ผู้เชี่ยวชาญจีนนำทีมสัตวแพทย์ตรวจสุขภาพลูกแพนด้า ที่มีอายุย่างเข้าสู่วันที่ 9 พบสุขภาพและร่างกายมีพัฒนาการดีเยี่ยม น้ำหนักตัวเพิ่ม และขนาดตัวยาวขึ้น ขณะเดียวกัน เร่งทดสอบระบบผลิตหิมะเทียมภายในส่วนจัดแสดงเพิ่มเติม ที่จำลองสภาพที่อยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้า คาดเสร็จสมบูรณ์กลางเดือนนี้
วานนี้ (4 มิ.ย.52) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญการดูแลหมีแพนด้าจากประเทศจีน พร้อมทีมงานสัตวแพทย์โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ได้นำลูกหมีแพนด้า ซึ่งมีอายุย่างเข้าสู่วันที่ 9 เมื่อวานนี้ แยกออกจากแม่หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย" มาตรวจสุขภาพ โดยพบว่า ลูกหมีแพนด้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี และมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับ สามารถขยับร่างกายได้ดี ขนบริเวณใบหู รอบดวงตาม หน้าอก และแขนขาทั้ง 4 ข้าง เริ่มมีสีดำชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่น้ำหนักของลูกหมีแพนด้านั้น วานนี้ (4 มิ.ย.) ชั่งได้ 325 กรัม เพิ่มขึ้นจากที่ทำการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน 35 กรัม และมีความยาวตั้งแต่ปลายจมูกถึงโคนหาง 18.5 เซนติเมตร และความยาวหาง 6 เซนติเมตร ซึ่งพัฒนาการต่างๆ นั้น ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อย โดยช่วงนี้ จะมีการตรวจสุขภาพลูกหมีแพนด้าวันเว้นวัน แต่หลังจากที่ลูกหมีแพนด้ามีอายุครบ 10 วันจะมีการปรับแผนอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสุขภาพของ "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้า ในเวลานี้พบว่า สภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และสามารถกินอาหารได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการกินใบไผ่ ที่เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.52 สามารถกินได้กว่า 1 กิโลกรัมและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี เห็นได้จากการสังเกตอุจจาระที่ขับถ่ายออกมาซึ่งบ่งบอกถึงการทำงานของการย่อยอาหาร
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังได้ทำการทดลองเดินเครื่องผลิตหิมะภายในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติม หรือ "Panda Snow Dome" ที่จะมีการจำลองสภาพความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้าในประเทศจีน ด้วยการสร้างหิมะเทียม และจะมีการนำหมีแพนด้าออกมาจัดแสดงในช่วงฤดูหนาว ส่วนช่วงที่เหลือของปีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการและทำกิจกรรมได้ ซึ่งส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า เพิ่มเติมมูลค่า 60 ล้านบาท แห่งนี้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในช่วงกลางเดือนนี้ แต่กว่าจะนำหมีแพนด้าเข้าไปจัดแสดงได้คงต้องรอถึงช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวถึงการเจรจากับจีนเพื่อขอขยายเวลาให้หมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทย และการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาหมีแพนด้าร่วมไทย-จีนว่า ขณะนี้กำลังมีการประสานกับทางสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้าพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าวในเบื้องต้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไทย จะได้เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาในเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงปลายเดือน มิ.ย.52 นี้ โดยท่าทีของทางจีนในเบื้องต้นก็ยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
สำหรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาหมีแพนด้าร่วมไทย-จีน นั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ตามปกติในประเทศจีนมีศูนย์ในลักษณะดังกล่าวกระจายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่ในการดูแลและวิจัยหมีแพนด้าเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของไทยนั้น หากมีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวก็จะทำงานประสานสอดคล้องกับศูนย์ที่มีอยู่ของจีน ทั้งนี้โดยศักยภาพที่มีอยู่ของโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย มั่นใจว่าจะสามารถยกระดับสู่การเป็นศูนย์ได้ และการจัดตั้งศูนย์นี้ก็จะทำให้หมีแพนด้าสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้เพื่อทำการศึกษาวิจัยในระยะยาว.
วานนี้ (4 มิ.ย.52) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญการดูแลหมีแพนด้าจากประเทศจีน พร้อมทีมงานสัตวแพทย์โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ได้นำลูกหมีแพนด้า ซึ่งมีอายุย่างเข้าสู่วันที่ 9 เมื่อวานนี้ แยกออกจากแม่หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย" มาตรวจสุขภาพ โดยพบว่า ลูกหมีแพนด้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี และมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับ สามารถขยับร่างกายได้ดี ขนบริเวณใบหู รอบดวงตาม หน้าอก และแขนขาทั้ง 4 ข้าง เริ่มมีสีดำชัดเจนมากขึ้น
ขณะที่น้ำหนักของลูกหมีแพนด้านั้น วานนี้ (4 มิ.ย.) ชั่งได้ 325 กรัม เพิ่มขึ้นจากที่ทำการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน 35 กรัม และมีความยาวตั้งแต่ปลายจมูกถึงโคนหาง 18.5 เซนติเมตร และความยาวหาง 6 เซนติเมตร ซึ่งพัฒนาการต่างๆ นั้น ถือว่าสูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อย โดยช่วงนี้ จะมีการตรวจสุขภาพลูกหมีแพนด้าวันเว้นวัน แต่หลังจากที่ลูกหมีแพนด้ามีอายุครบ 10 วันจะมีการปรับแผนอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนสุขภาพของ "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้า ในเวลานี้พบว่า สภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และสามารถกินอาหารได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการกินใบไผ่ ที่เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.52 สามารถกินได้กว่า 1 กิโลกรัมและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี เห็นได้จากการสังเกตอุจจาระที่ขับถ่ายออกมาซึ่งบ่งบอกถึงการทำงานของการย่อยอาหาร
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังได้ทำการทดลองเดินเครื่องผลิตหิมะภายในส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าเพิ่มเติม หรือ "Panda Snow Dome" ที่จะมีการจำลองสภาพความเป็นอยู่ตามธรรมชาติของหมีแพนด้าในประเทศจีน ด้วยการสร้างหิมะเทียม และจะมีการนำหมีแพนด้าออกมาจัดแสดงในช่วงฤดูหนาว ส่วนช่วงที่เหลือของปีจะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปใช้บริการและทำกิจกรรมได้ ซึ่งส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า เพิ่มเติมมูลค่า 60 ล้านบาท แห่งนี้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในช่วงกลางเดือนนี้ แต่กว่าจะนำหมีแพนด้าเข้าไปจัดแสดงได้คงต้องรอถึงช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวถึงการเจรจากับจีนเพื่อขอขยายเวลาให้หมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทย และการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาหมีแพนด้าร่วมไทย-จีนว่า ขณะนี้กำลังมีการประสานกับทางสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้าพูดคุยหารือในเรื่องดังกล่าวในเบื้องต้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไทย จะได้เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาในเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงปลายเดือน มิ.ย.52 นี้ โดยท่าทีของทางจีนในเบื้องต้นก็ยินดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
สำหรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาหมีแพนด้าร่วมไทย-จีน นั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า ตามปกติในประเทศจีนมีศูนย์ในลักษณะดังกล่าวกระจายอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ ทำหน้าที่ในการดูแลและวิจัยหมีแพนด้าเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของไทยนั้น หากมีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวก็จะทำงานประสานสอดคล้องกับศูนย์ที่มีอยู่ของจีน ทั้งนี้โดยศักยภาพที่มีอยู่ของโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย มั่นใจว่าจะสามารถยกระดับสู่การเป็นศูนย์ได้ และการจัดตั้งศูนย์นี้ก็จะทำให้หมีแพนด้าสามารถอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้เพื่อทำการศึกษาวิจัยในระยะยาว.
