ASTVผู้จัดการรายวัน-“อุตสาหกรรม”ยกเลิกประกาศโรงงานที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง เพื่อให้สอดคล้องกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ก่อนจัดทำแนวทางให้ชัดเจนใหม่
นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรมได้ลงนามยกเลิกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง โรงงานที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ออกโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรมว.อุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2551 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 67 แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะในทางปฏิบัติไม่มีหลักเกณฑ์ที่จะวัดระดับความรุนแรงของปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ จึงต้องเลิกไปก่อน และจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดระดับความรุนแรง และมีหลักเกณฑ์ในการวัดระดับความรุนแรงให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีประกาศฉบับใหม่ออกมา
นายโกศล ใจรังษี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กำลังรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ขอให้ตีความว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาโครงการเป็นการชั่วคราวก่อนได้หรือไม่ หรือจะให้ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นผู้ดูแลชั่วคราว เพื่อให้การลงทุนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะประกาศฉบับนี้ ทำให้โครงการที่ต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เข้าข่ายทั้งหมด
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับการที่กระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกประกาศดังกล่าวไปก่อน เนื่องจากมีผลกระทบต่อการลงทุนในภาพรวม เพราะประกาศดังกล่าวไม่มีความชัดเจนในเรื่องของระดับความรุนแรง เนื่องจากกำหนดไว้ค่อนข้างกว้าง และไม่มีเกณฑ์ใช้วัดว่าอะไรจะเกิดผลกระทบรุนแรง
นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรมได้ลงนามยกเลิกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง โรงงานที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ ที่ออกโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรมว.อุตสาหกรรมเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2551 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 67 แห่งกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 เพราะในทางปฏิบัติไม่มีหลักเกณฑ์ที่จะวัดระดับความรุนแรงของปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ จึงต้องเลิกไปก่อน และจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดระดับความรุนแรง และมีหลักเกณฑ์ในการวัดระดับความรุนแรงให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีประกาศฉบับใหม่ออกมา
นายโกศล ใจรังษี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กำลังรอคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ขอให้ตีความว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาโครงการเป็นการชั่วคราวก่อนได้หรือไม่ หรือจะให้ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นผู้ดูแลชั่วคราว เพื่อให้การลงทุนสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะประกาศฉบับนี้ ทำให้โครงการที่ต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เข้าข่ายทั้งหมด
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับการที่กระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกประกาศดังกล่าวไปก่อน เนื่องจากมีผลกระทบต่อการลงทุนในภาพรวม เพราะประกาศดังกล่าวไม่มีความชัดเจนในเรื่องของระดับความรุนแรง เนื่องจากกำหนดไว้ค่อนข้างกว้าง และไม่มีเกณฑ์ใช้วัดว่าอะไรจะเกิดผลกระทบรุนแรง