รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวแทนชาวบ้านจาก จ.ปราจีนบุรี กว่า 30 คนได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการชุมชนพอเพียง ผ่านนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงยกระดับชุมชน ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ให้ตรวจสอบและเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องกรณีมีผู้อ้างชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้ประธานชุมชน-ผู้นำชุมชนเซ็นต์ชื่อเบิกเงินที่ธนาคารออมสิน หมู่บ้านขนาดเล็ก งบประมาณแห่งละ 200,000 บาท โดยกล่าวอ้างเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดหยอดเหรียญ ในโครงการพลังงานทดแทนนี้ เป็นของฟรีมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มาหาเสียง แต่หลังชาวบ้านตรวจสอบเครื่องกรองน้ำในโครงการพลังงานทดแทนนี้ถูกนำมาสวมสิทธิ์ แทนสิ่งที่ชาวบ้านประชาคมไปแล้ว
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านอ้างว่า หลังจากราษฎรในหมู่บ้านได้จัดทำโครงการชุมชนพอเพียง หรือ เอสเอ็มแอล เดิม เสนอโครงการที่ประชาชนทำประชาคมไว้ ได้แก่การปลูกพืชสวนครัว เลี้ยงหมู เพาะเห็ด แต่ต่อมาได้ถูกเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เอาเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดหยอดเหรียญ ในโครงการพลังงานทดแทน มาสวมแทนให้ รวมทั้งหมด 8 ชุมชน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นชาวบ้านเกือบ 300 คน ได้บุกยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีมาแล้ว
แหล่งข่าวจากกองทุนฯ ดังกล่าว เปิดเผยว่า เนื่องจากชาวบ้านใน 8 ชุมชน เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีการจัดทำโครงการชุมชนพอเพียง เพื่อนำงบประมาณเอสเอ็มแอล ของรัฐบาลมากระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนเดือน เม.ย.52 ที่ผ่าน งบประมาณชุมชนละ 200,000 - 350,000บาท สำหรับชุมชนขนาดเล็ก-ใหญ่ ตามจำนวนประชากร โดยได้ทำประชาคมของบประมาณจัดซื้อเมล็ดพืชผักสวนครัว เลี้ยงหมู และเพาะเห็ด ส่วนหมู่อื่นก็แล้วแต่โครงการที่ประชาคม
แต่หลังการทำประชาคม ได้มีบุคคลในเทศบาลตำบลเมืองเก่า นำบุคคลที่อ้างว่าเป็นคนในสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เอาโครงการตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ของกระทรวงพลังงานมาให้ฟรี จากนั้นได้ให้ประธานชุมชนไปเซ็นต์ชื่อที่ธนาคารออมสิน สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และได้มีการนำเครื่องกรองน้ำพลังแสงอาทิตย์ ชนิดหยอดเหรียญ มาติดตั้งในแต่ละชุมชน
เมื่อชาวบ้านไปสอบถามที่ธนาคารออมสิน ถึงโครงการชุมชนพอเพียงได้รับคำตอบว่า มีการนำงบประมาณที่ชาวบ้านได้ทำประชาคมดังกล่าวไปแล้วทั้งหมด โดยคาดว่าโครงการของชาวบ้านในงบกระตุ้นเศรษฐกิจเอสเอ็มแอล.นี้ ถูกสวมสิทธิ์ไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมามีการลงโฆษณาในหลายเว็บไซด์ เกี่ยวกับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่ต้องการผู้เสนอราคาตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตามโครงการชุมชนพอเพียง ในระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลายพื้นที่ โดยให้ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเสนอราคาตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญได้ในพื้นที่นั้น ๆ
ทั้งนี้พบว่า ตู้น้ำ หรือตู้น้ำหยอดเหรียญที่ อบต.หลายพื้นที่ ในจ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน อุดรดิตถ์ โดยเข้าไปตามช่องทางโครงการชุมชนพอเพียง นอกจากตู้น้ำหยอดเหรียญแล้ว ยังพบว่า มีความพยายามที่จะให้ อบต.บางแห่งนำตู้เติมเงินมือถือ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มาเข้าโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วย โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ที่จะเข้าสู่โครงการ ชุมชนพอเพียง มีการโฆษณาในราคาตู้ละ36,000 บาทเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีแก๊งมิจฉาชีพนำชื่อ “โครงการชุมชนพอเพียง” ไปใช้หลอกลวงชาวบ้าน โดยให้นำเอกสารสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน เสียค่าสมัครรายละ 1,500-2,000 บาท เมื่อสมัครแล้วจะได้กู้เงินคนละ 50,000-1 ล้านบาท แต่ต้องหาสมาชิกเพิ่มอีกรายละ 10 คน และยังบังคับขายเสื้อตัวละ 200 บาท เก็บเงินค่าอบรมอีก 500-1,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่า มีการหลอกลวงชาวบ้านหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.สุรินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา และในกทม.หลายเขต เช่น หนองแขม บางแค ลาดกระบัง วังทองหลาง และท่าพระ ฯลฯ
ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านอ้างว่า หลังจากราษฎรในหมู่บ้านได้จัดทำโครงการชุมชนพอเพียง หรือ เอสเอ็มแอล เดิม เสนอโครงการที่ประชาชนทำประชาคมไว้ ได้แก่การปลูกพืชสวนครัว เลี้ยงหมู เพาะเห็ด แต่ต่อมาได้ถูกเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เอาเครื่องกรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดหยอดเหรียญ ในโครงการพลังงานทดแทน มาสวมแทนให้ รวมทั้งหมด 8 ชุมชน
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นชาวบ้านเกือบ 300 คน ได้บุกยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีมาแล้ว
แหล่งข่าวจากกองทุนฯ ดังกล่าว เปิดเผยว่า เนื่องจากชาวบ้านใน 8 ชุมชน เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มีการจัดทำโครงการชุมชนพอเพียง เพื่อนำงบประมาณเอสเอ็มแอล ของรัฐบาลมากระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนเดือน เม.ย.52 ที่ผ่าน งบประมาณชุมชนละ 200,000 - 350,000บาท สำหรับชุมชนขนาดเล็ก-ใหญ่ ตามจำนวนประชากร โดยได้ทำประชาคมของบประมาณจัดซื้อเมล็ดพืชผักสวนครัว เลี้ยงหมู และเพาะเห็ด ส่วนหมู่อื่นก็แล้วแต่โครงการที่ประชาคม
แต่หลังการทำประชาคม ได้มีบุคคลในเทศบาลตำบลเมืองเก่า นำบุคคลที่อ้างว่าเป็นคนในสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เอาโครงการตู้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ของกระทรวงพลังงานมาให้ฟรี จากนั้นได้ให้ประธานชุมชนไปเซ็นต์ชื่อที่ธนาคารออมสิน สาขากบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และได้มีการนำเครื่องกรองน้ำพลังแสงอาทิตย์ ชนิดหยอดเหรียญ มาติดตั้งในแต่ละชุมชน
เมื่อชาวบ้านไปสอบถามที่ธนาคารออมสิน ถึงโครงการชุมชนพอเพียงได้รับคำตอบว่า มีการนำงบประมาณที่ชาวบ้านได้ทำประชาคมดังกล่าวไปแล้วทั้งหมด โดยคาดว่าโครงการของชาวบ้านในงบกระตุ้นเศรษฐกิจเอสเอ็มแอล.นี้ ถูกสวมสิทธิ์ไปแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมามีการลงโฆษณาในหลายเว็บไซด์ เกี่ยวกับโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่ต้องการผู้เสนอราคาตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตามโครงการชุมชนพอเพียง ในระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หลายพื้นที่ โดยให้ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเสนอราคาตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญได้ในพื้นที่นั้น ๆ
ทั้งนี้พบว่า ตู้น้ำ หรือตู้น้ำหยอดเหรียญที่ อบต.หลายพื้นที่ ในจ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน อุดรดิตถ์ โดยเข้าไปตามช่องทางโครงการชุมชนพอเพียง นอกจากตู้น้ำหยอดเหรียญแล้ว ยังพบว่า มีความพยายามที่จะให้ อบต.บางแห่งนำตู้เติมเงินมือถือ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ มาเข้าโครงการเศรษฐกิจพอเพียงด้วย โดยเฉพาะปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ ที่จะเข้าสู่โครงการ ชุมชนพอเพียง มีการโฆษณาในราคาตู้ละ36,000 บาทเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านั้นมีแก๊งมิจฉาชีพนำชื่อ “โครงการชุมชนพอเพียง” ไปใช้หลอกลวงชาวบ้าน โดยให้นำเอกสารสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน เสียค่าสมัครรายละ 1,500-2,000 บาท เมื่อสมัครแล้วจะได้กู้เงินคนละ 50,000-1 ล้านบาท แต่ต้องหาสมาชิกเพิ่มอีกรายละ 10 คน และยังบังคับขายเสื้อตัวละ 200 บาท เก็บเงินค่าอบรมอีก 500-1,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่า มีการหลอกลวงชาวบ้านหลายพื้นที่ ทั้งใน จ.สุรินทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา และในกทม.หลายเขต เช่น หนองแขม บางแค ลาดกระบัง วังทองหลาง และท่าพระ ฯลฯ
