"เทพไท" ยันรัฐบาลกู้เงินเพื่อลงทุน แตกต่าง "แม้ว" สร้างหนี้ประชาชน แนะ "ไอ้กี้ร์" ออกอัลบัมเพลง "รักในเรือนจำ" เปิดแสดงคอนเสิร์ตในคุกดีกว่า
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์พาดพิงถึงนโยบาย 99 วันของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อยากให้สังคมพิจารณานโยบายดังกล่าวว่าเวลา99 วันเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหรือไม่ เพราะวันนี้นโยบาย 99 วันนั้นได้มีผลปฏิบัติในทันที รัฐบาลได้ผลักดันโครงการที่จับต้องได้ เช่น โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยเลี้ยงให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ
"รัฐบาลประชาธิปัตย์กู้เพื่อมาลงทุน ต่างกับรัฐบาลทักษิณ อยู่ 6 ปีสร้างหนี้ให้ทุกครัวเรือน ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนเป็นผู้กู้ เพิ่มหนี้สินจาก 7 หมื่นบาทเป็น 1.4 แสนบาทต่อครัวเรือน รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เคยถูกฟ้องยึดทรัพย์จากการโกงกิน ทุจริตโครงการหลวง แต่รัฐบาลทักษิณถูกฟ้องในคดียึดทรัพย์ จึงไม่อยากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเอามาตรฐานของทักษิณมาเทียบเคียง"
แนะ"ไอ้กี้ร์" ออกอัลบัม "รักในเรือนจำ"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่วันนี้ที่ผู้ต้องหาคนสุดท้ายในเหตุการณ์ป่วนชาติช่วงสงกรานต์ที่เอาเอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.มาเป็นเกราะกำบังจนถึงนาทีสุดท้ายก็ได้ฤกษ์เข้ามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งคาดว่า จะขอประกันตัวต่อศาลยุติธรรม ตนอยากให้มีการบังคับใช้เงื่อนไขเดียวกันกับแกนนำ นปช. คนอื่นๆ ที่มอบตัวไปแล้วก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัด เพราะมีการประกาศแล้วว่า จะจัดโปรแกรมทัวร์คอนเสิร์ตใน 4 จังหวัด ภาคอีสาน ควบคู่ไปกับการจัดนิทรรศการทางการเมือง ซึ่งตนเกรงว่าจะใช้การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยขึ้นมาอีก เพราะมั่นใจว่าจะฉวยใช้โอกาสนี้บิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลแน่นอน
"การอ้างว่าจะเป็นการเปิดอัลบั๊มเพลงชุด รักในโฟนอิน ของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และรักในมหาดไทย ของนายสุภร อัตถาวงศ์ นั้น ก็เป็นการอ้างความบันเทิงบังหน้า จึงอยากเสนอแนะว่า แกนนำ นปช.ไม่ควรจะออกอัลบั๊มเพลงหลายชุด แต่อยากให้รวมกันเป็นชุดเดียวโดยใช้ชื่อว่า รักในเรือนจำ และไม่ควรใช้นักร้องเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะฐานะของนักร้องเหล่านี้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาก็หลายคน จึงน่าจะรวบรวมเป็นวงเดียวกัน ในลักษณะวงประสานเสียง ซึ่งไม่จำเป็นต้องออกทัวร์คอนเสิร์ตในภาคอีสาน แต่ให้รอคอยการแสดงคอนเสิร์ตในคุก เพื่อปลอบขวัญนักโทษด้วยกันจะดีกว่า" นายเทพไทกล่าว.
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมาวิจารณ์พาดพิงถึงนโยบาย 99 วันของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า อยากให้สังคมพิจารณานโยบายดังกล่าวว่าเวลา99 วันเป็นไปตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหรือไม่ เพราะวันนี้นโยบาย 99 วันนั้นได้มีผลปฏิบัติในทันที รัฐบาลได้ผลักดันโครงการที่จับต้องได้ เช่น โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยเลี้ยงให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ
"รัฐบาลประชาธิปัตย์กู้เพื่อมาลงทุน ต่างกับรัฐบาลทักษิณ อยู่ 6 ปีสร้างหนี้ให้ทุกครัวเรือน ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนเป็นผู้กู้ เพิ่มหนี้สินจาก 7 หมื่นบาทเป็น 1.4 แสนบาทต่อครัวเรือน รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เคยถูกฟ้องยึดทรัพย์จากการโกงกิน ทุจริตโครงการหลวง แต่รัฐบาลทักษิณถูกฟ้องในคดียึดทรัพย์ จึงไม่อยากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเอามาตรฐานของทักษิณมาเทียบเคียง"
แนะ"ไอ้กี้ร์" ออกอัลบัม "รักในเรือนจำ"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่วันนี้ที่ผู้ต้องหาคนสุดท้ายในเหตุการณ์ป่วนชาติช่วงสงกรานต์ที่เอาเอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.มาเป็นเกราะกำบังจนถึงนาทีสุดท้ายก็ได้ฤกษ์เข้ามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งคาดว่า จะขอประกันตัวต่อศาลยุติธรรม ตนอยากให้มีการบังคับใช้เงื่อนไขเดียวกันกับแกนนำ นปช. คนอื่นๆ ที่มอบตัวไปแล้วก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัด เพราะมีการประกาศแล้วว่า จะจัดโปรแกรมทัวร์คอนเสิร์ตใน 4 จังหวัด ภาคอีสาน ควบคู่ไปกับการจัดนิทรรศการทางการเมือง ซึ่งตนเกรงว่าจะใช้การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยขึ้นมาอีก เพราะมั่นใจว่าจะฉวยใช้โอกาสนี้บิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้ายป้ายสีรัฐบาลแน่นอน
"การอ้างว่าจะเป็นการเปิดอัลบั๊มเพลงชุด รักในโฟนอิน ของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และรักในมหาดไทย ของนายสุภร อัตถาวงศ์ นั้น ก็เป็นการอ้างความบันเทิงบังหน้า จึงอยากเสนอแนะว่า แกนนำ นปช.ไม่ควรจะออกอัลบั๊มเพลงหลายชุด แต่อยากให้รวมกันเป็นชุดเดียวโดยใช้ชื่อว่า รักในเรือนจำ และไม่ควรใช้นักร้องเป็นศิลปินเดี่ยว เพราะฐานะของนักร้องเหล่านี้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาก็หลายคน จึงน่าจะรวบรวมเป็นวงเดียวกัน ในลักษณะวงประสานเสียง ซึ่งไม่จำเป็นต้องออกทัวร์คอนเสิร์ตในภาคอีสาน แต่ให้รอคอยการแสดงคอนเสิร์ตในคุก เพื่อปลอบขวัญนักโทษด้วยกันจะดีกว่า" นายเทพไทกล่าว.
