xs
xsm
sm
md
lg

‘กลาง-ขวา’กวาดที่นั่งในสภายุโรป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปเมื่อวันอาทิตย์ (7) ซึ่งมีผู้ออกมาใช้สิทธิต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ พวกหัวอนุรักษนิยมกลาง-ขวาคว้าชัยชนะเด็ดขาดโดยกระหน่ำพวกสังคมนิยมกลาง-ซ้ายยับเยิน ขณะที่พวกขวาจัดก็ได้เสียงเพิ่มขึ้น
การเลือกตั้งคราวนี้เป็นที่ทราบผลค่อนข้างชัดเจนวานนี้(8) เป็นหลักหมายแสดงถึงความปราชัยอย่างหนักหน่วงของพวกกลาง-ซ้าย ซึ่งประสบความล้มเหลวไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการที่ประชาชนบังเกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันรุนแรง ส่วนฝ่ายขวาจัดและซ้ายจัด รวมทั้งพวกต่อต้านผู้อพยพต่างชาติและพวกที่ไม่มั่นใจกับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ต่างก็ได้ที่นั่งเพิ่มในสภายุโรปซึ่งจะมีวาระนานห้าปี
พวกพรรคการเมืองแนวกลาง-ซ้ายที่ครองอำนาจอยู่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สเปน หรือโปรตุเกส ล้วนแต่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้ง ในขณะที่พวกกลาง-ซ้ายซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอยู่ในเยอรมนีและฝรั่งเศส ก็เสียที่นั่งอย่างหนักหน่วงเช่นกัน
กลุ่มกลาง-ขวาที่เรียกกันรวมๆ ว่าเป็น พรรคประชาชนยุโรป (European People's Party) นั้น สามารถครองที่นั่ง 263 ที่นั่ง และยังคงเป็นพวกที่มีที่นั่งสูงสุดในสภายุโรปซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 736 คน ในขณะที่พวกกลาง-ซ้ายซึ่งเรียกรวมๆ เป็นพวกสังคมนิยมได้ที่นั่งไป 163 ที่นั่ง ลดลงจากเดิมซึ่งเคยมี 215 ที่นั่ง ทั้งนี้ตามผลการประเมินอย่างเป็นทางการ
สำหรับพวกลิเบอรัล เดโมแครต ครองที่นั่งสูงสุดเป็นลำดับที่ 3 โดยได้ 80 ที่นั่ง ซึ่งยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าสภาชุดนี้จะเอนเอียงไปทางขวา
ส่วนพวกกรีนได้มา 52 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งเคยมี 43 ที่นั่ง
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพรรคอีพีพีและพรรคสังคมนิยมยุโรปจะทำงานประสานกันต่อไปแค่ไหน โดยนักวิเคราะห์มองว่า จากความพ่ายแพ้ย่อยยับเช่นนี้ พวกหัวสังคมนิยมน่าจะหันมารักษาจุดยืนความเป็นซ้ายของตนให้เหนียวแน่นมากขึ้น เปิดทางให้พวกเสรีนิยมและกลุ่มอื่นๆ เข้ามาร่วมงานกับพวกอนุรักษนิยมแทน
ในส่วนของพรรคขวาจัด พรรคชาตินิยมอังกฤษ ซึ่งเป็นพวกขวาจัด สามารถชิงที่นั่งเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งครั้งนี้โดยได้ 2 ที่นั่ง ขณะที่พรรคเพื่อเสรีภาพของเกียต วิลเดอร์ส์ ซึ่งเป็นนักกฎหมายชาวดัตช์ซึ่งต่อต้านอิสลาม ได้คะแนน 17 เปอร์เซ็นต์โดยมาเป็นอันดับสองในประเทศนั้น
ทั้งนี้การเลือกตั้งสภายุโรปนั้น แต่ละชาติสมาชิกจะจัดการเลือกตั้งภายในประเทศตน แล้วผู้ที่ได้รับเลือกจากประเทศต่างๆ ก็จะมาจับกลุ่มกันในสภาตามความโน้มเอียงด้านนโยบายรวม 7 กลุ่ม เช่น อีพีพี, สังคมนิยม, กรีน และเมื่อบวกกับพวกที่ไม่เข้ากับกลุ่มใดเลย ก็กลายเป็น 8 กลุ่ม
สำหรับการเลือกตั้งสภายุโรปครั้งนี้มีผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งหมดราว 388 ล้านคนจากชาติสมาชิกสหภาพยุโรปทั้งหมด 27 ประเทศ โดยมีการจัดเลือกตั้งทั้งสิ้นสี่วัน และปรากฏว่ามีผู้มาใช้สิทธิ 43.09 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 45.4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2004
ในส่วนของพรรครัฐบาลในชาติอียูใหญ่ๆ พรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ แห่งอังกฤษ พ่ายแพ้การเลือกตั้งและพวกขวาจัดกลับได้ที่นั่งขึ้นมา จนทำให้บราวน์ต้องเผชิญกับปัญหาภาวะผู้นำอย่างหนักในขณะนี้ ส่วนที่เยอรมนี พรรคแนวทางอนุรักษนิยมของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล คว้าชัยชนะ ทำให้คู่แข่งของเธอซึ่งเป็นพวกกลาง-ซ้ายตกที่นั่งลำบากในการเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมนีที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้
พรรคยูเอ็มพีของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โคซี ซึ่งเป็นพวกนิยมขวา ได้คะแนนเสียงราว 28 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งห่างจากคู่แข่งพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้านที่ได้เพียง 16 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นสัดส่วนพอๆ กับของพรรคกรีน
ส่วนพรรคของนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี แห่งอิตาลี ที่กำลังมีเรื่องอื้อฉาวคว้าชัยชนะมาได้ด้วยคะแนน 34.7 เปอร์เซ็นต์หลังจากนับคะแนนไปราวสามในสี่ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ที่ราว 40 เปอร์เซ็นต์
กำลังโหลดความคิดเห็น