หลังจากหลงผิดกับการติดยาและใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนมา 5 ปี ตอนนี้ ทีนา วิลเลียมส์บอกว่าเธอกำลังวางแผนจะกลับไปเรียนต่อและหวังว่าจะได้งานในบริการชุมชน
โปรแกรมที่ช่วยให้วิลเลียมส์ได้มีชีวิตใหม่คือ แคปิตอล เพอร์สูท ไดรฟ์ หรือโครงการรณรงค์ขอรับบริจาคปีละหนึ่งวัน โดยสิ่งของบริจาคคือชุดทำงานจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ เจ้าหน้าที่รัฐสภา ล็อบบี้ยิสต์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ
ด้วยสิ่งเหล่านี้และของบริจาคอื่นๆ วิลเลียมส์ วัย 46 ปี จึงมีสูทใส่ไปสอบสัมภาษณ์งาน
“เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะช่วยให้ฉันนับถือและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองเตรียมตัวมาดีขึ้นที่จะออกไปหางานทำ ไม่รู้สึกแปลกแยกเหมือนเก่า ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าฉันเป็นคนจรจัดอีกต่อไปแล้ว” วิลเลียมส์ที่หันหลังให้การนอนข้างถนนและเข้าสู่โครงการบำบัดที่รวมถึงการเลิกยามาเกือบปีบอก
เดฟ เวนโฮลด์ ประธานอเมริกัน ลีก ออฟ ล็อบบี้ยิสต์ ผู้ริเริ่มโครงการนี้ เล่าว่าเขาสามารถรวบรวมของบริจาคได้ 5,500 ชิ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (2) รวมของบริจาคทั้งหมดตลอดระยะเวลาหกปีได้กว่า 50,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์ และเสื้อผ้าเหล่านั้นไปถึงมือผู้รับในบ่ายวันเดียวกัน
ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่รัฐสภาต่อแถวกันยาวเหยียด แต่ละคนมีกระเป๋าหรือถุงกระดาษบรรจุสูท กระเป๋าถือ รองเท้า เน็กไท และเครื่องประดับ
ในเมืองของคนใส่สูท ผู้บริจาคจากบริษัทล็อบบี้ทรงอิทธิพลและสมาชิกรัฐสภาในวอชิงตันไม่ลังเลที่จะให้ สิ่งที่บริจาครวมถึงเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์ดัง ทั้งอาร์มานี, กุชชี, ชาแนล มากันพร้อมเพรียง
“เมื่อคุณให้สูทแก่ใครสักคน นั่นหมายถึงคุณให้โอกาสที่สองแก่เขาและให้ความหวัง และในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เราเผชิญอยู่ขณะนี้ นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดเท่าที่คุณสามารถให้ได้ เพราะถ้าเราช่วยให้ใครสักคนได้งานทำ นั่นหมายถึงเวลาของเราในวอชิงตันมีค่ามีความหมายอย่างแท้จริง” เวนโฮลด์บอก
เขาเสริมว่า บ่อยครั้งการขาดแคลนเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการสัมภาษณ์และทำงาน บ่อนทำลายความพยายามในการหางานทำของคนจนและหนุ่มสาวที่เสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและยาเสพติด
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เป็นคนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้
“ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยขณะนี้ ตัวอย่างของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการให้โอกาสด้วยการค้นหาเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้ามาบริจาคทำให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน” เปโลซีที่ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภาฯ บริจาคเสื้อผ้าบอก
“เสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคมาเป็นเสื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับสิ่งเหล่านี้ การแต่งตัวดีทำให้เราเชื่อมั่นในตัวเอง และรู้ว่าเราสามารถทำสิ่งต่างๆ สำเร็จ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ” เรอเน่ เอนวิกวี ที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากอยู่ในสภาพคนไร้บ้านมา 5 ปี บอก
เสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคจะถูกแจกจ่ายไปยังองค์กรท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนการหางานแก่ผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาส เช่น นิว เอนเดียเวอร์ส บาย วีเมน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือผู้หญิงอย่างวิลเลียมส์และเอ็นวิกวีให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
แวนดา สเตปโท กรรมการบริหารเอนเดียเวอร์ส ชี้ว่าโครงการบริจาคนี้จะช่วยให้คนได้หลุดพ้นจากการใช้ชีวิตข้างถนน ด้วยการทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดีกับตัวเอง รู้ว่าตัวเองสามารถไปสอบสัมภาษณ์หรือเข้าโครงการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างมั่นใจ
“โดยเฉพาะผู้หญิง เมื่อคุณดูดี คุณจะรู้สึกดี และนั่นช่วยให้คุณมั่นใจและทำได้ดีขึ้นในการออกเดินทางแสวงหาความฝัน”
โปรแกรมที่ช่วยให้วิลเลียมส์ได้มีชีวิตใหม่คือ แคปิตอล เพอร์สูท ไดรฟ์ หรือโครงการรณรงค์ขอรับบริจาคปีละหนึ่งวัน โดยสิ่งของบริจาคคือชุดทำงานจากสมาชิกสภานิติบัญญัติ เจ้าหน้าที่รัฐสภา ล็อบบี้ยิสต์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ
ด้วยสิ่งเหล่านี้และของบริจาคอื่นๆ วิลเลียมส์ วัย 46 ปี จึงมีสูทใส่ไปสอบสัมภาษณ์งาน
“เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะช่วยให้ฉันนับถือและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น รู้สึกว่าตัวเองเตรียมตัวมาดีขึ้นที่จะออกไปหางานทำ ไม่รู้สึกแปลกแยกเหมือนเก่า ตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าฉันเป็นคนจรจัดอีกต่อไปแล้ว” วิลเลียมส์ที่หันหลังให้การนอนข้างถนนและเข้าสู่โครงการบำบัดที่รวมถึงการเลิกยามาเกือบปีบอก
เดฟ เวนโฮลด์ ประธานอเมริกัน ลีก ออฟ ล็อบบี้ยิสต์ ผู้ริเริ่มโครงการนี้ เล่าว่าเขาสามารถรวบรวมของบริจาคได้ 5,500 ชิ้นเมื่อวันอังคารที่แล้ว (2) รวมของบริจาคทั้งหมดตลอดระยะเวลาหกปีได้กว่า 50,000 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์ และเสื้อผ้าเหล่านั้นไปถึงมือผู้รับในบ่ายวันเดียวกัน
ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่รัฐสภาต่อแถวกันยาวเหยียด แต่ละคนมีกระเป๋าหรือถุงกระดาษบรรจุสูท กระเป๋าถือ รองเท้า เน็กไท และเครื่องประดับ
ในเมืองของคนใส่สูท ผู้บริจาคจากบริษัทล็อบบี้ทรงอิทธิพลและสมาชิกรัฐสภาในวอชิงตันไม่ลังเลที่จะให้ สิ่งที่บริจาครวมถึงเสื้อผ้าจากดีไซเนอร์ดัง ทั้งอาร์มานี, กุชชี, ชาแนล มากันพร้อมเพรียง
“เมื่อคุณให้สูทแก่ใครสักคน นั่นหมายถึงคุณให้โอกาสที่สองแก่เขาและให้ความหวัง และในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เราเผชิญอยู่ขณะนี้ นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดเท่าที่คุณสามารถให้ได้ เพราะถ้าเราช่วยให้ใครสักคนได้งานทำ นั่นหมายถึงเวลาของเราในวอชิงตันมีค่ามีความหมายอย่างแท้จริง” เวนโฮลด์บอก
เขาเสริมว่า บ่อยครั้งการขาดแคลนเสื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการสัมภาษณ์และทำงาน บ่อนทำลายความพยายามในการหางานทำของคนจนและหนุ่มสาวที่เสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและยาเสพติด
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เป็นคนหนึ่งที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้
“ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยขณะนี้ ตัวอย่างของการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการให้โอกาสด้วยการค้นหาเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้ามาบริจาคทำให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจน” เปโลซีที่ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกสภาฯ บริจาคเสื้อผ้าบอก
“เสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคมาเป็นเสื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับสิ่งเหล่านี้ การแต่งตัวดีทำให้เราเชื่อมั่นในตัวเอง และรู้ว่าเราสามารถทำสิ่งต่างๆ สำเร็จ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ” เรอเน่ เอนวิกวี ที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูเมื่อเดือนมีนาคม หลังจากอยู่ในสภาพคนไร้บ้านมา 5 ปี บอก
เสื้อผ้าที่ได้รับบริจาคจะถูกแจกจ่ายไปยังองค์กรท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุนการหางานแก่ผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาส เช่น นิว เอนเดียเวอร์ส บาย วีเมน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือผู้หญิงอย่างวิลเลียมส์และเอ็นวิกวีให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
แวนดา สเตปโท กรรมการบริหารเอนเดียเวอร์ส ชี้ว่าโครงการบริจาคนี้จะช่วยให้คนได้หลุดพ้นจากการใช้ชีวิตข้างถนน ด้วยการทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกดีกับตัวเอง รู้ว่าตัวเองสามารถไปสอบสัมภาษณ์หรือเข้าโครงการฝึกอบรมวิชาชีพอย่างมั่นใจ
“โดยเฉพาะผู้หญิง เมื่อคุณดูดี คุณจะรู้สึกดี และนั่นช่วยให้คุณมั่นใจและทำได้ดีขึ้นในการออกเดินทางแสวงหาความฝัน”
