาลัยและอาชีวะทั้งหมด ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจ และซักซ้อมเพื่อป้องกันการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ให้ตื่นตระหนก เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ และไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ
“โรงเรียนถือเป็นแหล่งชุมชน มีการทำกิจกรรมร่วมกัน ขณะนี้ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะควบคุมกำกับสุขอนามัยในโรงเรียน เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายเป็นวงกว้างต่อไป ซึ่งหากสธ.ประสานขอความร่วมมือมายังศธ.ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง”นายชินภัทรกล่าว
**เซ็นต์ฟรังฯ ผวาปิด 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ได้มีประกาศหยุดเรียน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะเด็กนักเรียนของเซนต์ฟรังฯ หลายคนมีญาติพี่น้องเรียนอยู่ใน ร.ร.เซนต์คาเบรียล โดยมีกำหนดปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 12-18 มิ.ย.และเปิดทำการสอนปกติในวันที่ 19 มิ.ย.เช่นเดียวกับ ร.ร.เซนต์คาเบรียล
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนเพิ่ม 2 แห่ง คือ โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์และโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี ซึ่งในส่วนของโรงเรียนเซนต์ฟรังฯ นั้นยังไม่มีเด็กที่มีอาการป่วย แต่การที่หยุดโรงเรียนเป็นดุลยพินิจของโรงเรียนแต่ละแห่ง เนื่องจากสธ.ได้แจ้งไปยังโรงเรียนทุกแห่งแล้ว หากพบสิ่งผิดปกติมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ให้รายงานมายังสธ. เพื่อเฝ้าระวังและส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วติดตามสืบสวนที่มาของโรค เหมือนกับที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลแจ้งมายังสธ.ก่อนหน้านี้
“ส่วนที่โรงเรียนอนุบาลปทุมธานีซึ่งมีการประสานมายังสธ.ว่ามีเด็กนักเรียนกว่า 30 คนมีอาการป่วยไข้ขึ้นสูง แพทย์ได้ตรวจอาการและให้กลับบ้านแล้วเหลือเด็กที่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปทุมธานีเพียง 1 ราย นอกนั้นแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วได้ลงไปตรวจสอบในพื้นที่เพื่อหาที่มาของโรคทั้งเด็กและผู้ปกครองว่าได้มีการเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ พร้อมกับได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของเด็กที่มีอาการรุนแรงบางส่วนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจวิเคราะห์แล้วคาดว่าจะทราบผลในวันนี้”นายมานิตกล่าว.
วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อเตรียมแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ร่วมกับม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และนายสมชาย ตรีดารา นายกสมาคมผู้ปกครองและครูเซนต์คาเบรียลนายอาวุธ ศิลาเกษ รองอธิการบดีโรงเรียนเซนต์คาเบรียล นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
**ปิดเซ็นคาเบรียล 7 วันสกัดโรค
นายมานิตกล่าวว่า หลังจากที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นเด็กชายอายุ 11 ปีศึกษาอยู่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 6/2 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล วานนี้(11 มิ.ย.) สธ.พบเด็กนักเรียนอีก 4 ราย ที่อยู่ห้องเดียวกัน ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งรวมมีเด็กนักเรียนที่เป็นหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 5 ราย ดังนั้น จึงได้หารือกับผู้บริหารโรงเรียน กทม.และศธ.มีความเห็นว่าจะปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 12-18 มิ.ย. เพื่อให้ทางกทม.ส่งทีมลงมาดำเนินการทำความสะอาดโรงเรียนในวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้จากเดิมที่ปิดเรียนเพียง 3 ห้อง 3 วัน เพื่อการป้องกันโรคมีความรัดกุมมากขึ้น
สำหรับสาเหตุการป่วยของนักเรียนวัย 11 ปีนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่ได้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงสอบสวนโรคในเด็กทั้ง 4 ราย ที่มีอาการป่วยแล้ว ซึ่งอาจมีเด็กรายใดรายหนึ่งมีญาติพี่น้องเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่"นายมานิตกล่าว
ทั้งนี้ นักเรียนโรงเรียนนี้มีจำนวนมากที่เดินทางกลับจากการไปต่างประเทศเพื่อศึกษาภาคฤดูร้อนระยะสั้น อีกทั้ง ในอีก 2-3 วันนี้ จะมีคณะครูของโรงเรียนนี้อีกประมาณ 30 คน เดินทางกลับจากการศึกษาดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย
นายมานิตกล่าวต่อว่า ขอให้ทุกคนทำตัวตามปกติ รักษาสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง หากมีการไอ จาม ให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้คนปกติ ที่ไม่มีอาการป่วยสวมหน้ากากอนามัย เพราะหากทุกคนสวมหน้ากากกันทั่วประเทศก็อาจทำให้แตกตื่นกันทั้งประเทศได้
**เก็บตัวอย่าง นร.เพิ่มอีก 10 ราย
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของนักเรียนในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลเพิ่มอีก 10 ราย โดยมีทั้งเด็กนักเรียนห้องเดียวกันและห้องใกล้เคียงกับผู้ป่วยรายที่ 16 จากเดิมที่เก็บไปแล้ว 9 ราย ซึ่งผลออกมาแล้วทั้งหมดพบติดเชื้อ 4 ราย ไม่ติดเชื้อ 5 ราย ซึ่งคงจะต้องรอการตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการอีกครั้ง แต่หลังจากนี้จะไม่ดำเนินการเก็บตัวอย่างจากนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว เนื่องจากได้ให้นักเรียนกลับไปเฝ้าสังเกตอาการที่บ้านแล้ว ถ้ายังหากเก็บตัวอย่างอีกก็จะถือว่ามีตัวอย่างมากจนล้นห้องปฏิบัติการทั้งที่อาการไม่รุนแรง
"ขณะนี้สธ.ได้เปลี่ยนแบบแผนในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยในรายที่ไม่มีอาการรุนแรง ไม่มีไข้สูง สามารถรับประทานยาลดไข้และพักรักษาตัวอยู่บ้านได้ โดยสธ.จะไม่ให้ยาโอเซลทามิเวียร์ เนื่องจากลักษณะอาการของโรคไม่รุนแรงจึงไม่มีความจำเป็น อีกทั้งก็เกรงว่าจะเกิดการดื้อยา แต่หากรายใดมีไข้สูง อาการของโรครุนแรงทางสธ.จะให้ยาโอเซลทามิเวียร์สำหรับรักษาโรคดังกล่าวทันที"นพ.ไพจิตร์ กล่าว
**ยังไม่รู้ต้นตอเด็กเซนต์คาเบรียลป่วย
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกรณีของผู้ป่วยเด็กชายอายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเอกชนเขตดุสิต ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 16 และผู้ป่วยชาวไต้หวัน 2 รายที่ติดเชื้อหลังจากมาเที่ยวประเทศไทยนั้น ขณะนี้ทั้ง 2 กรณีต้องยอมรับว่ายังไม่สามารถทราบสาเหตุการติดเชื้อต้นทาง ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะ ส่วนกรณีของที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าผู้ป่วยไต้หวันติดเชื้อจากไกด์ขณะมาเที่ยวในไทยนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากได้มีการนำตัวอย่างมาตรวจ ซึ่งไม่พบเชื้อว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009แต่อย่างใด
“ส่วนกรณีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ทางการแจ้งว่าพบผู้ป่วยหลังจากที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ต ทางการของฮ่องกงได้ส่งข้อมูลมายังสธ. ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคที่จ.ภูเก็ตกำลังดำเนินการสอบสวนโรคอยู่คาดว่าจะทราบผลเร็วๆนี้”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วนของผู้ป่วยรายที่ 20 ที่เดินทางไปรับลูกที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่สุวรรณภูมินั้น สาเหตุการติดเชื้อจะมาจากลูกที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือติดจากภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แน่ชัด กำลังอยู่ในการสอบสวน โดยล่าสุดได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของลูกชายผู้ป่วยรายดังกล่าวเพื่อตรวจพิสูจน์แล้ว
**สั่งครู 30 คนหยุดงานหลังไปนอก
นายอาวุธ ศิลาเกษ รองอธิการบดีโรงเรียนเซนต์คาเบรียล กล่าวว่า ขณะนี้มีคณะครูเดินทางไปรับปริญญาโทที่รัฐชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเดินทางกลับมาวันที่ 18 มิ.ย. และอีกกลุ่มที่เดินทางไปรับปริญญาโทที่ประเทศเยอรมนี จะกลับประมาณวันที่ 20 มิ.ย. โดยครูทั้ง 2 กลุ่มที่เดินทางไปต่างประเทศประมาณ 30 ราย หลังจากกลับมาจะให้พักดูอาการอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 3 วันก่อนที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิม
**กทม.ระดมเจ้าหน้าที่ช่วยสกัด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้ส่งหน่วยแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่จากศูนย์บริการสาธารณสุข 6 เข้ามาดูแลสถานการณ์ที่โรงเรียนเซ็นคาเบรียล โดยเบื้องต้นกทม.ได้มอบหน้ากากอนามัย และยาฆ่าเชื้อโรคอย่างละ 1,000 มอบให้กับทางโรงเรียน และในวันพรุ่งนี้ทางสำนักงานเขตดุสิตจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำความสะอาดทั่วโรงเรียนทั้งอุปกรณ์การเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร ของเล่นที่มีการใช้ร่วมกันโดยจะประสานการทำงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักอนามัย อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหากมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ทั้งนี้ ตนได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1. ให้สำนักอนามัยส่งหนังสือเวียนไปยังโรงเรียนทุกแห่งทั่วกทม.เพื่อให้ข้อมูลการดูแลป้องกันอย่างถูกต้อง 2. ให้สำนักการศึกษากำชับผู้บริหารโรงเรียนทั้ง 435 แห่งในสังกัดกทม.ให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดในโรงเรียน 3. ในวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ โรงเรียนกทม.ทั้ง 435 แห่งจะมีการทำความสะอาดอย่างครบวงจรเพื่อเป็นการล้างเชื้อโรค และ 4. จะเชิญผู้แทนของโรงเรียนทุกสังกัดในกทม. ผู้บริหารโรงเรียนกวดวิชา ผู้ประกอบการสถานบังเทิงผับบาร์ โรงภาพยนตร์มาร่วมประชุมพร้อมกันในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ที่ เจเจ มอลล์ เวลา 13.00 น. ทั้งนี้เพื่อรับฟังข้อมูล ข้อเสนอแนะการป้องกัน รวมทั้งกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้
ด้านนายสมชาย ตรีดารา นายกสมาคมผู้ปกครองและครูเซ็นต์คาเบรียล กล่าวว่า สอบถามเด็กที่ได้รับเชื้อทราบว่าเด็กคนดังกล่าวได้ไปที่โรงเรียนกวดวิชาและเมื่อกลับมาเรียนที่โรงเรียนก็ทำให้เพื่อนคนอื่นๆ ติดไข้ไปด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของทุกคนทางโรงเรียนมีนโยบายหยุดเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ซึ่งเป็นระยะที่ปลอดภัยที่สุด
**ผู้ปกครองตื่นหวัดรับลูกกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเช้า วานนี้(11 มิ.ย.) ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลซึ่งพบว่ามีนักเรียนอายุ 11 ขวบ ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิดA H1N1 ว่า ผู้ปกครองยังคงเดินทางมาส่งบุตรหลานเข้าเรียนตามปกติ โดยนักเรียนที่เดินทางมาโรงเรียนส่วนใหญ่สวมหน้ากากอนามัย ขณะที่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งที่พาบุตรหลานมาถึงโรงเรียน และเมื่อทราบว่ามีนักเรียนในโรงเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็พาลูกเดินทางกลับบ้านทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคงให้บุตรหลานเข้าเรียนตามปกติ
ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ป.4 รายหนึ่ง ซึ่งตัดสินใจพาลูกกลับบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ตัดสินใจพาลูกชายกลับบ้านเนื่องจากกลัวว่าในโรงเรียนจะมีการแพร่เชื้ออยู่ จึงต้องการป้องกันไว้ก่อน
ส่วนบุตรลูกชายของผู้ปกครองคนดังกล่าว กล่าวว่า ไม่อยากกลับบ้านเพราะอยากเรียนหนังสือ แต่ว่าต้องกลับเพราะแม่อยากให้กลับ ส่วนตัวไม่กลัวติดหวัด เพราะมีหน้ากากอนามัย และคุณครูบอกให้ล้างมือบ่อยๆ ก็จะป้องกันได้
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนซึ่งมีบุตรเรียนอยู่ชั้น ป.1 และ ป.4 และให้ลูกเข้าเรียนหนังสือตามปกติ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกลัว หรือตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเคยพูดคุยกับแพทย์ถึงการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้ว ทราบว่าจะมีความรุนแรงเฉพาะคนที่มีภูมิต้านทานน้อย สำหรับลูกชายทั้ง 2 คน เคยเข้ารับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ก็ได้กำชับให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือบ่อยๆ
ส่วนตัวมองว่าผู้ปกครองที่นำบุตรหลานกลับบ้าน อาจจะกลัวเพราะยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงให้กลับบ้านเพื่อป้องกันไว้ก่อน ซึ่งตนยังเชื่อมั่นกับวิธีการรับมือของทางโรงเรียนว่าจะป้องกันการแพร่ระบาดได้ และจะให้ความร่วมมือกับทางโรงเรียนอย่างเต็มที่ในการรายงานข้อมูล
**”วิทยา” เผยพัทยาติดเชื้อ 21 ราย
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ว่า สธ.ได้ประกาศขึ้นทะเบียนพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มอีก 22 ราย แยกเป็นผู้ป่วยในระบบเฝ้าระวัง 5 ราย และผู้ป่วยในระบบค้นหาสอบสวนโรคที่พัทยา 12 ราย
ในกลุ่มผู้ป่วยเฝ้าระวัง 5 ราย รายละเอียดดังนี้ รายที่ 1 เป็นชายชาวอังกฤษอายุ 20 ปี เดินทางผ่านมาลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยจะไปต่อที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2552 พบมีไข้สูง จึงส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาล โดยรายนี้มีอาการไอ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2552
รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 23 ปี เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ มีอาการป่วยมีไข้ ไอ มีน้ำมูก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 27 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ป่วยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2552 รายที่ 4 มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่ไปรับลูกชายที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2552 เริ่มป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2552 และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552 ผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นแม่ของผู้ป่วยรายที่ 16 ไม่มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง แต่เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย และอยู่ในข่ายเฝ้าระวังติดตามอาการ โดยรายนี้ไม่มีอาการป่วย แต่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับกรณีมีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังเดินทางกลับจากประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีม SRRT ลงสอบสวนโรคและผู้สัมผัส ในกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่พัทยา พบมีผู้ป่วยติดเชื้อ 21 ราย โดย 17 เป็นพนักงานในสถานประกอบการ ส่วนอีก 4 รายเป็นนักท่องเที่ยว ทำให้ยอดรวมล่าสุดของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจนถึงขณะนี้มีทั้งสิ้น 42 ราย
**ตั้งศูนย์ รพ.บางละมุงสู้หวัด2009
น.พ.มล.สมชาย จักรพันธ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ พร้อมด้วย น.พ.มารุต จิระเศรษฐกศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์การติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
นายอิทธิพลกล่าวว่า เมื่อมีผู้ติดเชื้อ เมืองพัทยาก็จะได้ร่วมกับกรมควบคุมโรคเพื่อเปิดศูนย์ปฏิบัติ การเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลบางละมุง โดยนำรถตรวจสอบเคลื่อนที่เร็วมาให้บริการ ซึ่งจะรองรับได้ประมาณวันละ 200 ราย ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จะได้มีการประชุมร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ทั่วเขตเมืองพัทยา ในวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่โรงแรมพัทยาพาร์ค โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธาน
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยหลายราย แต่เมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองก็มีมาตรการในการป้องกันที่เข้มงวดและจะไม่มีการขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้สามารถยืนยันความมั่นใจได้ว่าเมืองพัทยาจะปลอดจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในระยะ 4 สัปดาห์จากนี้ พร้อมกันนี้ยังจะได้ทำการแจ้งหนังสือชี้แจงและประชาสัมพันธ์ไปยังทางการไต้หวันและบริษัทนำเที่ยวต่างๆเพื่อชี้แจงสถานการณ์ไข้ หวัดใหญ่ 2009 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยา ในโอกาสต่อไป และยืนยันว่าสำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงอะไรและสามารถป้องกันหรือรักษาให้หายได้ในเวลาอันสั้น
**สถานบริการต้นเหตุปิดบริการ 7 วัน
แหล่งข่าวระดับสูงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในส่วนของสถานบันเทิงต้นเหตุไข้หวัด 2009 ดังกล่าวได้ปิดให้บริการแล้ว 7 วันโดยเป็นการปิดให้บริการเอง โดยจะให้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขเข้าไปแก้ไขการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่ามีการส่งข้อมูลผู้ติดเชื้อจากสถานพยาบาลรอบเขตเมืองพัทยาที่เข้าข่ายเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก 7 รายด้วยกัน
**กรุ๊ปทัวร์จากไต้หวันยกเลิกเข้าพัทยา
ด้านนายสุวัฒน์ แพภิรมณ์รัตน์ อุปนายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยว เมืองพัทยา เผยว่าในขณะนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการในเมืองพัทยา ยังไม่ได้มีการทำอะไรเลย ต้องรอให้ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกประชุม เพื่อวางแผนการดำเนินงานว่าพวกเราควรจะต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งทราบว่าทางจังหวัดจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ (12 มิ.ย.) ส่วนกรณีของนักท่องเที่ยวไต้หวันที่มีการติดเชื่อไข้หวัด 2009 หลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยานั้นขณะนี้กรุ๊ปทัวร์จากเกาะไต้หวันได้ยกเลิกการเดินทางพัทยาทั้งหมดแล้ว
**ท่องเที่ยวภูเก็ตยันไม่กระทบ
นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตกรณีที่สำนักข่าวซินหัวของฮ่องกงรายงานข่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง วัย 33 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต แต่เมื่อเดินทางกลับประเทศปรากฎว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า คิดว่าโดยภาพรวมแล้วคิดว่าไม่น่าที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตมากนัก ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวจะระบุว่าติดเชื้อภายหลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต เพราะทางประเทศไทยและ จ.ภูเก็ต ได้มีการมาตรการในการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งในส่วนของหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวได้ตื่นตัวในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งโรคดังกล่าวเป็นโรคที่สามารถรักษาหายได้ และที่สำคัญโรคดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยและ จ.ภูเก็ต แต่ขณะนี้ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างกรณีที่สหรัฐอเมริกาได้แพร่ระบาดครบทั้ง 50 รัฐแล้ว
"อยากจะให้ทุกคนตั้งสติไม่หวั่นวิตกกับข่าวที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะเป็นโรคที่รักษาหาย มียาพร้อมทุกโรงพยาบาล และเมื่อพบแหล่งที่มาของการติดเชื้อหน่วยงานทางสาธารณสุขก็จะเข้าไปสกรีนพื้นที่และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดที่สุดและที่ไม่น่าห่วงคือโรงแรมในภูเก็ตส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมที่เป็นในลักษณะรีสอร์ทมีพื้นที่ที่เป็นโอเพ่นแอร์มากกว่าพื้นที่ที่ติดแอร์ ที่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะห้องพักเท่านั้น โอกาสที่ติดเชื้อจากโรงแรมค่อนข้างน้อย"
นายสมบูรณ์กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตในขณะนี้ว่า ช่วงนี้ถือว่าค่อนข้างที่จะซบเซาอัตราเข้าพักโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30-35% เพราะช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.ถือเป็นช่วงโลว์ที่สุดของการท่องเที่ยวภูเก็ต เมื่อประกอบกับในปีนี้เกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้การท่องเที่ยวช่วงนี้ของภูเก็ตตกต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา แต่อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่ดีว่าในช่วงปลายปีนี้ซึ่งเป็นช่วงไฮชีชั่นการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว การเมืองภายในประเทศก็เริ่มที่จะนิ่ง
รวมทั้งสายการบินต่างๆ ที่ได้ยกเลิกบินเข้ามา จ.ภูเก็ตในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองได้เริ่มที่จะบินกลับเข้ามาภูเก็ตแล้ว เช่น สายการบินเชียงไฮแอร์ ที่จะบินเข้ามาในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ และสายการบินไชน่าอีสเทิร์น เป็นต้น รวมทั้งนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปจีน ซึ่งจุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาช่วงไฮชีชั่นปีนี้อาจจะตกลงจากปีที่แล้วบ้างรวมทั้งรายได้ที่จะเกิดขึ้นก็อาจจะลดลงบ้างเช่นกัน
***เข้มฉีดยาฆ่าเชื้อ-ติดตามอาการ
นพ.พงษ์สวัสดิ์ รัตนแสง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวกรณีมีข่าวนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงเดินทางมาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ช่วงวันที่ 4-8 มิ.ย.และกลับไปป่วยเป็นโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า หลังจากทราบรายงานข่าวได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการฉีดยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดโรงแรมที่พัก และสถานบันเทิงที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเข้าไปเที่ยวทันที พร้อมกับเฝ้าระวังและติดตามสอบสวนโรคอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่พบผู้มีอาการที่สงสัยเพิ่ม
**สธ.เตรียมหารือปรับแผนจากบีเป็นซี
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าประเทศไทยมีการระบาดในประเทศแล้ว แต่จะปรับระดับสถานการณ์การแพร่ระบาดจากระดับบี เป็นระดับซีหรือไม่ ต้องรอให้นักระบาดวิทยาประเมินสถานการณ์ซึ่งแนวโน้มน่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มมาตรการขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในพื้นที่ชลบุรี เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อป่วยก็ไม่พบแพทย์ ไม่แจ้งอาการป่วยให้แพทย์ทราบ ยืนยันว่า สธ.พร้อมที่จะรับผู้ป่วยไม่ได้มุ่งที่จะเข้าไปจับกุม จึงไม่อยากให้กลัวแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวง หรือหนีโรงพยาบาล
“จากการประเมินสถานการณ์ เริ่มมีการแพร่เชื้อในประเทศในหลายพื้นที่ คาดว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่อยากให้ประชาชนตกใจ เพราะข้อมูลทั้งในและต่างประเทศชี้ว่า โรคนี้ไม่รุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 90 มีอาการน้อยและหายเองได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันโรค เพื่อจำกัดการระบาดอยู่ในวงเล็กที่สุด ลดผลกระทบด้านต่างๆ ของประเทศ”นายวิทยา กล่าว
**”มาร์ค”ยันไข้หวัดยังไม่น่าวิตก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามสถานการณ์ไข้หวัด20009 ซึ่งแพร่ระบาดในประเทศไทย ว่า ขณะนี้ได้เร่งให้มีการตรวจสอบทั้งที่พัทยาและภูเก็ต การที่ทางการไต้หวันประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อจากการเดินทางมาเที่ยวสถาบันเทิงที่พัทยานั้น รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณะสุขได้ส่งตนไปตรวจสอบสถานบันเทิงดังกล่าว และได้ดูแลผู้ติดเชื้อและเร่งตรวจสอบคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ยังไม่มีรายใดที่มีอาการรุนแรง ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเพิ่มระดับการเฝ้าระวังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องเน้นการประชาสัมพันธ์ให้เข้มข้นขึ้น แต่ไม่มีอะไรน่าตื่นตระหนก ใครมีอาการอะไรก็ให้ความร่วมมือกับทางราชการ ในการที่จะมาตรวจรักษาก็ไม่น่าจะมีปัญหา
**ศธ.เรียกประชุมโรงเรียนทั่วประเทศ
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 13.30 น.ที่ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ โดยได้ทำหนังสือเชิญทุกโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนกวดวิชาที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รวมถึงมหาวิทยาลัยและอาชีวะทั้งหมด ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจ และซักซ้อมเพื่อป้องกันการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ให้ตื่นตระหนก เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ และไม่ได้ติดต่อกันง่ายๆ
“โรงเรียนถือเป็นแหล่งชุมชน มีการทำกิจกรรมร่วมกัน ขณะนี้ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะควบคุมกำกับสุขอนามัยในโรงเรียน เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจายเป็นวงกว้างต่อไป ซึ่งหากสธ.ประสานขอความร่วมมือมายังศธ.ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือทุกอย่าง”นายชินภัทรกล่าว
**เซ็นต์ฟรังฯ ผวาปิด 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ ได้มีประกาศหยุดเรียน เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะเด็กนักเรียนของเซนต์ฟรังฯ หลายคนมีญาติพี่น้องเรียนอยู่ใน ร.ร.เซนต์คาเบรียล โดยมีกำหนดปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 12-18 มิ.ย.และเปิดทำการสอนปกติในวันที่ 19 มิ.ย.เช่นเดียวกับ ร.ร.เซนต์คาเบรียล
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนเพิ่ม 2 แห่ง คือ โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์และโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี ซึ่งในส่วนของโรงเรียนเซนต์ฟรังฯ นั้นยังไม่มีเด็กที่มีอาการป่วย แต่การที่หยุดโรงเรียนเป็นดุลยพินิจของโรงเรียนแต่ละแห่ง เนื่องจากสธ.ได้แจ้งไปยังโรงเรียนทุกแห่งแล้ว หากพบสิ่งผิดปกติมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ให้รายงานมายังสธ. เพื่อเฝ้าระวังและส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วติดตามสืบสวนที่มาของโรค เหมือนกับที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลแจ้งมายังสธ.ก่อนหน้านี้
“ส่วนที่โรงเรียนอนุบาลปทุมธานีซึ่งมีการประสานมายังสธ.ว่ามีเด็กนักเรียนกว่า 30 คนมีอาการป่วยไข้ขึ้นสูง แพทย์ได้ตรวจอาการและให้กลับบ้านแล้วเหลือเด็กที่ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปทุมธานีเพียง 1 ราย นอกนั้นแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วได้ลงไปตรวจสอบในพื้นที่เพื่อหาที่มาของโรคทั้งเด็กและผู้ปกครองว่าได้มีการเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ พร้อมกับได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของเด็กที่มีอาการรุนแรงบางส่วนให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจวิเคราะห์แล้วคาดว่าจะทราบผลในวันนี้”นายมานิตกล่าว.
