รอยเตอร์/เอเอฟพี – ประชาชนชาวเกาหลีใต้ผู้อยู่ในอาการโศกเศร้า พากันออกมาตามท้องถนนในกรุงโซลจนทำให้การจราจรติดขัดเมื่อวานนี้(29) เพื่อร่วมไว้อาลัยในพิธีศพของอดีตประธานาธิบดีโนห์มูเฮียน ผู้ถึงแก่อสัญกรรมด้วยการฆ่าตัวตายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจที่เปลี่ยนแปลงภาพของเขาจากผู้นำที่ล้มเหลว กลายมาเป็นสายล่อฟ้าที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสนั่นต่อประธานาธิบดีลีมยองบัค ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากเขา
การเสียชีวิตของโนห์ กลายเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการแตกแยกทางการเมืองอย่างล้ำลึกในระบอบประชาธิปไตยอันเยาว์วัยของเกาหลีใต้ และมีรายงานว่าได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ร่วมไว้อาลัยกับพวกตำรวจปราบจลาจลในบริเวณศูนย์กลางของเมืองหลวง ขณะที่ผู้คนมหาศาลซึ่งตำรวจประมาณว่ามีราว 150,000 คน ออกมารวมตัวกันเพื่อเฝ้ารอขบวนศพของอดีตประธานาธิบดี
บริเวณใจกลางกรุงโซลกลายเป็นทะเลแห่งสีเหลือง อันถือเป็นสีของโนห์ ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกระโดดลงเหวขณะกำลังปีนเขา ภายหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องคอร์รัปชั่น พวกผู้สนับสนุนที่น้ำตาคลอช่วยกันผูกลูกโป่งสีเหลืองเป็นพันเป็นหมื่นลูกเอาไว้กับแผงกั้นของตำรวจตามเส้นทางที่ขบวนศพเคลื่อนผ่าน พร้อมกับโบกแผ่นป้ายที่เขียนข้อความว่า “วันนี้ไว้อาลัย วันพรุ่งนี้โกรธกริ้ว”
ระหว่างพิธีเคารพศพอย่างเป็นทางการซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ มีเสียงโห่ดังสนั่นออกมาจากฝูงชนเมื่อภาพจากจอทีวีขนาดยักษ์ แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีลีกำลังเคารพศพผู้นำประเทศคนก่อนหน้าเขา ที่เป็นเจ้าของนโยบายแนวเสรีนิยมจำนวนมากซึ่งเขาพยายามหาทางยกเลิก
โนห์พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 15 เดือนก่อน โดยที่ถูกประเมินกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำที่ไร้ฝีมือ และชัยชนะแบบถล่มทลายของผู้มีหัวอนุรักษนิยมอย่างลี ถูกตีความว่าคือการที่ประชาชนปฏิเสธนโยบายแบบเสรีนิยมที่ถูกใช้กันมาสิบกว่าปี
ทว่าลีกลับอยู่ในอาการซวนเซตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นครองอำนาจทีเดียว และเขาต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อผลักดันวาระปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างมโหฬารของเขาให้ผ่านรัฐสภา ทั้งๆ ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอยู่แท้ๆ
ความลำบากที่เขาต้องเผชิญนั้น ต้องรวมไปถึงเรื่องที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันจันทร์(25) โสมแดงนั้นมีสายสัมพันธ์ที่เลวร้ายยิ่งกับประธานาธิบดีลี ผู้ซึ่งกลับตาลปัตรนโยบายมุ่งผูกมิตรอะลุ้มอล่วยกับเปียงยาง โดยที่ลีประกาศระงับการให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือ แล้วสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ก็ยิ่งรุนแรง จนกระทั่งโสมแดงทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ในลักษณะมุ่งท้าทายโสมขาวและท้าทายทั่วโลก
หลังจาก 1 สัปดาห์แห่งการไว้อาลัย ซึ่งได้เห็นผู้คนเป็นล้านๆ เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศซึ่งจัดเป็นที่สำหรับคารวะรำลึกถึงโนห์ พิธีปลงศพของเขาก็จัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่บริเวณลานของพระราชวังเกือนบ็อก อันเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในอดีตซึ่งจัดสร้างกันขึ้นมาใหม่
นายกรัฐมนตรีฮันเซืองซุ กล่าวไว้อาลัยโดยบอกว่า โนห์ใช้ชีวิตของเขาในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน, ประชาธิปไตย, และการสิ้นสุดของลัทธิเผด็จการรวบอำนาจ และเรียกเขาว่าเป็นคนของประชาชน
พิธีทางการเสร็จสิ้นลงด้วยการยิงปืนใหญ่สลุต 21 นัด จากนั้นขบวนรถก็เคลื่อนช้าๆ ผ่านย่านใจกลางเมือง โดยที่จะมีการฌาปนกิจร่างของเขา และนำเถ้าถ่านกลับมาฝังในบริเวณใกล้ๆ กับหมู่บ้านบองฮา ที่เขาใช้ชีวิตหลังพ้นตำแหน่ง ทั้งนี้เป็นการปฏิบัติตามจดหมายลาตายที่โนห์ทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
การเสียชีวิตของโนห์ กลายเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการแตกแยกทางการเมืองอย่างล้ำลึกในระบอบประชาธิปไตยอันเยาว์วัยของเกาหลีใต้ และมีรายงานว่าได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ร่วมไว้อาลัยกับพวกตำรวจปราบจลาจลในบริเวณศูนย์กลางของเมืองหลวง ขณะที่ผู้คนมหาศาลซึ่งตำรวจประมาณว่ามีราว 150,000 คน ออกมารวมตัวกันเพื่อเฝ้ารอขบวนศพของอดีตประธานาธิบดี
บริเวณใจกลางกรุงโซลกลายเป็นทะเลแห่งสีเหลือง อันถือเป็นสีของโนห์ ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมด้วยการกระโดดลงเหวขณะกำลังปีนเขา ภายหลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องคอร์รัปชั่น พวกผู้สนับสนุนที่น้ำตาคลอช่วยกันผูกลูกโป่งสีเหลืองเป็นพันเป็นหมื่นลูกเอาไว้กับแผงกั้นของตำรวจตามเส้นทางที่ขบวนศพเคลื่อนผ่าน พร้อมกับโบกแผ่นป้ายที่เขียนข้อความว่า “วันนี้ไว้อาลัย วันพรุ่งนี้โกรธกริ้ว”
ระหว่างพิธีเคารพศพอย่างเป็นทางการซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ มีเสียงโห่ดังสนั่นออกมาจากฝูงชนเมื่อภาพจากจอทีวีขนาดยักษ์ แสดงให้เห็นว่าประธานาธิบดีลีกำลังเคารพศพผู้นำประเทศคนก่อนหน้าเขา ที่เป็นเจ้าของนโยบายแนวเสรีนิยมจำนวนมากซึ่งเขาพยายามหาทางยกเลิก
โนห์พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 15 เดือนก่อน โดยที่ถูกประเมินกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้นำที่ไร้ฝีมือ และชัยชนะแบบถล่มทลายของผู้มีหัวอนุรักษนิยมอย่างลี ถูกตีความว่าคือการที่ประชาชนปฏิเสธนโยบายแบบเสรีนิยมที่ถูกใช้กันมาสิบกว่าปี
ทว่าลีกลับอยู่ในอาการซวนเซตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นครองอำนาจทีเดียว และเขาต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อผลักดันวาระปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างมโหฬารของเขาให้ผ่านรัฐสภา ทั้งๆ ที่พรรคของเขาครองเสียงข้างมากอยู่แท้ๆ
ความลำบากที่เขาต้องเผชิญนั้น ต้องรวมไปถึงเรื่องที่เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันจันทร์(25) โสมแดงนั้นมีสายสัมพันธ์ที่เลวร้ายยิ่งกับประธานาธิบดีลี ผู้ซึ่งกลับตาลปัตรนโยบายมุ่งผูกมิตรอะลุ้มอล่วยกับเปียงยาง โดยที่ลีประกาศระงับการให้ความช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือ แล้วสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ก็ยิ่งรุนแรง จนกระทั่งโสมแดงทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ในลักษณะมุ่งท้าทายโสมขาวและท้าทายทั่วโลก
หลังจาก 1 สัปดาห์แห่งการไว้อาลัย ซึ่งได้เห็นผู้คนเป็นล้านๆ เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศซึ่งจัดเป็นที่สำหรับคารวะรำลึกถึงโนห์ พิธีปลงศพของเขาก็จัดขึ้นอย่างเป็นทางการที่บริเวณลานของพระราชวังเกือนบ็อก อันเป็นที่ประทับของกษัตริย์ในอดีตซึ่งจัดสร้างกันขึ้นมาใหม่
นายกรัฐมนตรีฮันเซืองซุ กล่าวไว้อาลัยโดยบอกว่า โนห์ใช้ชีวิตของเขาในการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน, ประชาธิปไตย, และการสิ้นสุดของลัทธิเผด็จการรวบอำนาจ และเรียกเขาว่าเป็นคนของประชาชน
พิธีทางการเสร็จสิ้นลงด้วยการยิงปืนใหญ่สลุต 21 นัด จากนั้นขบวนรถก็เคลื่อนช้าๆ ผ่านย่านใจกลางเมือง โดยที่จะมีการฌาปนกิจร่างของเขา และนำเถ้าถ่านกลับมาฝังในบริเวณใกล้ๆ กับหมู่บ้านบองฮา ที่เขาใช้ชีวิตหลังพ้นตำแหน่ง ทั้งนี้เป็นการปฏิบัติตามจดหมายลาตายที่โนห์ทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
