xs
xsm
sm
md
lg

ศาลแพ่งสั่งให้"ทนายสมชาย" บุคคลสาบสูญถึงแก่ความตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(18 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลไต่สวนคำร้องหมายเลขดำที่ 1026/2552 ที่นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายสมชาย เป็นบุคคลสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61 วรรคหนึ่ง และ (3) ที่นายสมชายหายตัวไปจากภูมิลำเนา ครบ 5 ปี ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือหายตัวไปโดยตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีอันตรายถึงชีวิต
โดยนางอังคณา เดินทางมาพร้อมกับน.ส.ประทับจิตร บุตรสาว ซึ่งกำลังศึกษาอยู่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งการเบิกความนางอังคณา ผู้ร้อง เข้าไต่สวนเป็นพยานเพียงปากเดียว ระบุว่า นายสมชาย เดินทางออกจากบ้านไปส่งบุตรไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.47 และจนถึงวันที่ 12 มี.ค.47 นายสมชาย ก็ไม่ได้เดินทางกลับมา ทั้งที่ในวันที่ 14 มี.ค. นายสมชาย มีภารกิจต้องเดินทางไปร่วมพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ซึ่งพยายามติดต่อนายสมชาย แล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ ดังนั้น เมื่อถึงวันที่ 14 มี.ค. จึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะเมื่อออกจากบ้านนายสมชาย ได้ขับรถยนต์ซีวิค สีเขียวออกไป แต่หลังจากแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนแจ้งว่าระหว่างวันที่ 12 -14 มี.ค. ไม่พบการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
จากนั้นเมื่อมีข่าวการหายตัวไปของนายสมชาย เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นหัวหน้าชุดติดตามตัว ต่อมาดีเอสไอ จึงแจ้งให้ไปตรวจสอบรถยนต์ซีวิค ของนายสมชาย ซึ่งถูกจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 แล้วพบมีรอยเฉี่ยวชนที่ด้านท้ายฝั่งขวา ด้านคนขับ จากนั้นได้มีการขออนุมัติหมายจับ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก กับพวก ซึ่งเป็นนายตำรวจกองปราบปราม รวม 5 คน และมีการดำเนินคดีข้อหาความผิดต่อเสรีภาพ ซึ่งอัยการยื่นฟ้อง พ.ต.ต.เงิน กับพวก ต่อศาลอาญา แล้วศาลพิพากษาจำคุก พ.ต.ต.เงิน 3 ปี ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ ขณะที่เวลานี้คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
นางอังคณา เบิกความต่อว่า เชื่อว่าที่นายสมชาย หายตัวไปสืบเนื่องจากการร้องเรียนกรณีที่ 5 ผู้ต้องหาคดีเผาโรงเรียน ปล้นปืนภาคใต้ ถูกตำรวจซ้อม ซึ่ง 2 ใน 5 จำเลยคดีอุ้มนายสมชาย ถูกแต่งตั้งเป็นพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว โดยการหายตัวไปของนายสมชาย เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.48 คณะทำงานองค์การสหประชาชาติ ได้รับคดีไว้ติดตามความคืบหน้า ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี, รมว.ยุติธรรม, อธิบดีดีเอสไอ, ป.ป.ช. เพื่อติดตามและเร่งรัดการสืบหาตัวนายสมชาย รวมทั้งการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ 5 นายตำรวจ และเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.48 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น เคยเรียกเข้าไปพบเพื่อพูดคุยการหายตัวของนายสมชายที่บ้านพิษณุโลก ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เชื่อว่านายสมชายเสียชีวิตแล้ว และต่อมาพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีผู้แจ้งเบาะแสว่านายสมชายหายไปไหน โดยปกตินายสมชาย ไม่เคยมีพฤติกรรมไปที่ใดแล้วไม่บอกให้ทราบ และไม่มีเรื่องชู้สาว แต่นายสมชาย เป็นคนรักครอบครัวและมีความรับผิดชอบสูง อีกทั้งที่ผ่านมาตามแนวทางการสอบสวนคดีของดีเอสไอ ก็มุ่งประเด็นการสืบหาชิ้นส่วนนายสมชาย ซึ่งเชื่อว่าถูกฆ่าและเผาทำลาย ที่แม่น้ำ แม่กลอง จ.ราชบุรี มากกว่า การหาตัวนายสมชาย ดังนั้นเชื่อว่านายสมชายน่าจะเสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47
โดยการยื่นคำร้องครั้งนี้ เพื่อจะเข้าไปจัดการทรัพย์สินของนายสมชาย ประกอบด้วย เงินสดในบัญชีเงินฝาก ธ.กสิกรไทย สาขา ถนนมหาไชย, โฉนดที่ดิน เขตหนองจอก กทม., รถยนต์ซีวิค และอาคารชุดบ้านรัชโยธิน กทม.
ทั้งนี้ภายหลังที่ศาลได้ไต่สวนนางอังคณา ผู้ร้อง แล้ว ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ ประกอบพยานเอกเอสารแล้ว มีคำสั่งให้ นายสมชาย เป็นบุคคลสาบสูญ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61 โดยให้ถือว่า นายสมชาย ซึ่งศาลมีคำสั่งให้สาบสูญ ถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 62 โดยศาลจะลงประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป
โดยนางอังคณา กล่าวย้ำว่า ตนเตรียมจะยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอเป็นผู้จัดการมรดก ต่อไปตามกฎหมาย เพื่อจะเข้าจัดการนิติกรรมทรัพย์สินต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น