ASTVผู้จัดการารายวัน - อะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิค ประเทศไทย เผยครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค อะมาดิอุสยังเป็นผู้นำในตลาดสำรองและจำหน่ายที่นั่งออนไลน์ด้วยส่วนแบบการตลาด 41%
นายเดวิท เบรทท์ ประธานกรรมการ อะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า อะมาดิอุสฯได้พัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในปัจจุบัน โดยภายในไตรมาสแรกของปี 2552 อะมาดิอุสได้ขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% และทำให้เป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค อย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ระบบการสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารของอะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิค ลดลง 4% ในปี 2551 ซึ่งยังถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าการลดลงของตลาดระบบตัวแทนสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารทั่วโลก (GDS) ซึ่งตกลงมาถึง 7% อะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิค เป็นผู้นำในตลาดสำรองและจำหน่ายที่นั่งทางออนไลน์ด้วยตัวเลขการสำรองที่นั่งออนไลน์มากกว่า 40% จากทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค
อะมาดิอุสเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีสารสนเทศในอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทีย (Alt?a CMS) ได้รับการคัดเลือกจากพันธมิตรธุรกิจกลุ่มสายการบินสตาร์ อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ให้เป็นระบบปฏิบัติการอย่างเป็นทางการของบริษัท นอกจากนั้น ในปี 2551 ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทีย ยังได้รับเลือกจากสายการบิน
แควนตัส สายการบินแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย ให้เป็นระบบปฏิบัติการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของสายการบิน ซึ่งทำให้สายการบินแควนตัสเป็นสายการบินแห่งแรกในโลกที่ใช้ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทียอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้สายการบินชั้นนำอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เช่น สิงคโปร์ แอร์ไลน์และคาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังได้ติดตั้งและใช้ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทียด้วยเช่นกัน
“ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอเชีย แปซิฟิคในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากวิกฤตการณ์ฉุกเฉิน เช่น โรคระบาดไข้หวัดนก (SARS) และภัยธรรมชาติต่างๆ พันธมิตรในธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว ต่างก็ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและผลกำไร และเรายังคาดหวังที่จะเห็นความต้องการทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องแม้ในวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ายอดการสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารผ่านระบบออนไลน์และผ่านทางตัวแทนท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว”
ในประเทศไทยที่อะมาดิอุสเป็นเจ้าของส่วนแบ่งการตลาดรายใหญ่อยู่แล้ว แต่เราก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดอีก 1% ในปี 2551 ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดรวมถึง 76% ถึงแม้ว่าวิกฤตการณ์ทางด้านการเงินทั่วโลกและสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศจะส่งผลให้ผู้เดินทางเข้าประเทศลดลงเพียง 1.0% หรือ 14.3 ล้านคนในปี 2551
“ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ซึ่ง พันธมิตรหลักและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของไทย เช่น การบินไทยและโรงแรมในเครือเซ็นทารา มีส่วนส่งเสริมให้ธุรกิจของอะมาดิอุสแข็งแกร่งและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเรายังคงเดินหน้าเพื่อโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญๆ เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก” นายเบรทท์ กล่าว
นายเดวิท เบรทท์ ประธานกรรมการ อะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า อะมาดิอุสฯได้พัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น แม้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในปัจจุบัน โดยภายในไตรมาสแรกของปี 2552 อะมาดิอุสได้ขยายส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% และทำให้เป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค อย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ระบบการสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารของอะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิค ลดลง 4% ในปี 2551 ซึ่งยังถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าการลดลงของตลาดระบบตัวแทนสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารทั่วโลก (GDS) ซึ่งตกลงมาถึง 7% อะมาดิอุส เอเชีย แปซิฟิค เป็นผู้นำในตลาดสำรองและจำหน่ายที่นั่งทางออนไลน์ด้วยตัวเลขการสำรองที่นั่งออนไลน์มากกว่า 40% จากทั้งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค
อะมาดิอุสเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีสารสนเทศในอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว โดยระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทีย (Alt?a CMS) ได้รับการคัดเลือกจากพันธมิตรธุรกิจกลุ่มสายการบินสตาร์ อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ให้เป็นระบบปฏิบัติการอย่างเป็นทางการของบริษัท นอกจากนั้น ในปี 2551 ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทีย ยังได้รับเลือกจากสายการบิน
แควนตัส สายการบินแห่งชาติของประเทศออสเตรเลีย ให้เป็นระบบปฏิบัติการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของสายการบิน ซึ่งทำให้สายการบินแควนตัสเป็นสายการบินแห่งแรกในโลกที่ใช้ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทียอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้สายการบินชั้นนำอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เช่น สิงคโปร์ แอร์ไลน์และคาเธ่ย์ แปซิฟิค ยังได้ติดตั้งและใช้ระบบการบริหารจัดการลูกค้าอัลเทียด้วยเช่นกัน
“ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอเชีย แปซิฟิคในอดีตเคยเป็นตลาดที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง แต่ก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วจากวิกฤตการณ์ฉุกเฉิน เช่น โรคระบาดไข้หวัดนก (SARS) และภัยธรรมชาติต่างๆ พันธมิตรในธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว ต่างก็ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและผลกำไร และเรายังคาดหวังที่จะเห็นความต้องการทางด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องแม้ในวิกฤตเศรษฐกิจในขณะนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ายอดการสำรองและจำหน่ายที่นั่งโดยสารผ่านระบบออนไลน์และผ่านทางตัวแทนท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว”
ในประเทศไทยที่อะมาดิอุสเป็นเจ้าของส่วนแบ่งการตลาดรายใหญ่อยู่แล้ว แต่เราก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดอีก 1% ในปี 2551 ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดรวมถึง 76% ถึงแม้ว่าวิกฤตการณ์ทางด้านการเงินทั่วโลกและสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศจะส่งผลให้ผู้เดินทางเข้าประเทศลดลงเพียง 1.0% หรือ 14.3 ล้านคนในปี 2551
“ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเราในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ซึ่ง พันธมิตรหลักและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของไทย เช่น การบินไทยและโรงแรมในเครือเซ็นทารา มีส่วนส่งเสริมให้ธุรกิจของอะมาดิอุสแข็งแกร่งและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และเรายังคงเดินหน้าเพื่อโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญๆ เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในอนาคต เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลก” นายเบรทท์ กล่าว