xs
xsm
sm
md
lg

เผยร่างแผนพัฒนาศก.ฯฉบับใหม่ มุ่งเน้นทุกส่วนสู่การเพิ่มผลิตภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นายกรัฐมนตรีเผยร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างประเทศให้เข้มแข็งด้วยการผลักดันทุกภาคส่วนมุ่งเน้นผลิตภาพเน้นนวตกรรมและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานเปิดงาน  “Productivity Expo 2009 : มหกรรมความรู้  ความช่วยเหลือ  ธุรกิจไทยแข็งแกร่ง”   จัดโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ  พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ  เรื่อง  “Productivity :  Tomorrow’ s  Hope” วานนี้(10มิ.ย.) ว่า เดือนมิ.ย.รัฐบาลจะมีการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ที่จะมีการมุ่งเน้นนวตกรรมและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะมุ่งเน้นแก้จุดอ่อนโครงสร้างพื้นฐานทั้งกายภาพ คน ระบบธรรมาภิบาลและการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะการมุ่งเน้นให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพในระบบเศรษฐกิจ

“ ไทยอาศัยความสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติมาค่อนข้างนาน อย่างการท่องเที่ยวก็พบว่าธรรมชาติให้มายังไม่เพียงพอเราต้องบริหารจัดการให้ดีขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจของไทยสามารถฟื้นตัวไปตามเศรษฐกิจโลกและรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้  ดังนั้นการเติบโตของประเทศไทยจากนี้ไปจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือผลิตภาพ ไม่ใช่อาศัยทรัพยากรของประเทศที่นับวันจะน้อยลง “นายกรัฐมนตรีกล่าว
 
สำหรับมาตรการดูแลเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งระยะสั้น กลาง และยาวนั้น  ต้องเชื่อมโยงกันและยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้คิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น  ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่  3  นั้น  จะดำเนินการพร้อมกับการปรับโครงสร้างของประเทศให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น  โดยจะเน้นผลิตภาพและความยั่งยืน  ซึ่งเกี่ยวข้องกับทุกภาคส่วน  

โดยไทยเป็นผู้นำในการผลิตมันสำปะหลัง  อ้อย  และปาล์มน้ำมัน  แต่เมื่อพิจารณาผลผลิตต่อไร่แล้วยังต่ำ  จึงต้องพัฒนาเรื่องผลิตภาพ  เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการที่จะต้องมุ่งเน้นเรื่องนี้เช่นกัน   โดยดำเนินไปพร้อมกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย ยังขาดแคลนงบประมาณช่วยเหลือ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล จึงต้องการให้ภาครัฐจัดสรรอย่างเร่งด่วน เพราะการเพิ่มผลิตภาพเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการใช้ทรัพยากรของประเทศกำลังจะหมดลง

“เชื่อว่าไตรมาส 3 และ 4 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จาก พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท   และทั้งปีจะติดลบไม่เกิน  3% “นายสันติกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น